“เศรษฐา”ยังไม่คิดเชิญ“ทักษิณ”เป็นที่ปรึกษาฯ ชี้เรื่องทำงานเป็นรูปธรรม ครม.พูดกันตลอด ยึดหลักประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ด้าน“เพื่อไทย”ปัด“แม้ว”อยากช่วยงาน เปล่าแทรกแซงพรรค แค่ รมต.ไปขอคำปรึกษาคนเก่งมีความสามารถเรื่องปกติ ย้ำสัมพันธ์พรรคร่วมยังปึ้ก เป็นรัฐบาลสมบูรณ์

เมื่อวันที่ 15กรกฎาคม2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ หลังจาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาแสดงความเห็นหลังเดือนสิงหาคมนี้ รัฐบาลคงจะทำงานได้เป็นรูปธรรมมากขึ้นและเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศ นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลมีแนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะพ้นโทษและเป็นผู้บริสุทธิ์ในเดือนสิงหาคมนี้ มาเป็นที่ปรึกษาฯหรือให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ โดยนายกฯกล่าวว่า “พอดียังไม่ได้ฟังการให้สัมภาษณ์ของท่านและท่านให้สัมภาษณ์ว่า อย่างไรบ้าง ขอคำถามอีกครั้ง”

ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า อดีตนายกฯออกมาระบุว่า หลังเดือนสิงหาคมนี้ รัฐบาลคงจะทำงานได้เป็นรูปธรรมมากขึ้นและเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งประเทศนายกรัฐมนตรี และรัฐบาลมีแนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะพ้นโทษและเป็นผู้บริสุทธิ์ในเดือนสิงหาคมนี้เช่นกัน มาเป็นที่ปรึกษาฯหรือให้คำแนะนำอะไรหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ตรงนั้นยังไม่ได้คิดและยังได้มีการพูดคุยกัน ส่วนการทำงานที่จะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้นนั้น ตรงนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็มีการพูดคุยกันตลอดเวลาในเรื่องของการทำงานเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนเป็นหลัก

เมื่อถามย้ำว่า แนวคิดที่จะเชิญอดีตนายกฯมาเป็นที่ปรึกษาหรือให้คำแนะนำจะเป็นไปได้หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ไม่ได้มีการพูดคุยกันตรงนี้ แต่อย่างที่ตนเคยชี้แจงไปแล้ว ตนได้มีโอกาสได้พบปะกับอดีตนายกรัฐมนตรี หรือผู้นำของประเทศ ไม่ว่าจะใครก็ตามท ที่มีข้อเสนอแนะที่ดีตนก็ยินดีรับฟัง

ดินเนอร์ไม่รู้‘บิ๊กป้อม’มาหรือไม่

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังให้สัมภาษณ์ถึงการรับประทานอาหารเย็นกับพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงเย็นวันเดียวกัน ว่า ไปครับ เมื่อถามว่า มีการประสานให้พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) มาร่วมด้วยหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบ แต่ตนยืนยันไปแล้วว่าอยากให้ท่านมา แต่ตนไม่ทราบจริงๆว่าท่านจะมาหรือไม่มา อันนี้ก็แล้วแต่ แต่ละพรรค เพราะตนไม่ได้เช็คเลยว่าใครมา หน้าที่ของตนคือไปพูดคุยกันว่า ใครมีเรื่องไม่สบายใจ หรือจะเสนอแนะอะไร ตนยินดีรับฟังหมด

‘ภูมิธรรม’ เปิดทางช่วยงานเพื่อไทย

ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาระบุเดือนสิงหาคม ผลงานรัฐบาลจะออกมาเป็นรูปธรรมมากขึ้นว่า ก็เป็นความเห็นของ นายทักษิณ ต้องไปถามท่านเอง เมื่อถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ หาก นายทักษิณ พ้นมลทิน ในเดือนสิงหาคมแล้วจะเข้ามาช่วยงานพรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม กล่าวว่า ถ้าท่านพ้นมลทินทั้งหมด ก็สามารถที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้

ขณะที่ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยากจะกลับมาช่วยงานพรรคเพื่อไทย ว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ได้ยิน ไม่ทราบว่าพูดอะไร ที่ไหน แต่ขณะนี้ในพรรค นายทักษิณ ไม่ได้เข้ามาแทรกแซง นายทักษิณ เป็นคนที่มีความสามารถ เป็นธรรมดาที่รัฐมนตรีจะไปปรึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ มองว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก เป็นเรื่องที่ดีด้วยซ้ำไป เมื่อถามถึงการร่วมรับประทานอาหารของพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่15ก.ค.จะพูดคุยถึงความขัดแย้งและความเห็นต่างภายในพรรคร่วมหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องขัดแย้งอะไร พรรคร่วมรัฐบาลยังแน่นปึ้ก การนัดทานข้าวกัน เป็นการปรึกษาหารือบางเรื่องบางอย่างที่เป็นผลประโยชน์ และทำงานเพื่อประชาชนเหมือนกัน ไม่ใช่นัดไปงัดข้อ

“วันนี้รัฐบาลสมบูรณ์ดี ทุกคนมีความสุขในการทำงาน ซึ่งนอกจากวงคณะรัฐมนตรีแล้ว ก็จะมีวงของผู้หลักผู้ใหญ่แต่ละพรรคมานั่งทานข้าวด้วย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นการผูกมิตรไมตรีต่อกัน เป็นเรื่องบวกทั้งนั้น” นายวิสุทธิ์ กล่าว เมื่อถามถึงกรณีหลายคนในครม.อยากให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ มาร่วมด้วย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ ตนไม่ได้นัด ไม่ทราบรายละเอียดเลย ส่วนตัวก็อาจจะไป

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการนัดทานข้าวกับพรรคร่วมรัฐบาลในช่วงเย็นว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคร่วมรัฐบาล ยังมีความสัมพันธ์กันเหมือนเดิมและนัดทานข้าวกันบ่อยครั้ง แต่ทราบว่าทุกคนมีหน้าที่ในการทำงาน ทั้งในส่วนของสภาและรัฐบาล ก็ต้องรอให้พรรคร่วมนัดมาเพื่อหาเวลาที่เหมาะสม ซึ่งรอบนี้เป็นคิวของพรรคพลังประชารัฐ โดย ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะเลขาธิการพรรคพปชร.แต่ที่ผ่านมาก็ได้มีการพูดคุยกับพรรคร่วมอยู่แล้ว ในเรื่องการทำงาน ขณะที่นายกรัฐมนตรีเองน่าจะมีโอกาสพูดคุยกับพรรคร่วมมากกว่า ส่วนวันนี้เป็นการนัดพูดคุยทานข้าวกันปกติ ยังไม่มีประเด็นอะไรจะหารือเป็นพิเศษ แต่อาจติดตามงานที่ผ่านมาว่าปัจจุบันเป็นอย่างไรบ้างและอยากให้พรรคเพื่อไทยสนับสนุนอย่างไร แต่ทั้งหมดเป็นหน้าที่นายกฯที่ต้องพูดคุย