“ทักษิณ”เป็นประธานพิธีงานอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ดีใจได้ทำบุญใหญ่ พร้อมประกาศขอช่วยงานรัฐบาลหลังจากสิงหาคมเป็นต้นไป เพื่อให้เป็นผลประโยชน์ต่อคนไทยทั้งประเทศ ด้านอธิบดีกรมราชทัณฑ์ย้ำอภัยโทษหมู่เป็นเรื่องของพระราชอำนาจ ส่วน“ทักษิณ”จะพ้นโทษเดือนสิงหาคมนี้ ราชทัณฑ์เตรียมออกใบบริสุทธิ์ให้กรมคุมประพฤติ ทำการปล่อยตัวที่บ้านพักได้ทันที
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2567ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาเป็นประธานพิธีงานอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28กรกฎาคม2567 โดยออกเดินทางจากสนามบินดอนเมือง กทม.ในเวลา 07.00น.ไปลงที่สนามบินบุรีรัมย์ ส่วนการเดินทางต่อมายังวัดสุวรรณวิจิตร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยรถตู้โฟล์คสวาเกน สีดำ หมายเลขเลขทะเบียน อษ1414 กรุงเทพมหานคร โดยมีกลุ่มคนเสื้อรอให้การต้อนรับอย่างคับคั่ง จากนั้นเข้าสู่พิธีอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ขณะที่บรรยากาศที่วัดสุวรรณวิจิตร พบว่ามีประชาชนและคนเสื้อแดงมารอรับ พร้อมกับมอบดอกกุหลาบและชูทำป้ายต้อนรับ นายทักษิณ เป็นจำนวนมาก โดยหลังเสร็จสิ้นงาน นายทักษิณ จะไปรับประทานอาหารกลางวันที่โรงสี ส.ชัยเจริญ และช่วงบ่ายได้เดินทางไปสนามบินบุรีรัมย์ เพื่อเดินทางกลับกรุงเทพฯ
ทั้งนี้ นายทักษิณ ได้กล่าวในงานอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ ช่วงหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนร่วมกันอนุโมทนาบุญด้วยกัน ให้บุญกุศลนี้ทำให้ครอบครัวของพี่น้องทั้งหลายในที่นี้พ้นจากหนี้สิน ความทุกข์ยาก มีโอกาสตั้งตัวใหม่ “หลังจากเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ผมจะขอทำงาน มีรูปธรรมออกมา เพื่อให้เป็นผลประโยชน์ต่อพี่น้องคนไทยทั้งประเทศ เราต้องให้ความมั่นใจ เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน ให้เราแข็งแรง วันนี้ก็เป็นวันบุญที่เราถือว่าเราเริ่มต้นทำจิตใจให้ผ่องใสแล้ว สมองจะได้ผ่องใส ก็แก้ปัญหาของทุกคนได้ ขอให้ทุกคนมีแต่ความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรง คิดสิ่งใดสมความปรารถนาทุกประการ”
นายทักษิณ ยังได้กล่าวในช่วงท้ายด้วยว่า รู้สึกดีใจ จากประเทศไทยไปนานไม่ได้ทำบุญใหญ่ เมื่อกลับมาแล้วได้ทำบุญใหญ่ บวชพระถึง 300กว่ารูป แล้วก็เป็นการถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อันเป็นที่รักของพวกเราทุกคน ก็ยิ่งมีความสุข วันนี้มาด้วยความเต็มใจ
ด้าน นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงกระแสข่าวกรณีเรือนจำ/ทัณฑสถานทั่วประเทศ เริ่มดำเนินการสำรวจคัดกรองรายชื่อผู้ต้องขังที่มีเกณฑ์อาจได้รับการพระราชทานอภัยโทษ หากมีพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัย โทษเป็นการทั่วไป เนื่องในวันมหามงคลของไทย ว่า ยืนยันว่าในตอนนี้ราชทัณฑ์ยังไม่ได้มอบหมายให้เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศดำเนินการสำรวจรายชื่อผู้ต้องขังแต่อย่างใด เพราะราชทัณฑ์จะเริ่มทำได้ก็ต่อเมื่อมีการประกาศพระราชกฤษฎีกา แล้วจึงไปดูว่าผู้ต้องขังรายใดมีคุณสมบัติเข้าเกณฑ์ตามบัญชีลักษณะความผิดท้ายพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ และที่สำคัญราชทัณฑ์ไม่สามารถทำก่อนได้ เพราะเป็นเรื่องของพระราชอำนาจ อย่างไรก็ต้องรอกฎหมายออกมาก่อน ยืนยันว่าราชทัณฑ์ไม่สามารถทราบได้ว่าจะมีประกาศกฤษฎีกาในช่วงเวลาใด
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า สำหรับประกาศพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป เนื่องในวันมหามงคลของไทยนั้น รายละเอียดการจัดทำกฤษฎีกาเป็นส่วนรับผิดชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งถ้ามีการจัดทำเสร็จสิ้นเมื่อใด กรมราช ทัณฑ์จึงจะนำรายละเอียดไปดำเนินการต่อ ส่วนกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งอยู่ระหว่างถูกคุมความประพฤติระยะเวลา 6เดือนนั้น อธิบดีกรมราช ทัณฑ์ เผยว่า อดีตนายกฯจะครบกำหนดพักโทษเดือนส.ค.นี้ โดยกระบวนการขั้นตอนของผู้พ้นโทษจากเหตุครบกำหนดการพักการลงโทษ คือ ทางราชทัณฑ์จะดำเนินการออกใบบริสุทธิ์ให้กับอดีตนายกฯ โดยทางกรมคุมประพฤติจะเป็นหน่วยงานรับเอกสารดังกล่าวเพื่อประสานกับผู้ถูกคุมประพฤติ ซึ่งอดีตนายกฯเมื่อครบกำหนดพักโทษก็ไม่ต้องมาที่ราชทัณฑ์อีกแล้ว โดยให้ได้รับการปล่อยตัวจากสถานที่ที่อาศัยอยู่ในปัจจุบันหรือเรียกว่า เป็นผู้พ้นโทษ ได้รับการปล่อยตัวตามกฎหมายได้เลย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี