วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ก.ก.ดิ้นสู้ยุบพรรค  ส่งความเห็น‘พยาน’ให้ศาลรธน.  เปิด4ปมอ้างยุบพรรคทำลายปชต.

ก.ก.ดิ้นสู้ยุบพรรค ส่งความเห็น‘พยาน’ให้ศาลรธน. เปิด4ปมอ้างยุบพรรคทำลายปชต.

วันเสาร์ ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : ก้าวไกล คดียุบพรรค
  •  

ก.ก.ดิ้นสู้ยุบพรรค

ส่งความเห็น‘พยาน’ให้ศาลรธน.

เปิด4ปมอ้างยุบพรรคทำลายปชต.

“ก้าวไกล” เดินหน้า สู้คดียุบพรรค เปิด 4 ประเด็นความเห็น บันทึกถ้อยคำ “อ.สุรพล นิติไกรพจน์” หนึ่งในพยาน “ก้าวไกล” ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ห่วงยุบพรรคจะทำให้เกิดเผด็จการรัฐสภาและทำลายระบอบประชาธิปไตย ขอทุกฝ่ายมีนโนธรรม

เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊ก พรรคก้าวไกล เผยแพร่ความเห็น 4 ประเด็นของ นายสุรพล นิติไกรพจน์ ศาสตราจารย์ทางด้านกฎหมายมหาชน นายกสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. ซึ่งเป็นหนึ่งในพยานของพรรคก้าวไกล ที่ทำบันทึกถ้อยคำ ยืนยันข้อเท็จจริงหรือความเห็นไปยังศาลรัฐธรรมนูญในคดี ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ร้องศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรคก้าวไกล กรณีถูกกล่าวหาว่าปฏิปักษ์หรือล้มล้างการปกครอง เมื่อวันที่ 9 ก.ค.ที่ผ่านมา


โดยนายสุรพล ได้ให้ความเห็นต่อคำร้องของ กกต.ใน 3 ประเด็นหลักเกี่ยวกับคดีนี้ได้แก่1.คำร้องยุบพรรคก้าวไกลของ กกต. ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่? การยื่นคำร้องยุบพรรคการเมืองของ กกต. ต้องดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.92 และ ม.93 ซึ่ง ม.92 เป็นบทบัญญัติที่กำหนดเหตุแห่งการยุบพรรคการเมือง และ ม.93 เป็นบทบัญญัติที่กำหนดกระบวนการขั้นตอนให้ กกต. ดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่ง “หลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า” อันเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคเสียก่อน โดย กกต. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเพิ่มเติมไว้ตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานของนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณี กกต. มีมติเสนอคำร้องยุบพรรคก้าวไกลนั้น ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เพราะไม่กระทำตามกระบวนการขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด ดังนั้น ต้องถูกเพิกถอนไป

การใช้การตีความกฎหมาย จะต้องเป็นไปโดยสอดคล้องกันทั้งระบบและเป็นเอกภาพ ไม่ก่อให้เกิดผลประหลาดในทางระบบกฎหมาย กรณีที่ กกต. เห็นว่า ม.92 คือช่องทางการยื่นยุบพรรคช่องทางหนึ่ง และ ม.93 คืออีกช่องทางหนึ่งนั้น ส่งผลให้วิธีการเสนอคำร้องยุบพรรคมี 2 กระบวนการที่แตกต่างกันอย่างมาก กล่าวคือ แบบที่หนึ่ง ไม่ต้องเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองได้รับทราบข้อกล่าวหาตลอดจนชี้แจงโต้แย้งพยานหลักฐาน แต่ กกต. สามารถยื่นคำร้องต่อศาล รธน. ได้เลย ส่วนแบบที่สอง เปิดโอกาสให้พรรคการเมืองได้รับทราบข้อกล่าวหาตลอดจนชี้แจงโต้แย้งพยานหลักฐานต่อ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้วทั้ง 2 มาตราเป็นเหตุแห่งการยุบพรรคเช่นเดียวกัน ต้องยื่นคำร้องให้ศาล รธน. พิจารณาเช่นเดียวกัน และจะส่งผลร้ายแรงถึงขั้นยุบพรรคเช่นเดียวกัน การใช้และตีความกฎหมายเช่นนี้จะก่อให้เกิดผลประหลาดในทางกฎหมาย เช่นนี้แล้วจะบัญญัติ ม.93 และระเบียบ กกต.ฯ ไว้ในกฎหมายเพื่อเหตุผลใด

กกต.ไม่สามารถอ้างคำวินิจฉัยศาล รธน. ที่ 3/2567 มาเป็นฐานในการยื่นยุบพรรคก้าวไกลโดยจงใจไม่ทำตามกระบวนการขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดได้ เนื่องจากเป็นคนละกรณีที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง อีกทั้งยังมีกระบวนการขั้นตอนนำคดีขึ้นสู่ศาล ตลอดจนผลในทางกฎหมายที่แตกต่างกัน

2. การกระทำตามคำร้องในคดียุบพรรคก้าวไกลเป็นการล้มล้างการปกครองฯ หรืออาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือไม่? เมื่อพิจารณาการกระทำตามคำร้องในคดียุบพรรคก้าวไกล ซึ่งมีหลายการกระทำที่มิใช่การกระทำของพรรค แต่เป็นการกระทำในฐานะปัจเจกบุคคลหรือเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ของ สส. เห็นได้ว่า มิได้เป็นการใช้กำลังบังคับหรือเป็นการกระทำโดยใช้ความรุนแรงเพื่อให้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขสิ้นสุดลง หรือเป็นการกระทำที่ใช้อำนาจตาม รธน. เพื่อแก้ไขเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองไปเป็นแบบอื่นแต่ประการใด

กล่าวคือ (1) กรณีการเข้าชื่อเสนอร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา ม.112 เป็นเพียงการที่ สส. ใช้อำนาจนิติบัญญัติในการเสนอให้รัฐสภาพิจารณาแก้ไขกฎหมายเท่านั้น อันเป็นการกระทำที่ชอบด้วยวิถีทางของ รธน. อีกด้วย วิญญูชนทั่วไปย่อมไม่อาจมีทางที่จะเห็นไปได้โดยสามัญสำนึกว่าการเสนอร่างกฎหมายจะเป็นการบ่อนเซาะทำลายระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขดังที่ กกต. เสนอความเห็นต่อศาล รธน. ได้

(2) กรณีการเสนอนโยบายแก้ไข ม.112 ตลอดจนการนำนโยบายมาหาเสียงและเผยแพร่นั้น เป็นการนำเสนอนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในบ้านเมือง โดยมุ่งเน้นประนีประนอมกลุ่มความคิดต่างๆ ในเรื่องนี้ ซึ่งก็คือเรื่องที่ว่าควรจะต้องมีบทบัญญัติคุ้มครองประมุขของรัฐมิให้ถูกหมิ่นประมาท หรือดูหมิ่นในระดับใดและภายใต้เงื่อนไขใดจึงจะเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเพื่อประคับประคองระบอบประชาธิปไตยให้ดำรงอยู่ต่อไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น กกต. ก็เคยพิจารณาวินิจฉัยยกคำร้องกรณีนโยบายหาเสียงเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติม ม.112 ของพรรคก้าวไกลไว้แล้ว และการนำเสนอนโยบายแก้ไข ม.112 มาใช้หาเสียงเลือกตั้งของพรรคก้าวไกลก็มิได้เป็นการกระทำที่ขัดต่อ พ.ร.ป. การเลือกตั้ง สส. แต่อย่างใด ด้วย กกต. ก็มิได้เคยมีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายหรือสั่งห้ามนำเสนอนโยบายดังกล่าวในการหาเสียงแต่อย่างใดเลย

(3) กรณีการแสดงออกผ่านการรณรงค์ การปรากฏตัวในที่ชุมนุมของ สส. ที่เป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล มิใช่เป็นการกระทำของพรรคก้าวไกล หากแต่เป็นการใช้เสรีภาพส่วนบุคคลที่ไม่ขัดหรือแย้งต่อกฎหมาย (4) กรณีการเป็นนายประกันให้แก่ผู้ต้องหาหรือจำเลย หรือการเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย ในคดีตาม ม.112 ของสมาชิกพรรคก้าวไกลนั้น เห็นว่า การที่ สส. ใช้ตำแหน่งประกอบคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหาหรือจำเลย มิได้หมายความว่า สส. ผู้นั้นจะเห็นด้วยหรือสนับสนุนการกระทำของผู้ต้องหาหรือจำเลย ทำนองเดียวกับการเป็นทนายความหรือผู้พิพากษาแห่งคดีนั้น นอกจากนี้การกระทำของสมาชิกพรรคกับการกระทำของพรรคเป็นคนละการกระทำกัน หากสมาชิกพรรคถูกกล่าวหาว่ากระทำผิดก็เป็นการกระทำที่ผู้นั้นต้องรับผิดชอบในการกระทำนั้นเอง ไม่ใช่พรรคการเมืองที่สังกัดอยู่ หากพรรคต้องมารับผิดด้วยย่อมเกิดผลประหลาดในทางกฎหมาย เพราะเป็นการนำการกระทำของบุคคลใดบุคคลหนึ่งมาทำลายเสรีภาพในการรวมตัวกันเป็นพรรคการเมืองของบุคคลอื่นทั้งหมด

3. ศาลรัฐธรรมนูญควรพิจารณาให้ยุบพรรคก้าวไกลหรือไม่? มาตรการยุบพรรคการเมืองเป็นมาตรการในการธำรงรักษาประชาธิปไตย แต่กระนั้นการใช้มาตรการนี้ต้องใช้อย่างระมัดระวัง มิเช่นนั้นอาจนำไปสู่การทำลายระบอบประชาธิปไตยในที่สุด หากการยุบพรรคเป็นไปโดยไม่คำนึงถึงความชอบด้วยกฎหมายและ รธน. และไม่คำนึงถึงบริบทสภาพแวดล้อมของระบบการเมืองแล้ว อาจส่งผลร้ายในอนาคต อันได้แก่ การทำลายดุลยภาพในทางการเมืองระหว่างฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาล ซึ่งอาจนำไปสู่ระบบเผด็จการรัฐสภา คำวินิจฉัยยุบพรรคการเมืองจึงต้องถูกใช้ในกรณีที่เป็นข้อยกเว้นอย่างแท้จริงเท่านั้น กล่าวคือ เฉพาะกรณีที่การกระทำของพรรคที่ต้องถูกยุบนั้นขัดหรือแย้งกับอุดมการณ์พื้นฐานของการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีการแสดงออกที่ชัดแจ้งว่าต้องการเปลี่ยนแปลงด้วยความรุนแรง เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองโดยไม่เป็นไปตามวิถีทางแห่ง รธน. และมีเหตุผลอย่างหนักแน่นว่าไม่มีหนทางอื่นใดที่จะทำได้นอกจากการยุบพรรคการเมืองนั้น สำหรับการกระทำตามคำร้องให้ยุบพรรคก้าวไกล ล้วนเป็นการใช้อำนาจหน้าที่หรือเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพตาม รธน. อันเป็นวิสัยปกติ เป็นการกระทำที่อยู่ในวิถีทางแห่ง รธน. จึงไม่เป็นเหตุแห่งการยุบพรรค

สุดท้าย นายสุรพล ยังเสนอความเห็นเพิ่มเติมต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยว่า การพยายามแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่ซับซ้อนของชาติด้วยการวินิจฉัยยุบพรรคการเมืองที่เป็นปฏิปักษ์ เป็นกระบวนการที่ได้ใช้มาแล้วหลายครั้งโดยศาลรัฐธรรมนูญและแต่ละครั้งก็ไม่เคยทำให้เกิดทางออกหรือทางเลือกใหม่ที่จะช่วยคลี่คลายวิกฤติทางการเมืองที่เป็นอยู่ ในทางตรงกันข้าม กลับสร้างความโกรธแค้นชิงชังในทางการเมืองให้มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น และยิ่งจะทำให้สถานการณ์ทางการเมืองของประเทศที่อยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายอยู่แล้ว กลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ดังนั้น นอกจากประเด็นข้อกฎหมายที่ได้ให้ความเห็นมาแล้วข้างต้นทั้งหมด ข้าพเจ้าใคร่ขอกราบเรียนต่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญด้วยความเคารพที่จะได้กรุณาใช้มโนธรรมและความรัก ความห่วงใยในประเทศชาติและประชาชนชาวไทยโดยรวม ในการวินิจฉัยชี้ขาดคดีนี้ด้วยเช่นกัน

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • โวยปปช.จงใจ  44อดีตสส.ก้าวไกลดิ้นหนัก  กลัวโดนเชือดคดีแก้ม.112 โวยปปช.จงใจ 44อดีตสส.ก้าวไกลดิ้นหนัก กลัวโดนเชือดคดีแก้ม.112
  • 44ก้าวไกลระทึก!  คดีแก้ม.112คาดจบกลางปี 44ก้าวไกลระทึก! คดีแก้ม.112คาดจบกลางปี
  • \'เลขาฯ ป.ป.ช.\'เผยคดี\'44สส.ก้าวไกล\'ถึงขั้นตอนท้ายๆ แล้ว คาดจบในปีนี้หรือครึ่งปี 'เลขาฯ ป.ป.ช.'เผยคดี'44สส.ก้าวไกล'ถึงขั้นตอนท้ายๆ แล้ว คาดจบในปีนี้หรือครึ่งปี
  • \'เจิมศักดิ์\'ชี้บ้านเมืองกำลังจะพินาศ อย่าปล่อยให้เด็กอมมือบริหาร 'เจิมศักดิ์'ชี้บ้านเมืองกำลังจะพินาศ อย่าปล่อยให้เด็กอมมือบริหาร
  • ‘ณัฐวุฒิ’รับทราบข้อกล่าวหาป.ป.ช.ปมแก้112 โวยตัดสิทธิเหมือนประหารชีวิตการเมือง ‘ณัฐวุฒิ’รับทราบข้อกล่าวหาป.ป.ช.ปมแก้112 โวยตัดสิทธิเหมือนประหารชีวิตการเมือง
  • ‘อนุสรณ์’ชี้คดี‘44 สส.อดีตก้าวไกล’ ไม่กระทบการทำงานสภา-รัฐบาล ‘อนุสรณ์’ชี้คดี‘44 สส.อดีตก้าวไกล’ ไม่กระทบการทำงานสภา-รัฐบาล
  •  

Breaking News

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved