วันพุธ ที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
สว.สายอิสระลั่นชน‘สีน้ำเงิน’ ชิงเก้าอปธ.วุฒิ เปลี่ยนเกม-ปรับแผนอุตลุด

สว.สายอิสระลั่นชน‘สีน้ำเงิน’ ชิงเก้าอปธ.วุฒิ เปลี่ยนเกม-ปรับแผนอุตลุด

วันจันทร์ ที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag :
  •  

สว.สายอิสระลั่นชน‘สีน้ำเงิน’

ชิงเก้าอปธ.วุฒิ

เปลี่ยนเกม-ปรับแผนอุตลุด

‘อังคณา’สุดทนแฉอีกไม่ยั้ง

ยื่นเงื่อนไขให้เป็นรายเดือน

“สว.สายสีน้ำเงิน”ได้รับสัญญาณ ให้นิ่งสงบสยบเคลื่อนไหว เปิดช่อง“ก๊วนอื่น” ได้ทีวิ่งล็อบบี้เก้าอี้สำคัญฝุ่นตลบ หลัง “2เต็งจ๋า” ชิงประธานวุฒิฯถูกรุมถล่มกดดัน ด้าน “นพดล” ยันเป็นอิสระ ขอรอฟังวิชั่นก่อนเคาะเลือก “อังคณา”แฉยับสว.ตั้งกลุ่มต่อรองตำแหน่ง เสนอเงื่อนไขดูแลรายเดือน

เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวของสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ชุดใหม่ ภายหลังจากที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เปิดให้รับรายงานตัวมาแล้ว2วัน โดยเฉพาะซีก สว.กลุ่มใหญ่ หรือ สว.สายสีน้ำเงิน มีรายงานว่า ได้รับสัญญาณให้วางตัวนิ่งเงียบ ไม่ให้มีการการเคลื่อนไหวใด ซึ่งในกรณีที่ถ้าหากนายมงคล สุระสัจจะ สว.และพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. ไม่พร้อม ก็ต้องมองหาคนอื่น หรือวางแนวทางใหม่ว่าจะดำเนินอย่างไรทั้งนี้ การที่ยังไร้สัญญาณมาจากสว.สายสีน้ำเงิน ก็อาจจะทำให้สว. กลุ่มอื่นๆเดินเกมวิ่งล็อบบี้ต่อรองตำแหน่ง ประธาน รองประธานวุฒิสภา หรือแม้แต่กระทั่งตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการฯคณะต่างๆกันฝุ่นตลบ เพราะทั้งนายมงคล และพล.อ.เกรียงไกร เอง ขณะนี้ก็ยังไม่แน่นอนว่า จะรับตำแหน่งหรือไม่ หลังจากถูกกระแสโจมตี กดดัน ทั้งสว.ด้วยกันเอง และจากสังคม ดังนั้นเป็นไปได้ว่าสว.สายสีน้ำเงิน อาจจะต้องมีการพิจารณาหรือทบทวน เพื่อให้ภาพพจน์ออกมาดีที่สุด ขณะที่สว.กลุ่มอิสระต่างๆ ขณะนี้ได้จับกลุ่มเตรียมเปิดตัวคนชิงเก้าอี้ในตำแหน่งสำคัญๆกันอย่างคึกคัก


ด้านนายนพดล พริ้งสกุล สว. กลุ่ม 13 ผู้ประกอบอาชีพด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีการสื่อสารการพัฒนา นวัตกรรม หรืออื่นๆในทำนองเดียวกัน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีใครทาบทามหรือติดต่อให้ไปลงคะแนนเสียงให้กับใคร มีแต่ทักมาทางไลน์ เพื่อขอเป็นเพื่อน ซึ่งตนเป็นสว.อิสระ ไม่อยู่กับใคร แต่ตนมีเพื่อนกับทุกคนที่คุยกับตน เพราะฉะนั้นตนอยากฟังวิสัยทัศน์ของคนที่จะมาเป็นประธานและรองประธานวุฒิสภา ก่อนตัดสินใจ โดยยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นหลัก โดยไม่มีผลประโยชน์อื่นใดเข้ามาเกี่ยวข้อง คนไหนที่ทำให้ประเทศชาติได้ประโยชน์ก็จะเลือกคนนั้น

ไม่สบายใจถูกจับโยงมั่ว

นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา สว.กลุ่มผู้สูงอายุ คนพิการ กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่น ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของ สว.กลุ่มต่างๆ เพื่อชิงตำแหน่งประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาว่า ตนไม่ได้รับการติดต่อให้สนับสนุนหรือโหวตให้กับบุคคลใดตามที่มีชื่อปรากฎในสื่อมวลชน อย่างไรก็ดีตนมองว่าบุคคลที่จะทำหน้าที่เป็นประมุขสภาสูงนั้นต้องเป็นคนที่มีความรู้ และที่สำคัญต้องไม่แบ่งสีต่างๆ เพราะตนมองว่าเรื่องการแบ่งสี แบ่งกลุ่มในวุฒิสภาไม่ควรเกิดขึ้น เพราะสว.ที่ได้รับเลือกเข้ามาทำหน้าที่ต้องเป็นสว.ที่ทำงานเพื่อชาติ เพื่อประชาชน โดยใช้องค์ความรู้ของตนเองที่มีอย่างเต็มที่

“ผมไม่อยากให้ สว.ถูกย้อมสี เพราะแต่ละคนที่เข้ามาล้วนมีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ อย่างไรก็ดียอมรับว่าจากการที่มีการออกข่าวแบ่งสีแบ่งกลุ่มสว.นั้น มีสว.หลายคนไม่สบายใจและเห็นร่วมกันว่าเพื่อแสดงจุดยืนต่อสังคมและเพื่อเรียกความศรัทธา เชื่อมั่นของสภาสูงต่อประชาชน ควรมีการแถลงจุดยืนที่ชัดเจนต่อสาธารณ ในฐานะที่เป็นสว.อิสระ เข้ามาทำงานเพื่อประเทศ และประชาชน ซึ่งผมเตรียมแถลงข่าวก่อนการเปิดประชุมสภา” เพื่อเรียกความเชื่อมั่นให้สภาสูง” นายยุคล กล่าว

รอการแถลงวิสัยทัศน์

เมื่อถามว่าขณะนี้มีการประกาศตัวชัดเจน เช่น สว.พันธุ์ใหม่ จะทำให้เป็นภาพแบ่งแยกหรือไม่ นายยุคล กล่าวว่า ตนเชื่อว่ากลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ ที่นำโดยนางนันทนา นันทวโรภาส สว. สายสื่อมวลชน จะคำนึงถึงการทำงานเพื่อประชาชนและจะหลอมรวมร่วมทำงานด้วยกันได้ เมื่อถามถึงมุมมองต่อแคนดิเดตประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภาที่ออกมา นายยุค กล่าวว่า ตนอยากให้ ผู้ที่ถูกเสนอชื่อได้แสดงวิสัยทัศน์ เพื่อแสดงให้ สว.ได้เห็นก่อนลงมติ ทั้งนี้เพื่อให้การตัดสินใจเลือกนั้น เป็นไปโดยการตัดสินใจของสว. ไม่ใช่เกิดจากการชี้นำและที่สำคัญต้องสลายสี ในสภาสูง เราต้องไม่มีพรรคการเมือง เราเป็นสมาชิกวุฒิสภาของประเทศไทย ทุกคนล้วนมีประสบการณ์ ดังนั้นต้องทำงานเพื่อส่งไม้ต่อให้ลูกหลานต่อไป เป็นสภาสีขาวของประเทศแท้จริงไม่มีพรรค

เลขาวุฒิสภาแถลง15กค.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักเลขาธิการวุฒิสภาได้แจ้งผ่านกลุ่มไลน์สื่อมวลชนประจำรัฐสภา ว่า ภายหลังรับการแสดงตนของสมาชิกวุฒิสภาครบตามจำนวนในวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 น.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา จะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการดำเนินการขั้นตอนหลังจากนี้ โดยในวันแรกของการเปิดประชุม พล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี ในฐานะ สว.ที่มีอายุมากที่สุด 78 ปี จะทำหน้าที่เป็นประธานชั่วคราว ในวาระการเลือกประธานวุฒิสภา

เสนอเงื่อนไขดูแลรายเดือน

นางอังคณา นีละไพจิตร สมาชิกวุฒิสภา(สว.) เปิดเผยถึงกรณ๊มีกระแสข่าวมีการล็อบบี้ สว.ว่า ส่วนตัวไม่มีเลย แต่ว่าได้คุยกับบางคนที่อายุยังไม่มาก เขาก็เล่าให้ฟังว่ามีคนโทรศัพท์มา ก็มีแบบสัญญาว่าจะให้อะไรแบบนี้ ตัวเลขอาจจะเป็นแบบเงินเดือนเพิ่มเติม มีอะไรให้แบบนี้ เขาก็มีพูดให้ฟัง อันนี้เท็จจริงก็แล้วแต่ แต่เราก็รับฟัง แล้วก็คนที่แบบบอกว่าผมก็อยู่กับพวกคุณ แล้วเราจะเสนอคนนี้เป็นรองประธานวุฒิสภา เราก็แบบอ้าวมาจากไหน คนนี้เราไม่เคยรู้จักเลยด้วยซ้ำไป ที่เข้าใจก็คือ จะมีคนที่แบบพยายามจะรวมกลุ่มคนที่ไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนใหญ่ เพื่อที่จะไปต่อรองขอรับตำแหน่ง แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะมาเอาชื่อเราไปรวมอยู่ด้วย เพราะรู้สึกมีความพยายามรวบรวม และเท่าที่ทราบก็มีบางคนที่เขาติดเข้าไปอยู่ในหลายกลุ่ม แล้วบอกว่ากลุ่มตัวเองมีอยู่ 30 คน เพราะฉะนั้นต้องได้หนึ่งตำแหน่ง อะไรแบบนี้ ตรงนี้ก็ได้ยินอยู่ แต่ว่าจริงหรือไม่จริงก็ไม่ทราบ

หาช่องเชิญเข้ากลุ่ม

นางอังคณากล่าวว่า ที่ได้ยินกับตัวเอง ก็คือมีคนมาพูดว่า มีคนที่อยากจะมาอยู่กลุ่มกับเรา แล้วเราจะเสนอเขาเป็นรองประธานวุฒิสภา พอได้ยิน เราก็คิดว่า เขาเป็นใครหรือ ไม่เคยเห็นหน้าเลย ไม่เคยได้ยินเสียง แล้วอยู่ดีๆ จะมาอะไรได้ยังไง ก็มีอยู่ แต่ก็ไม่ได้มีใครมาคุยกับเรา คิดว่าทุกคนก็ระมัดระวัง เพราะหากว่าพบมีการไปปรากฏตัวอยู่ด้วยกัน ทุกคนก็ระมัดระวัง แต่ก็จะเหมือนมีแบบ มีตัวแทนที่คอยเข้ามา แล้วก็บอกว่า ผมมีพวกอยู่อีก 2-3 คน แล้วมาพูดว่า คนนี้เหมาะสมมากเลยควรได้เป็นรองประธานวุฒิสภา ควรเสนอชื่อ อะไรแบบนี้ ก็ลักษณะแบบนี้มีอยู่

รอฟังวิสัยทัศน์ว่าที่ประธาน

นางอังคณา ยังกล่าวถึงบุคคลที่จะมาเป็นประธานวุฒิสภา ควรมีคุณสมบัติอย่างไรว่า คนที่จะมาทำหน้าที่เป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ ควรเป็นพลเรือน ซึ่งบางทีวิสัยทัศน์ของคนที่เคยอยู่ในหน่วยงานด้านความมั่นคง อาจจะเคยชินกับการออกคำสั่ง เพราะฉะนั้น ส่วนตัวมองว่าประธานวุฒิสภาควรเป็นพลเรือน มีความยืดหยุ่น และเมื่อนั่งในตำแหน่งประมุขฝ่ายนิติบัญญัติแล้ว มีความเป็นกลาง เป็นธรรม ไม่ลำเอียงและโดยส่วนตัว ก็ตั้งใจว่า หนึ่งในสามตำแหน่งที่จะเลือกกัน มีความจำเป็นที่ต้องมีผู้หญิงเข้าไปด้วย เพราะเรื่องของสัดส่วนทางเพศมีความสำคัญมาก

เตือนสว.ต้องเป็นกลาง

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปรัฐบาล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีข้อครหาต่างๆ ต่อ ส.ว.ชุดใหม่ว่า มองเหมือนที่สังคมเห็น แต่เขาก็มาตามระบอบ ถามว่าน่าชื่นชมหรือไม่ ก็ไม่ มีเพียงบางคนที่ยอมรับได้ บางเรื่องที่ประชาชนเห็นเราก็เห็นเหมือนกันเช่น เรื่องวุฒิการศึกษา และจริงๆ สภาสูงต้องเป็นที่ยอมรับ เคารพนับถือของประชาชนอย่างชัดเจนว่าต้องเป็นกลางทางการเมือง แต่ที่เราเห็นก็เหมือนที่ประชาชนเห็นและพิจารณา

“ถ้าถามว่ามีความสบายใจหรือไม่ ก็ไม่สบายใจ แต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเขามาตามระบบนี้ มาตามรัฐธรรมนูญ เราก็ว่าอะไรไม่ได้ แต่ก็ดีที่มีหลายฝ่ายยื่นตรวจสอบ ซึ่งก็ต้องว่าไปตามกระบวนการ แต่ความรู้สึกผมก็เหมือนประชาชนที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ทั่วไป” นายวิสุทธิ์กล่าว

เชื่อสว.ประสานกับสส.ได้

เมื่อถามถึงกรณีการเลือกประธานวุฒิสภาที่หลายฝ่ายก็หวังจะได้เก้าอี้นั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เป็นธรรมดาของมนุษย์และทางการเมืองที่มีการต่อสู้แย่งชิงกัน แต่ไม่ขอไปยุ่งเกี่ยวอะไรด้วย ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ เมื่อถามว่า มองว่าประธานวุฒิสภาควรมีคุณสมบัติอย่างไร นายวิสุทธิ์กล่าวว่า เป็นกลางทางการเมือง มีความรอบครอบในด้านข้อกฎหมายต่างๆ ที่สำคัญประธานวุฒิสภาเป็นหัวหลักในการที่จะเลือกองค์กรอิสระทั้งหลายขอให้ได้คนที่เป็นที่ยอมรับของสังคม

เมื่อถามต่อว่า ส.ส.จะต้องทำงานร่วมกับ ส.ว. คาดว่าจะประสานกับ ส.ส.ได้มากน้อยแค่ไหน นายวิสุทธิ์กล่าวว่า ไม่มีปัญหา เพราะในส่วนนี้เราต้องว่ากันไปตามข้อบังคับสภา

ห่วงกกต.ลุยไฟถูกดำเนินคดี

นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วย รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต.ประกาศรับรองสมาชิกวุฒิสภา หรือ สว.ชุดใหม่ว่า ลุยไฟอย่างแท้จริง เป็นมติ 5-2 ตนคิดว่า 2 เสียง ที่ไม่เห็นด้วยกับการรับรองเป็นนักกฎหมายและรู้ดีว่าถ้ารับรองไปความวุ่นวายจะเกิดและสุดท้ายจะถูกแจ้งความดำเนินคดี และเชื่อว่าการเลือกสว.ที่ผ่านมาสุดท้ายก็ต้องไปจบที่ศาลรัฐธรรมนูญ

ถกร่างงบฯเพิ่มเติม

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ประธานวิปรัฐบาล เปิดเผยว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 17 ก.ค.จะมีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 พ.ศ. .... วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านเติมเงินผ่านดิจิทัลวอลเล็ต

“ฝ่ายรัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอของทุกฝ่าย รวมถึงฝ่ายค้าน เพื่อนำไปปรับปรุงให้เหมาะสม และเกิดประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวจะเป็นทางด่วนที่นำเงินไปถึงมือประชาชนที่มีความต้องการเงินทุนในการประกอบอาชีพและพยุงเศรษฐกิจในครัวเรือน เช่น ซื้ออุปกรณ์การเกษตร ดังนั้น การติเตียนของฝ่ายค้านจึงเป็นธรรมดา เราไม่มีความกังวล” ประธานวิปรัฐบาล กล่าว

ก้าวไกลเตรียมถล่มไม่ยั้ง

ในประเด็นดังกล่าว นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ประธานวิปฝ่ายคาน เผยว่าพรรคก้าวไกล ได้เตรียมผู้อภิปรายไว้คือ นายชัยธวัช ตุลาธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรค ก.ก. กับ น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค และสส.อื่นๆอีกรวม10คน

ทั้งเห็นว่า สำหรับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวชัดเจนว่าเป็น พ.ร.บ.ที่ทำมาเพื่อดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน แต่ตนคิดว่าในชั้นของ กมธ.คงจะต้องมีการสอบถามเรื่องรายละเอียดต่างๆ แต่ในการอภิปรายเราจะแสดงถึงข้อห่วงใยว่าเรากังวลในเรื่องใดบ้าง

นายกฯลงพื้นที่แม่จันทร์

เช้าวันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ และ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช ส.ส.เชียงราย ลงพื้นที่ บ.โป่งป่าแขม อ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยทันทีที่มาถึงตัวแทนชนเผ่าได้มอบเสื้อชนเผ่าอิ้วเมี่ยน หรือเย้า ให้กับนายกฯ ซึ่งนายกฯ ได้สวมเสื้อดังกล่าวทันที จากนั้น ผู้นำชุมชนได้ต้อนรับตามประเพณีของชนเผ่า พร้อมเชิญนายกฯ และคณะ เข้าบ้านเพื่อจิบชาต้อนรับตามประเพณี ซึ่งอาหารที่ต้อนรับประกอบด้วยข้าวปุกงาหรือโมจิดอยซึ่งถือเป็นขนมจากสวรรค์ โดยผู้นำชุมชนหรือพ่อหลวงกล่าวว่า เป็นเกียรติซึ่งหมู่บ้านนี้อยู่มา 70 ปี เพิ่งมีผู้นำมาเยี่ยมถึงหมู่บ้าน และขออวยพรให้เป็นนายกฯ ไปนานๆ อยู่กับพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ไปนานๆ และขอให้เดินทางปลอดภัยมีสวัสดิภาพ ขณะที่นายกฯ ระบุว่า เป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับ โดยบอกว่ามาในฐานะคนไทยไม่ได้มาในฐานะนายกฯ หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้พร้อมรับฟังปัญหา เพื่อนำไปสู่การแก้ไข

แลกเปลี่ยนความคิดเห็น

จากนั้น นายกฯ ได้พบปะแลกเปลี่ยนปัญหาในพื้นที่ โดยผู้นำชุมชนได้สะท้อนถึงปัญหาว่าชนเผ่าชาติพันธุ์ในพื้นที่ 77,729 ราย มี 19,432 ราย ไม่มีสัญชาติทำให้ถูกจำกัดสิทธิ ขณะที่เรื่องของสาธารณูปโภคพบว่าบางหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ส่วนระบบสาธารณสุข ในส่วนของโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง อยากให้มีการเพิ่มบุคลากรโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง เพราะไม่เพียงพอต่อการบริการประชาชน

พร้อมช่วยเหลือผู้ยากไร้

นายเศรษฐากล่าวกับชาวบ้านว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือน ซึ่งได้การต้อนรับที่อบอุ่นได้เข้าบ้านของผู้นำชุมชน ประเพณีไทยถือว่าการต้อนรับให้เข้ามาอยู่ในบ้านถือเป็นเกียรติสูงสุด และถือว่าเราเป็นพวกเดียวกัน สำหรับปัญหาหลักเรื่องความไม่เสมอภาคเท่าเทียมที่พี่น้องชาติพันธุ์ถูกดูแลอย่างไม่ทั่วถึงมาโดยตลอด แต่ภายใต้การผลักดันของ ส.ส.ปิยะรัฐชย์ ที่มีความมุ่งมั่นในการผลักดันร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ชาติพันธุ์ที่ให้ความสำคัญเรื่องของสิทธิขั้นพื้นฐานเรื่องของสัญชาติ เพราะหากได้สัญชาติแล้วก็จะได้รับการดูแลที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุข การศึกษา และเรื่องต่างๆ ซึ่งรัฐบาลสัญญาว่าจะให้การพิสูจน์ทราบสัญชาติให้จบภายใน 5 วัน ไม่ใช่ 180 วัน แต่ขอเวลาอีกสักระยะและคาดว่าจะพิจารณาจบได้ภายในเดือนกรกฎาคมนี้

“น่าเศร้าใจเรื่องพี่น้องชาติพันธุ์ถูกดูแลโดยเจ้าหน้าที่รัฐยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และไม่เท่าเทียมกับพี่น้องชาวไทยส่วนอื่นๆ ซึ่ง ส.ส.ทั้งระบบเขต และบัญชีรายชื่อ และเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง ต้องยึดถือเรื่องความเสมอภาคเท่าเทียม ดังนั้น ตนขอพูดไว้เลยว่าการดูแลพี่น้องชาติพันธุ์ต้องได้รับความเสมอภาคเท่าเทียมไม่แบ่งแยก เจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายสาธารณสุขเองก็ต้องดูแลอย่างเสมอภาค” นายเศรษฐากล่าว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'เพื่อไทย\' ชี้นิรโทษกรรม ปลดบ่วงพันธนาการ 3,254 ชีวิต ทั้งเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ยกเว้นคดี 112 'เพื่อไทย' ชี้นิรโทษกรรม ปลดบ่วงพันธนาการ 3,254 ชีวิต ทั้งเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ยกเว้นคดี 112
  • ใครไม่เข้าย้ายทันที! ‘ภูมิธรรม’เรียกถก‘ผู้ว่าฯ-ผกก.ทั่วประเทศ’พรุ่งนี้ ใครไม่เข้าย้ายทันที! ‘ภูมิธรรม’เรียกถก‘ผู้ว่าฯ-ผกก.ทั่วประเทศ’พรุ่งนี้
  • \'รสนา\'วอนศาลเมตตา\'ฟ้า สุทธินี\' จำเลยคดี ม.112 ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ 'รสนา'วอนศาลเมตตา'ฟ้า สุทธินี' จำเลยคดี ม.112 ได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ
  • \'ภูมิธรรม\' ถือเค้กอวยพรวันเกิด \'ปลัดมหาดไทย\' ชมช่วยทำงานผลักดันนโยบายสำคัญ 'ภูมิธรรม' ถือเค้กอวยพรวันเกิด 'ปลัดมหาดไทย' ชมช่วยทำงานผลักดันนโยบายสำคัญ
  • ‘ทักษิณ’น่าจะรอด? ‘อ.ไชยันต์’วิเคราะห์คดี‘ม.112’ หลังศาลนัดชี้ชะตา 22 สิงหา ‘ทักษิณ’น่าจะรอด? ‘อ.ไชยันต์’วิเคราะห์คดี‘ม.112’ หลังศาลนัดชี้ชะตา 22 สิงหา
  • เช็คเสียงโหวตร่างนิรโทษฯ!‘สส.รัฐบาล’เหนียวแน่น ‘6 สส.สายเสื้อแดง พท.’โหวตหนุน‘ฉบับส้ม’ เช็คเสียงโหวตร่างนิรโทษฯ!‘สส.รัฐบาล’เหนียวแน่น ‘6 สส.สายเสื้อแดง พท.’โหวตหนุน‘ฉบับส้ม’
  •  

Breaking News

มทภ.2 เรียกร้องผู้นำกัมพูชาตำหนิหญิงเขมร-ขอโทษทหารไทยที่ถูกผลักอกล้ม

(คลิป) ‘เดชอิศม์’เผยงบ1.57แสนล้าน กระจุกแต่พื้นที่ฐานเสียง'ภท.'จนน่าเกลียด

ใจละลายทั้งโซเชียล! 'นุ่น วรนุช'อวดลุคสุดงดงามในชุดไทยล้านนา

'เพื่อไทย' ชี้นิรโทษกรรม ปลดบ่วงพันธนาการ 3,254 ชีวิต ทั้งเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ยกเว้นคดี 112

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved