วันเสาร์ ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘มงคล-เกรียงไกร-บุญส่ง’มาตามนัด  สายสีน้ำเงินเบ็ดเสร็จ  ยึดปธ.วุฒิฯ-รองฯ2เก้าอี้  ‘นันทนา’โวยเลือกประธาน

‘มงคล-เกรียงไกร-บุญส่ง’มาตามนัด สายสีน้ำเงินเบ็ดเสร็จ ยึดปธ.วุฒิฯ-รองฯ2เก้าอี้ ‘นันทนา’โวยเลือกประธาน

วันพุธ ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2567, 06.00 น.
Tag : มงคล เกรียงไกร บุญส่ง สายสีน้ำเงิน
  •  

‘มงคล-เกรียงไกร-บุญส่ง’มาตามนัด

สายสีน้ำเงินเบ็ดเสร็จ

ยึดปธ.วุฒิฯ-รองฯ2เก้าอี้

‘นันทนา’โวยเลือกประธาน

คะแนนโหวตเป็นกลุ่มเป็นก้อน

‘อนุทิน’ปัดเอี่ยวคุมสภาสูง

ถกสภาสูงนัดแรก “200 สว.ใหม่”ปฏิญาณตนเข้ารับตำแหน่ง ไม่พลิกโผ มติที่ประชุมวุฒิสภา ลงคะแนนเลือก “มงคล สุระสัจจะ” สายตรงบ้านใหญ่สายสีน้ำเงิน คว้าเก้าอี้ประธานวุฒิสภา ด้วยคะแนนท่วมท้น 159 เสียง ทิ้งห่าง

“นันทนา”ไม่เห็นฝุ่นที่ 19 คะแนน “หมอเปรม”รั้งท้าย 13 คะแนน ส่วนรอง ปธ.คนที่ 1 มาตามคาด “พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์” ฉลุย 150 เสียง เช่นเดียวกับรอง ปธ.คนที่ 2 “บุญส่ง น้อยโสภณ” ลอยลำได้คะแนนสูงถึง 167 เสียง ด้าน“นันทนา” แกนนำ สว.พันธุ์ใหม่โวยเลือกประธานวุฒิสภา “เดจาวู” คะแนนเป็นกลุ่มก้อนเหมือนตอนเลือกรอบประเทศ โอดปฏิบัติการ “สว.เล็กเปลี่ยนสภา” ไม่สำเร็จ ขณะที่ “อนุทิน”ปัดเอี่ยวสายสีน้ำเงินกินรวบสภาสูง ชี้ใครได้เป็นก็ยินดีหมด

เมื่อเวลา 09.40 น. วันที่ 23 กรกฎาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภานัดแรกอย่างเป็นทางการ มีพล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งอาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่ประธานการประชุมชั่วคราว ก่อนเข้าวาระการประชุม มีการรับทราบประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรื่องผลการเลือกตั้งวุฒิสภา ลงวันที่ 10 กรกฎาคม


ถกสภาสูงนัดแรก200สว.ปฎิญาณตน

จากนั้นประธานที่ประชุมแจ้งให้สว.ทั้ง 200 คน ลุกขึ้นกล่าวคำปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ ตามมาตรา115 ของรัฐธรรมนูญปี 2560 หลังสมาชิกวุฒิสภากล่าวปฎิญาณตนเสร็จสิ้น พล.ต.ท.ยุทธนา ประธานที่ประชุมชั่วคราว ได้แจ้งเข้าวาระการเลือกประธานวุฒิสภา โดยชี้แจงขั้นตอนการเลือกฯ อาทิ สมาชิกมีสิทธิเสนอชื่อได้คนละ1ชื่อ ต้องมีผู้รับรองไม่น้อยกว่า 10 คน ผู้ได้รับการเสนอชื่อต้องแสดงวิสัยทัศน์ในการดำรงตำแหน่งต่อที่ประชุมฯ การลงมติแบบลับตามลำดับหมายเลขประจำตัวสมาชิกฯ

ชง“มงคล-หมอเปรม-นันทนา”ชิงดำ

ทั้งนี้ ในเวลา 10.08 น. พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นเสนอชื่อนายมงคลสุระสัจจะ สว. ในฐานะที่ถูกมองว่าเป็นกลุ่มบ้านใหญ่สายสีน้ำเงิน เป็นประธานวุฒิสภา จากนั้นนายเศรณี อนิลบล สว. ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ในฐานะแกนนำกลุ่มสว.สีขาว เป็นประธานวุฒิสภา และนายนรเศรษฐ์ ปรัชญากร สว. เสนอชื่อน.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ในฐานะแกนนำกลุ่มสว.พันธุ์ใหม่ เป็นประธานวุฒิสภา

จากนั้นได้เข้าสู่ขั้นตอนการแสดงวิสัยทัศน์ของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่ขณะนี้มี3คน คือ นายมงคล นพ.เปรมศักดิ์ และน.ส.นันทนา โดยประธานที่ประชุมแจ้งว่า การเปิดให้บุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อฯแสดงวิสัยทัศน์ ที่ผ่านมาใช้เวลาประมาณ 5 นาที พร้อมทั้งเปิดให้สมาชิกหารือว่าควรใช้เวลาแสดงวิสัยทัศน์เท่าใด ซึ่งมีสมาชิกเสนอใช้เวลาแสดงวิสัยทัศน์ทั้ง 7 นาที 5 นาที และไม่จำกัดเวลา แต่ท้ายที่สุดที่ประชุมลงมติให้ผู้ได้รับการเสนอชื่อฯ แสดงวิสัยทัศน์ไม่เกิน5นาที

หมอเปรมคนแรกชูสว.ต้องเป็นอิสระ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นพ.เปรมศักดิ์ ได้ลุกขึ้นแสดงวิสัยทัศน์เป็นคนแรก ตามด้วยน.ส.นันทนา และสุดท้ายนายมงคล พร้อมตั้งคณะกรรมการนับคะแนนรวม 5 คน โดยนพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. แสดงวิสัยทัศน์ว่า สว.ชุดนี้ถูกสังคมวิจารณ์ถึงที่มาของกลุ่มอาชีพ ไม่ตรงปก ครอบงำจากกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ ตนจึงมุ่งมั่นอาสาเพื่อแก้ภาพลักษณ์สิ่งที่ปรากฎในด้านลบ เพราะประชาชนคาดหวังการทำงาน ที่สำคัญสว.ต้องเป็นอิสระ เป็นกลาง ไม่ถูกครอบงำจากทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน คงห้ามยากที่ไม่ให้คนวิจารณ์ที่มาของเรา แต่สิ่งที่เลือกได้ ว่า 5 ปีต่อจากนี้จะไปอย่างไร ถ้าเลือกเป็นกลาง เป็นอิสระ ก็จะได้รับคำชื่นชมจากประชาชน แต่ถ้าเลือกอีกด้านหนึ่ง ก็จะถูกตราหน้าว่าเป็นสภาใบสั่ง สภารีโมท สภาหวยล็อค สภาบล็อกโหวต และในการทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมายจากสภาผู้แทนราษฎร ต้องไม่ถูกชี้นำจากพรรคการเมือง แม้แต่การเห็นชอบองค์กรอิสระอย่าให้มีใบสั่งจากบ้านนั้นบ้านนี้

ปธ.สว.ต้องสุขภาพดีอั้นฉี่เก่ง

“ประธานวุฒิสภาจะทำได้ต้องมีสุขภาพดี เช่น กั้นปัสสาวะไม่ไหว แล้วมอบรองประธานไม่ทัน แล้วประธานต้องลุกไปเข้าห้องน้ำกะทันหัน ทำให้ต้องปิดประชุมกะทันหัน บางคนเก่ง แต่เวลาผ่านไปแพ้สังขาร ผมย้ำว่าเป็นเรื่องจริงจัง อย่ามองเป็นเรื่องเล่น ไม่ไหวอย่าฝืน ปัจจุบันผมอายุ 59 ปี บวกอีก 5 ปี คืออายุ64ปี ผมพร้อมทำหน้าที่เป็นประธานที่มีสุขภาพที่ดี จึงขอให้สมาชิกพิจารณาด้วยเนื้อผ้า อย่าพิจารณาโดยที่ฟังจากคนอื่นว่ามีการรวมเสียง 143 เสียง ถ้าเป็นแบบนี้วุฒิสภาจะไม่พ้นข้อครหา ขอฝากสมาชิกอย่ามองผู้สมัครคนอื่นเป็นเพียงไม้ประดับ เพราะการต่อสู้ครั้งนี้ ประชาชนมองอยู่ทั่วประเทศและคาดหวังกับเรา”นพ.เปรมศักดิ์ กล่าว

“นันทนา”ชู5ส.ฟื้นภาพสว.ยึดโยงปชช.

จากนั้น น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ว่า ที่ผ่านมาวุฒิสภาดูจะเป็นสภาที่ห่างเหินจากการรับรู้ของประชาชน ไม่ยึดโยงกับประชาชน ไม่ใช่สถาบันที่เป็นที่พึ่งของประชาชน ซึ่งเป็นภาพที่บั่นทอนศรัทธามหาชน จึงเป็นโจทย์สำคัญว่าเราจะฟื้นฟูสว.ยุคใหม่อย่างไร โดยเราจะยึดโยงกับประชาชนผู้ที่จ่ายภาษีที่เป็นเงินเดือนของเราได้ด้วย 5 ส. ได้แก่ 1.สัมพันธ์ วุฒิสภาชุดใหม่ต้องเปิดพื้นที่ให้ประชาชนเข้าถึงได้ ประชาชนสามารถเดินเข้ามาฟังการประชุมได้ พื้นที่สวนก็สามารถเปิดให้ประชาชนเข้ามาออกกำลังกาย สูดอากาศบริสุทธิ์ โถงใหญ่ก็เปิดให้สถาบันการศึกษา องค์กรสาธารณะสามารถจัดแสดงนวัตกรรม จัดพื้นที่รับร้องทุกข์ให้เป็นที่พึ่งของประชาชนที่ถูกกลั่นแกล้งจากเจ้าหน้าที่รัฐ ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากหน่วยงานใดๆ ได้ เพื่อจะนำไปสู่การแก้ไขทุกข้อร้องเรียน เราจะเป็นวุฒิสภาเชิงรุกโดยการจัดรายการสว.ฟังเสียงประชาชน จัดเวทีเสวนากับประชาชนทุกพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

2.สื่อสาร เราจะใช้การสื่อสารเป็นเครื่องมือยึดโยงกับประชาชน ผ่านการภ่ายทอดสดการประชุมสภา ผลักดันให้ถ่ายทอดสดคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทุกคณะ แถลงผลการทำงานทุกด้าน 3.สร้างสรรค์คือทำงานสร้างสรรค์ โปร่งใส ตรวจสอบได้ เริ่มจากบรรจุระเบียบวาระที่เป็นประโยชน์ประชาชนเข้าที่ประชุม 4.สมดุล วุฒิสภายุคใหม่ต้องสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นในสังคม เราจะเปิดกว้างให้ทุกศาสนา เปิดพื้นที่ให้ความหลากหลายทางเพศ เปิดรับทุกเชื้อชาติ และ 5.สากล วุฒิสภาชุดใหม่ต้องเป็นที่ยอมรับของนานาอารยาประเทศ มีกฎระเบียบข้อบังคับที่ทันสมัย เป็นประชาธิปไตย ตามมาตรฐานสากล

“มงคล”ลั่นมาจากก้อนดินเป็นคนไม่มีเส้น

โดยนายมงคล สุระสัจจะ สว. แสดงวิสัยทัศน์เป็นคนที่สามว่า ตนตั้งปณิธานแนวแน่ว่าจะอุทิศชีวิต ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน รับใช้ประชาชนรักษาสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาตลอดตั้งแต่รับราชการถึงปัจจุบัน และไม่มีวันเปลี่ยนแปลง ก่อนที่ตนจะสมัครเป็นสว.คือ หวังจะใช้เวลาที่เหลืออยู่ของชีวิตทำงานเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน เพื่อรับใช้ประชาชนแก้ปัญหาของคนในชาติ ทั้งนี้ ในการแสดงความเห็น เราเห็นต่างกันได้ แต่เราต้องไม่สร้างความแตกแยก เราจะเริ่มต้นจากความเป็นหนึ่งเดียวของวุฒิสภาแห่งนี้ วุฒิสภา เป็นองค์กรด้านนิติบัญญัติ เป็นองค์กรสำคัญที่จะพาสังคมไทย เดินหน้าไปได้ด้วยสันติวิธี รวมถึงการมีรัฐธรรมนูญที่เหมาะสม สอดคล้องกับประเทศไทยและคนไทย เป็นภารกิจของพวกเราทุกคนในฐานะสมาชิกวุฒิสภา

“ชีวิตผม มาจากก้อนดิน ก้อนทราย เป็นเด็กวัด เรียนอาชีวะ ผมเข้าใจความยากจนค้นแค้น ความเป็นคนไม่มีเส้นมีสาย ผมเติบโตมาในระบบราชการด้วยการทำงานอย่างหนักเต็มความรู้ความสามารถ ผมมีประสบการณ์คลุกคลีประสานงานกับประชาชนในชนบทมาตลอด ฉะนั้นเข้าใจความรู้สึกของเพื่อสมาชิก เข้าใจปัญหา ผมเชื่อว่า สามารถเข้าใจและทำงานร่วมกับทุกคนได้”นายมงคล กล่าว และว่า ถ้าตนได้รับเลือกเป็นประธานวุฒิสภา ตนจะปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ ตามข้อบังคับ กฎหมายต่างๆ ตลอดจนธรรมเนียมปฏิบัติทางด้านนิติบัญญัติเต็มสติปัญญา ความรู้ความสามารถ ตนพร้อมใช้ความรู้ประสบการณ์ที่มีอยู่ ประสานงานกับทุกท่านให้เป็นเนื้อเดียวกันให้เร็วที่สุด เพื่อให้วุฒิสภาแห่งนี้บรรลุผลความเป็นสภาของสามัญชน เป็นสภาที่ประนอมอำนาจเพื่อดับวิกฤตของสังคมไทย

ตามคาด“มงคล”ได้159เสียงนั่งปธ.วุฒิ

หลังผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธานวุฒิสภาทั้ง 3 คน แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมวุฒิสภาเสร็จสิ้นแล้ว ที่ประชุมฯได้ขานชื่อเป็นรายบุคคลตามลำดับเลขที่สมาชิกทั้ง 200 ลำดับ เข้าคูหาลงคะแนนลับ กระทั่งเวลา 12.31 น. ประธานที่ประชุมแจ้งผลลงคะแนน ปรากฏว่า เสียงเลือกนายมงคล เป็นประธานวุฒิสภา ด้วยคะแนน 159 เสียง นพ.เปรมศักดิ์ได้คะแนน 13 เสียง น.ส.นันทนา ได้คะแนน 19 เสียง ทั้งนี้ มีบัตรเสีย 5 ใบ และงดออกเสียง 4 เสียง โดยทพล.ต.ท.ยุทธนา ประธานการประชุมชั่วคราว ได้สั่งพักการประชุม 25 นาทีก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนการเลือกรองประธานวุฒิสภา คนที่1 และคนที่ 2 ต่อไป

สำหรับนายมงคล สุระสัจจะนั้น เป็นชาวอำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี สำเร็จการศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เข้ารับราชการในสังกัดกระทรวงมหาดไทยครั้งแรก วันที่ 8 มกราคม ในตำแหน่งปลัดอำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย ต่อมาในปี 2532 ย้ายมาเป็นปลัดอำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี ได้พบกับนายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช ที่เป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้สนับสนุนให้เข้าศึกษาที่วิทยาลัยการปกครอง เพื่อเตรียมความพร้อมดำรงตำแหน่งนายอำเภอ หลังเรียนจบ นายมงคลเป็นนายอำเภอครั้งแรกที่อำเภอหนองม่วง จังหวัดลพบุรี ต่อมานายเสริมศักดิ์ย้ายไปดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม นายมงคลจึงตามไปดำรงตำแหน่งนายอำเภอศรีสงคราม ก่อนย้ายมาที่อำเภอธาตุพนม อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก และอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดศรีสะเกษตามลำดับ

ต่อมาปี 2551 นายมงคลย้ายมาดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ จึงได้รู้จักกับ นายเนวิน ชิดชอบ ขณะนั้นสังกัดพรรคพลังประชาชน หลังพรรคถูกยุบจึงแยกตัวออกมาตั้งพรรคภูมิใจไทย ต่อมาปลายปี 2552 นายมงคลย้ายจากผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ มาเป็นอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน และในปี 2553 สมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งนายมงคลเป็นอธิบดีกรมการปกครอง และปลายปีเดียวกันเสนอชื่อนายมงคลเป็นปลัดกระทรวงมหาดไทย แต่นายมงคลแถลงถอนตัว นายมงคลเกษียณอายุในตำแหน่งอธิบดีกรมการปกครอง กลับไปใช้ชีวิตเกษตรกร ที่ไร่เพื่อนคุณ อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ เมื่อปี 2558 กระทั่งได้ลงสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 ในกลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง โดยได้รับเลือกมาเป็นลำดับที่ 3

“บิ๊กเกรียง-นภดล-ปฎิมา-แล”ชิงรองฯ1.

การประชุมวุฒิสภา ที่มีพล.ต.ท.ยุทธนา ไทยภักดี สว. ที่อาวุโสสูงสุด ทำหน้าที่ประธานการประชุมชั่วคราว เริ่มขึ้นอีกครั้งเวลา 13.00 น. พิจารณาวาระเลือกรองประธานวุฒิสภา ประธานที่ประชุมแจ้งขั้นตอนการเลือกรองประธานฯทั้งสองคน ก่อนจะเริ่มจากการเลือกรองประธานฯคนที่ 1 ซึ่งนายบุญส่ง น้อยโสภณ สว. ลุกขึ้นเสนอชื่อพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ที่ถือเป็นตัวเต็งในตำแหน่งดังกล่าวตามโผบ้านใหญ่สีน้ำเงินก่อนหน้านี้ นายสหพันธ์ รุ่งโรจนพณิชย์ สว. เสนอชื่อนายนพดล อินนา สว. น.ส.นิชาภา สุวรรณนาค สว. เสนอชื่อนายปฏิมา จิระแพทย์ สว. และน.ส.มณีรัฐ เขมะวงศ์ สว. เสนอชื่อนายแล ดิลกวิทยรัตน์ สว. จากนั้นเข้าสู่ขั้นตอนแสดงวิสัยทัศน์ของบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 คนละ 5 นาที

“บิ๊กเกรียง”โชว์วิสัยทัศน์แค่2นาที

โดยพล.อ.เกรียงไกร ใช้เวลาในการแสดงวิสัยทัศน์เพียง 2 นาทีว่า ถ้าได้รับเลือกทำหน้าที่รองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง ตนจะยึดมั่นในความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และธำรงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขเทิดทูนและปกป้องสถาบัน จะดำเนินงานทางการเมืองและองค์กรอิสระด้วยความเที่ยงธรรมเป็นกลาง เป็นที่พึ่งของประชาชนได้ จะฟังความคิดเห็นของสมาชิกทุกคนในการดำเนินการกิจการที่เกี่ยวข้องกับสภาวุฒิสภาอย่างเท่าเทียม เคารพเสียงส่วนใหญ่ แต่ไม่เพิกเฉยต่อเสียงที่เห็นต่าง

“นพดล”ชูประสบการณ์40ปี

นายนพดลแสดงวิสัยทัศน์ว่า ถ้าได้ทำหน้าที่แล้วจะทำหน้าที่อย่างเป็นกลางโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่ปฏิบัติหน้าที่เอนเอียงไปตามกระแสสังคมหรือแรงกดดันทางด้านการเมือง มั่นใจประสบการณ์ที่สั่งสมมา 40 ปี เคยทำงานในภาครัฐภาค เอกชนทั้งในและต่างประเทศ เป็นนักวิชาการเคยทำงานในภาคการเมือง ผมจะสามารถทำหน้าที่ขับเคลื่อนวุฒิสภาไปพร้อมๆกับสมาชิกทุกท่านเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อวุฒิสภา ประเทศชาติและประชาชนได้เป็นอย่างดี

“ปฎิมา”ชวนร้องเพลงชาติ

ด้านนายปฏิมา แสดงวิสัยทัศน์ โดยเชิญชวนสว.ทุกคน ให้เป็นสีเดียวกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เราเป็นเดียวกันคือสีแดง สีขาว สีน้ำเงิน เรารักชาติศาสนาพระมหากษัตริย์ มีผู้ใหญ่ที่ตนเคารพบอกว่าสว.ชุดที่ 13 เป็นสว. ชุดภูมิปัญญาไทย เพราะว่าเราได้รับการเลือกจากผู้ที่สมัคร พวกเรามาโดยไม่มีกติกาใดในโลกนี้มาก่อน ก่อนที่ตนจะขึ้นมาแสดงวิสัยทัศน์ได้สอบถาม สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ว่าจะเชิญชวนทุกท่านร้องเพลงชาติไทยในห้องประชุมแห่งนี้ได้หรือไม่ เพราะเพลงชาติไทยมีความหมายชัดเจนว่า เรารักสามัคคี เรารักความสงบ จึงอยากให้พวกเราไม่ลืมในสิ่งที่เราเกิดมา เราก็ได้ร้องเพลงชาติไทยของเรา

“แล”หนุนรัฐสภาหลากหลาย

นายแล แสดงวิสัยทัศน์ว่า ตนอยากเห็นผู้นำของรัฐสภารักษาองค์ประกอบความหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเพศกำเนิด เพศสภาพ ไม่ว่าจะเป็นสูงวัยหรืออ่อนวัย ความหลักหลายทางวัฒนธรรม ศาสนาหรือชาติพันธุ์ เพื่อธำรงความเป็นสากลของระบอบประชาธิปไตยไว้ นอกจากความหลากหลายระดับผู้นำองค์กรแล้วเพื่อให้สภาฯแห่งนี้ สะท้อนมุมมองหลากหลายรอบด้านและครบถ้วนในการช่วยกันกลั่นกลองกฎหมาย

นับคะแนน2รอบ“บิ๊กเกรียง”นั่งรองฯ1

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่ 1 แสดงวิสัยทัศน์ครบที่ประชุมได้เริ่มการลงคะแนน จนถึงนับคะแนนแล้วเสร็จ ผลปรากฎว่า พลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. ได้ 150 คะแนน นายนพดล อินนา สว.ได้ 27 คะแนน ขณะที่ รศ.แล ดิลกวิทยรัตน์ ได้ 16 คะแนน ส่วน ดร.ปฏิมา จีระแพทย์ สว. ได้ 5 คะแนน บัตรเสีย 2 งดออกเสียง 0 อย่างไรก็ตาม มีความสับสนระหว่างการขานและการกดคะแนนเพื่อแสดงผลบนจอ ในช่วงสุดท้าย ทำให้ พล.ต.ท.ยุทธนา แจ้งต่อที่ประชุมว่า อาจต้องนับคะแนนใหม่ เนื่องจากมีบัตรเกินมา โดยประธานที่ประชุมฯ แจ้งผลลงคะแนนครั้งใหม่จากสมาชิกทั้ง 200 คน เลือกพล.อ.เกรียงไกร เป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ด้วยคะแนน 150 เสียง นายนพดลได้คะแนน 27 เสียง นายปฏิมา ได้คะแนน 5 เสียง และนายแลได้คะแนน 15 เสียง ทั้งนี้ งดออกเสียง 1 พบบัตรเสียจำนวน 2 ใบ ถือว่าการนับคะแนนใหม่ครั้งนี้ ครบตามจำนวนสมาชิก 200 คน โดยนายแล เหลือ 15 คะแนน จากที่นับรอบแรก16 คะแนน และงดออกเสียง 1 จากที่นับรอบแรกไม่มี แต่กลับมาแจ้งตอนลงคะแนนครบ200คนไปแล้วจากนั้น ประธานสั่งพักการประชุม 5 นาที เพื่อเตรียมเข้าวาระการเลือกรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 ซึ่งมีหลักเกณฑ์ขั้นตอนเหมือนกับการเลือกประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ต่อไป

สำหรับ พล.อ.เกรียงไกร มีชื่อเล่นว่า เกรียง เกิดวันที่ 25 มีนาคม 2506 เป็นชาวสุราษฎร์ธานี เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 22 (ตท.22) และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่น 33 (จปร.33) รับราชการครั้งแรกที่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 (ร.25 พัน 3) ค่ายวิภาวดีรังสิต จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยตลอดชีวิตราชการ อยู่ในกองทัพภาคที่ 4 เคยเป็นผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 42 มีส่วนในการปราบปรามกลุ่มจีนคอมมิวนิสต์ อีกทั้ง ยังเคยเป็นเสนาธิการจังหวัดทหารบก ปัตตานี และเป็นรองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 รวมถึงเป็นผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 และเป็นรองแม่ทัพภาคที่ 4 เมื่อปี 2562 ก่อนจะขึ้นดำรงตำแหน่งเป็นแม่ทัพในปี 2563 ทั้งนี้ พล.อ.เกรียงไกรมีความสนิทสนมกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย โดยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 61 นายอนุทินยังได้แต่งตั้ง พล.อ.เกรียงไกร เป็นประธานคณะที่ปรึกษารมว.มหาดไทยด้วย

“บุญส่ง”ลอยลำนั่งปธ.วุฒิคนที่2

ต่อมาเวลา 16.30 น. การประชุมวุฒิสภา เริ่มพิจารณาวาระเลือกรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 โดยมีการเสนอชื่อบุคคลเป็นรองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 จำนวน 4 คน ได้แก่ นายบุญส่ง น้อยโสภณ นายปฎิมา จิระแพทย์ นายพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต และนางอังคณา นีละไพจิตร จากนั้นได้มีการแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมวุฒิสภา เป็นเวลา 5 นาที ก่อนจะเปิดให้สมาชิกลงคะแนนตามขั้นตอนและนับคะแนนตามลำดับ ผลปรากฏว่า นายบุญส่ง น้อยโสภณ ได้คะแนน 167 เสียง นายปฎิมา จิระแพทย์ ได้คะแนน 4 เสียง นายพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต ได้คะแนน 8 เสียง และนางอังคณา นีละไพจิตร ได้คะแนน 18 เสียง โดยมีผู้งดออกเสียง 2 คน ไม่มีบัตรเสีย รวมมีสว.ลงคะแนนทั้งหมด 199 คน

“นันทนา”โวยเลือกปธ.วุฒิเกิดเดจาวู

หลังทราบผลการเลือกประธานวุฒิสภาแล้ว มีท่าทีจากนางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความระบุ ผลการลงมติเลือกประธานวุฒิสภา เกิด Deja vu เช่นเดียวกับการเลือกสว.รอบสุดท้าย คะแนนมาเป็นกลุ่มเป็นก้อน เกินต้านทาน อันดับหนึ่งได้ถึง 159 คะแนน ปฏิบัติการ “สว.เล็กเปลี่ยนสภา” ไม่สำเร็จ นันทนา ได้เพียง 19 คะแนน แต่ลองศึกษาวิสัยทัศน์ ฉบับเต็ม ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษดู แล้วลองถามใจดูว่า ถ้าท่านเป็นสว. ท่านจะเลือกใครเป็นประธาน โดยในช่องแสดงความคิดเห็น นางสาวนันทนาได้โพสต์คลิปวิดีโอที่ตนเองแสดงวิสัยทัศน์ด้วย เพื่อให้ประชาชนตัดสิน

“อนุทิน”ปัดสายสีน้ำเงินกินรวบ

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย กล่าวถึง การลงมติโหวตเลือกประธานวุฒิสภาว่า สว.ถือเป็นสมาชิกรัฐสภาทำงานให้บ้านเมืองเหมือนพวกตนที่เป็นสส. ก็ต้องทำงานร่วมกัน ใครจะได้เป็นประธานวุฒิสภาก็ต้องแสดงความยินดีกับทุกคน ส่วนพลเอกเกรียงไกร ศรีรักษ์ สว. จะได้เป็นประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่งหรือไม่ ให้ไปถามที่รัฐสภา แต่หากได้เป็นประธานวุฒิสภาคนหนึ่งจริงก็ดีใจด้วยหมด อะไรที่ถูกต้องตามกฎหมายที่เป็นไปตามครรลองก็เป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น ส่วนที่โซเชียลมีเดียแซวว่าสายสีน้ำเงินกินรวบนั้น ก็ไม่มีอะไรชี้แจงและไม่เกี่ยวกับตน และนายทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่ได้แซวเรื่องนี้ระหว่างที่ไปออกรอบกอล์ฟกันที่เขาใหญ่เพราะไปตีกอล์ฟอย่างเดียว

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • จับตา\'มท.1\'ชงครม.ตั้ง\'อธิบดี-ผู้ว่าฯ\'ล็อตใหญ่ 29 เก้าอี้ สายตรง\'สีน้ำเงิน\'พรึ่บยกแผง จับตา'มท.1'ชงครม.ตั้ง'อธิบดี-ผู้ว่าฯ'ล็อตใหญ่ 29 เก้าอี้ สายตรง'สีน้ำเงิน'พรึ่บยกแผง
  • เปิดรายชื่อ‘ประธานกมธ.สามัญ’ประจำวุฒิสภา 21 คณะ ‘สายสีน้ำเงิน’คอนโทรลพรึ่บ เปิดรายชื่อ‘ประธานกมธ.สามัญ’ประจำวุฒิสภา 21 คณะ ‘สายสีน้ำเงิน’คอนโทรลพรึ่บ
  • ‘สายสีน้ำเงิน’กินเรียบ!!! ตบเท้ายึดเก้าอี้‘ประธานกมธ.วุฒิสภา’ 20 คณะลงตัว ‘สายสีน้ำเงิน’กินเรียบ!!! ตบเท้ายึดเก้าอี้‘ประธานกมธ.วุฒิสภา’ 20 คณะลงตัว
  • พักประชุมยาว!! สว.พันธุ์ใหม่-สีน้ำเงิน\'เปิดศึกแย่งเก้าอี้‘กมธ.สอบประวัติอัยการสูงสุด’ พักประชุมยาว!! สว.พันธุ์ใหม่-สีน้ำเงิน'เปิดศึกแย่งเก้าอี้‘กมธ.สอบประวัติอัยการสูงสุด’
  • พลิกปูม‘มงคล สุระสัจจะ’!เส้นทางไม่ธรรมดา จากก้อนดิน-เด็กวัด สู่เก้าอี้‘ปธ.วุฒิสภา’ พลิกปูม‘มงคล สุระสัจจะ’!เส้นทางไม่ธรรมดา จากก้อนดิน-เด็กวัด สู่เก้าอี้‘ปธ.วุฒิสภา’
  • ยกธงขาว!‘นันทนา’ยืดอกรับ‘สว.พันธุ์ใหม่’คงสู้‘บ้านใหญ่สีน้ำเงิน’ไม่ได้ ยกธงขาว!‘นันทนา’ยืดอกรับ‘สว.พันธุ์ใหม่’คงสู้‘บ้านใหญ่สีน้ำเงิน’ไม่ได้
  •  

Breaking News

'นายกฯอิ๊งค์'ซาบซึ้ง ได้เข้าเฝ้าฯ เจ้าชายอัลแบร์ที่ 2 แห่งราชรัฐโมนาโก

(คลิป) เป๊บซี่ ดีไหมล่ะ : เสริมสุข กษิติประดิษฐ์ & กิตติมา ธารารัตนกุล

กอ.รมน.ภาค4สน. โต้ข่าวปลอมกราดยิงยี่งอ! ยืนยันสถานการณ์ปกติ

ภท. เล็งฟ้องกลับ 'ณฐพร' ทำพรรคเสียหาย ข้องใจถูก 'ดีเอสไอ' ใช้เป็นเครื่องมือเล่นงาน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved