“ปชป.“หวั่น น้ำท่วมอีสานซ้ำซาก วอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการแก้ พร้อมเตือน เร่งเจรจา สปป.ลาว ก่อน”เขื่อนภูงอย” ปล่อยพิษ

วันที่ 31 กรกฎาคม 2567 ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)  นายวุฒิพงษ์ นามบุตร ส.ส. อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ แสดงความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคอีสานว่า ตนให้ความสำคัญในการบริหารจัดการน้ำ ทั้งน้ำอุปโภคบริโภค ตลอดทั้งน้ำเพื่อการเกษตรของประชาชนในพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และภาคอีสานมาโดยตลอด  ในภาคอีสานนั้นมีแม่น้ำสายหลักๆ คือ แม่น้ำโขง  แม่น้ำชี  แม่น้ำมูล และจากการซักถามในที่ประชุมงบประมาณได้รับคำชี้แจงจากหน่วยงานที่มาชี้แจงยืนยันว่าจะบริหารจัดการน้ำไม่ให้มีน้ำท่วมภาคอีสาน แต่ในทุกปีที่ผ่านน้ำก็ยังท่วมเหมือนเดิม ส่งผลกระทบต่อการ ดำเนินชีวิตและ สัญจรของพี่น้องประชาชน

ดังนั้นจึงขอฝากถึงเจ้าหน้าที่ภาครัฐบาลและส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องว่า ขอให้บริหารจัดการแบบบูรณาการร่วมกัน ทั้งจังหวัด กรมชลประทาน กรมทรัพยากรน้ำ  การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และเขื่อนต่างๆ รวมทั้งคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำในระดับจังหวัด ทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ต้องบริหารบูรณาการร่วมกัน  เพราะการบริหารน้ำ ที่มีประสิทธิภาพ ต้องมีน้ำเพียงพอต่อการอุปโภคบริโภค และไม่ท่วม

สส.อุบลราชธานี ยังได้กล่าวถึงปัญหาเขื่อนปากมูล ว่า เป็นปัญหาใหญ่ที่มีการถกกันมานาน เขื่อนปากมูลอยู่ภายใต้กำกับของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม้เคยมีมติว่าเขื่อนปากมูลจะเปิดเมื่อน้ำไหลปริมาณ 500 ลูกบาศก์เมตร หรือระดับน้ำมากกว่า 100 เมตรระดับทะเลปานกลาง  ต่อมาการบริหารจัดการต้องผ่านคณะกรรมการบริหารจัดการเขื่อนปากมูล แต่เมื่อมีมติที่ประชุมของคณะกรรมการแล้วเขื่อนปากมูลก็ไม่ได้ทำตามมตินั้น  โดยอ้างปัญหาระบบนิเวศ ปัญหากลุ่มผู้ร้องเรียน  ปัญหาเรื่องการประมงท้ายเขื่อน เป็นต้น  ดังนั้นตนขอเรียกร้องให้ทุกส่วนบริหารจัดการร่วมกันแบบบูรณาการเพื่อแก้ปัญหาให้ถูกจุดและบรรลุเป้าหมาย  

สส.อุบลราชธานี ยังกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นอีก ตนได้ตั้งข้อสังเกตและได้ทักท้วงในที่ประชุมงบประมาณ แต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเรื่องของระบบนิเวศ และการบริหารจัดการน้ำ กรณี สปป.ลาว จะมีการสร้างเขื่อนกั้นแม่น้ำโขง ชื่อเขื่อนภูงอย เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า เมื่อสร้างเสร็จน้ำจากแม่น้ำมูลจะไม่มีที่ไหลไป เพราะระดับน้ำมีความสูงต่ำขึ้นอยู่กับเขื่อนภูงอย   ซึ่งห่างจากเขื่อนปากมูลประมาณ 60 กิโลเมตร  ตนได้ซักถาม และฝากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ว่าท่านมีมาตรการรองรับ หรือ มีการพูดคุยระหว่างประเทศหรือยัง ว่าเมื่อสร้างเขื่อนภูงอยเสร็จ จะมีผลกระทบอย่างไร หรือมีเงื่อนไขตกลงกันอย่างไรขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน ว่ามติของคณะกรรมการแม่น้ำโขงจะเป็นเช่นไร ในการที่จะบริหารจัดการน้ำตรงนี้  ซึ่งตนมีความกังวลว่าหากปล่อยให้มีการสร้างโดยไม่มีการข้อตกลงร่วมกัน จะส่งผลกระทบกับภาคอีสานของไทยเป็นบริเวณกว้างใหญ่  ทั้งพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี อำนาจเจริญ  ศรีสะเกษ ยโสธร  รวมทั้งแม่น้ำสายหลักในพื้นที่ภาคอีสาน