“ภูมิธรรม”แจงยิบปมเลื่อนแถลงลงทะเบียนร้านค้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ชี้หวั่นปชช.สับสน เพราะอยู่ระหว่างเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนรับสิทธิ์ และมีผู้สนใจจำนวนมาก ขอให้จบเป็นเรื่องๆ ไป ยันพณ.ดำเนินการเรื่องให้ร้านค้าลงทะเบียนมาต่อเนื่องหมดเขตปชช.ลงทะเบียนเมื่อไหร่ พร้อมแถลงขั้นตอนของร้านค้าทันที ย้ำเริ่มตุลาคมยังทันเข้าระบบใช้เงิน เตรียมทำคลิป-โลโก้ร้านวอลเล็ต ยอดลงทะเบียนทะลุเกิน 24 ล้านคน
เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ที่ จ.เชียงใหม่ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงการเลื่อนแถลงข่าวลงทะเบียนร้านค้าเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จากที่กำหนดไว้ 5 สิงหาคมว่า เรื่องการเตรียมร้านค้า เป็นภารกิจของกระทรวงพาณิชย์ และได้เตรียมการมาต่อเนื่อง ไม่มีปัญหาอะไร แต่ที่จะเลื่อนแถลงข่าว “ร้านค้าที่เข้าร่วมโครกงารดิจิทัลวอลเล็ต” จากวันที่ 5 สิงหาคม ออกไปเป็นเดือนกันยายน เพราะไม่ต้องการให้ซ้ำกับการลงทะเบียนของประชาชน
เลื่อนแถลงร้านค้าลงทะเบียนยาวถึงกย.
นายภูมิธรรมชี้แจงว่า สิ่งที่เราประเมินคือ ไม่อยากให้ประชาชนสับสน เพราะตอนนี้อยู่ในช่วงให้ประชาชนลงทะเบียน และทะลักเข้ามาลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตจนถึงวันนี้มากกว่า 20 ล้านคนแล้ว และยังมีผู้ที่สนใจลงทะเบียนจำนวนมาก ขณะเดียวกันเราก็ได้รับคำถามต่างๆ ผ่านสายด่วน 1111 ว่ามีปัญหาอะไร เป็นธรรมดาที่เราทำเรื่องใหม่ ซึ่งประชาชนอาจจะต้องการเข้าใจมากขึ้น เพื่อให้การใช้งานดิจิทัลวอลเล็ตได้ผลมีประสิทธิภาพสูงสุด
เริ่ม1ตค.ยังทัน-ย้ำเงินเข้าระบบพย.
“ดังนั้น เราคิดว่าควรให้ผ่านช่วงลงทะเบียนประชาชนไปก่อน ซึ่งกว่าเงินดิจิทัลวอลเล็ตจะออกประมาณเดือนพฤศจิกายน และไทม์ไลน์ลงทะเบียนร้านค้า เริ่มวันที่ 1 ตุลาคม เป็นช่วงที่เราลงทะเบียนร้านค้า ยังมีเวลาเหลืออีก 2 เดือน เราจึงคิดว่าเลื่อนไปก่อนจะได้ไม่ให้สับสน รับเป็นเรื่องๆ เอาเรื่องคนลงทะเบียนให้จบ และจากนี้เอาเรื่องร้านค้ามาทีเดียว ยืนยันว่าขณะนี้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เดินเรื่องสอบถามหน่วยงานเอกชน รวมทั้งร้านค้าแล้ว มีการแสดงตนสนใจเข้าโครงการแล้ว 1.44 ล้านรายแล้ว หลังจากที่เคลียร์ชัดเจนเราจะบอกว่าประเภทร้านค้าแบบไหนอยู่ในลำดับที่เท่าไรและจะซื้ออะไรได้บ้าง ภายใน 1 เดือนทุกอย่างจะชัดเจนมากขึ้น”นายภูมิธรรมระบุ
เร่งทำคลิป-โลโก้ร้านวอลเล็ต
และว่า ขณะเดียวกัน เพื่อให้ร้านค้าสามารถเข้าใจและดำเนินการได้โดยประชาชนได้เข้าใจด้วย เพราะคนที่มาจ่ายเราจะใช้โลโก้ให้เกิดความชัดเจน ขอเวลาอีกสักประมาณ 1 เดือน ถ้าลงทะเบียนบุคคลเรียบร้อย ก็พร้อมจะชี้แจงได้เลย โดยกำลังเตรียมจัดทำคลิปวิดีโอหลายเรื่องเพื่อทำความเข้าใจทุกขั้นตอน โดยจะผ่านสื่อออนไลน์ สื่อทีวี สื่อหลักทั้งหมด ทำให้เกิดความชัดเจนไม่สับสน กระทรวงพาณิชย์มีความพร้อม ทั้งนี้ จากที่สอบถามร้านค้าภายในตลาด สนใจเข้าโครงการ และส่วนใหญ่มีระบบโอนเงินชำระค่าสินค้า ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ อย่างบาร์โค้ด ดังนั้น การใช้เงินดิจิทัล เชื่อว่าเป็นสังคมที่ประชาชนเข้าถึงได้
ลุยโครงการสินค้าราคาถูกทั่วไทยก่อน
นายภูมิธรรมกล่าวด้วยว่า สัปดาห์นี้ จะเริ่มโครงการลดภาระและต้นทุนผู้ประกอบการ โดยเฉพาะค่าเช่าพื้นที่ ซึ่งได้ประสานหน่วยงานต่างๆ ให้ช่วยลดค่าเช่าพื้นที่หรือให้พื้นที่ขายของโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายอย่างน้อย 3 เดือน ระหว่างเดือนสิงหาคม-ตุลาคม โดยกระทรวงพาณิชย์ ประเดิมยกเว้นเก็บค่าใช้พื้นที่ขายของรายเดือน แบ่งเป็น ร้านจำหน่ายในศูนย์อาหารสวัสดีการ 43 ร้านค้า และ แผงค้าในตลาดนัดที่จัดทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และศุกร์ จำนวน 993 แผง
ลงทะเบียนพุ่งไม่หยุดเกิน24ล.คนแล้ว
ด้านนายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกหน่วยงาน รวมทั้งภาคเอกชนที่ร่วมมือช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนในการลงทะเบียนรับสิทธิ์ดิจิทัลวอลเล็ต โดยข้อมูลล่าสุดมีคนลงทะเบียนตรวจสอบตัวตนแล้วมากกว่า 24 ล้านคน ทั้งนี้ กระแสตอบรับยอดลงทะเบียนของประชาชนเป็นกำลังใจในการเดินหน้าทำงาน สู้กับเสียงคัดค้าน ด้อยค่า หวังผลทางการเมือง แต่ไม่ได้ทำให้กำลังใจของรัฐบาลลดลง เพราะมีเสียงสะท้อนที่มีค่าจากประชาชน จึงขอให้ประชาชนรับฟังการประชาสัมพันธ์จากหน่วยงานรัฐบาล อย่าหลงเชื่อข่าวลวงสร้างความสับสน
เพิ่มจุดช่วยลงทะเบียนที่ธ.กรุงไทย
โฆษกรัฐบาลระบุว่า ขณะนี้หน่วยงานจากทุกภาคส่วนร่วมอำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนให้ประชาชนกลุ่มผู้ที่มีสมาร์ทโฟน ที่อาจประสบปัญหา และไม่ได้รับความสะดวกเท่าที่ควร หรือต้องการความช่วยเหลือจากเดิมมีกว่า 5,000 จุด ปัจจุบันเพิ่มเติมที่ธนาคารกรุงไทย 900 จุด รวมเป็นกว่า 6,000 จุด โดยรัฐบาลได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อำนวยความสะดวกในการลงทะเบียนให้กับประชาชน โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีประชาสัมพันธ์สถานที่จุดให้บริการ (Walk-in) สอบถามข้อมูล และให้บริการรับลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ดังนี้ ศูนย์ดิจิทัลชุมชน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ, ที่ทำการไปรษณีย์ 1,200 แห่งทั่วประเทศ (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ), ธนาคารออมสิน 1,047 แห่งทั่วประเทศ, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) 1,238 แห่งทั่วประเทศ และธนาคารกรุงไทย 900 แห่งทั่วประเทศ ทั้งนี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ให้บริการอำนวยความสะดวกประชาชนตลอดเวลาทำการ ส่วนประชาชนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน จะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน ถึง 1 ตุลาคม รัฐบาลจะมีการแจ้งวิธีการลงทะเบียนและจุดให้บริการอย่างเป็นทางการต่อไป
ชี้เปรี้ยง!‘เงินดิจิทัล’ไม่ผ่าน4ด่าน
นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุว่า แจกเงินดิจิตัลคนละ 10,000 บาท พรรคร่วมรัฐบาลในคณะรัฐมนตรี จะกล้าลงมติร่วมรับผิดกับพรรคเพื่อไทยด้วยหรือไม่ เนื่องเพราะ สว.ชุดที่แล้ว เคยเปิดอภิปรายทั่วไปแนะนำให้ต้องผ่าน 4 ด่านให้ได้คือ 1.ชอบด้วยกฎหมาย 2.คุ้มค่า 3.บรรลุวัตถุประสงค์ได้จริง และ4.ไม่มีทุจริต แต่สถานะโครงการปัจจุบันยังมีความไม่ชัดเจนทั้ง 4 ข้อ นั่นคือ 1.เป็นการใช้เงินงบประมาณล้วนๆ โดยบริหารเงินให้ปี 2567 มีเงินเหลือ และตั้งงบเพิ่มเติมไว้ในงบกลาง แล้วตั้งงบปี 2568 เติมให้ครบ ซึ่งทั้ง 3 ส่วนต้องผ่านสภาทุกกรณีและต้องใช้มติ ครม.สั่งโอนสั่งใช้จ่ายได้ตามเงื่อนไขกฎหมายอย่างเคร่งครัด ข้อนี้ยังทำได้ไม่ถูกต้องครบถ้วน
ชี้คนเกี่ยวข้องเสี่ยงรับผิดชอบร่วมครม.
นายดิเรกฤทธิ์กล่าวต่อว่า 2.อาจไม่คุ้มค่า เพราะระบบการแจกเงิน การใช้จ่าย และการแลกเงินผ่านระบบการเงินธนาคาร ยังไม่ชัดเจนว่าจะเชื่อมโยงข้อมูลกันได้หรือไม่อย่างไร และสุ่มเสี่ยงต่อความปลอดภัยจากการรั่วไหลของข้อมูล รวมทั้งการจ้างทำระบบจะทำได้หรือไม่ โดยจะจ้างใครด้วยราคาแพงแค่ไหน อย่างไร รายจ่ายและความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นทั้งหมด จะคุ้มค่ากับประโยชน์ที่ได้จริงจากการลงทุนหรือไม่
3.ความเสียหายจากการชะลอใช้งบประมาณปี 2567 ที่เป็นระบบหมุนเวียนเศรษฐกิจปกติ แลกกับการนำมารวมแจกในภายหลัง เป็นการเฉพาะ จะทำให้ประชาชนและประเทศได้ประโยชน์มากมายจริงตามโครงการหรือไม่ 4.เมื่อเทียบกับการใช้งบประมาณแจกเป็นเงินสดก็มีร่องรอยข้อสงสัยการทำทุจริตได้เต็มไปหมด ทั้งจากเทคนิค เทคโนโลยี และจากขั้นตอนบริหาร ซึ่งผู้เกี่ยวข้องสุ่มเสี่ยงที่อาจต้องรับผิดชดใช้ความเสียหายร่วมกับ ครม.ไปด้วย
ทุ่มงบเงินดิจิทัลมากจนลืมช่วยน้ำท่วม
นายนิติพล ผิวเหมาะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า แม้ว่าเรื่องเศรษฐกิจไทยขณะนี้เป็นเรื่องสำคัญที่น่ากังวล แต่การบริหารจัดการงบประมาณต้องเหมาะสม จัดวางน้ำหนักความสำคัญให้ครอบคลุม ซึ่งสิ่งแวดล้อมเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องวางแผนให้ดี เพราะขณะนี้ประชาชนหลายสิบจังหวัดกำลังประสบอุทกภัย
‘แต่ผมเริ่มมองเห็นสัญญาณที่ไม่ดีนักในการรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติหรือวิกฤตต่างๆ ของภาครัฐ และคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการบริหารจัดการงบประมาณของภาครัฐไม่มากก็น้อย เนื่องจากท่ามกลางกระแสตีปี๊บโหมผลงานการลงทะเบียนดิจิทัลวอลเล็ตคึกคัก สิ่งที่ซ่อนอยู่และดูเหมือนจะให้ความสำคัญน้อยกว่ามากคือสถานการณ์น้ำท่วมภาคอีสานและภาคตะวันออกซึ่งมีมากกว่าสิบจังหวัดได้รับผลกระทบแล้ว และยังไม่มีความเคลื่อนไหวในเรื่องนี้จากรัฐบาลมากนัก”นายนิติพลกล่าว และว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้คือรัฐบาลขยับเรื่องนี้น้อยมาก มากจนเหมือนไม่อยากทำอะไร สันนิษฐานว่าเป็นเพราะถ้าขยับมากก็จะต้องควักงบกลางออกมามาก ซึ่งไม่อยากใช้กลัวจะไปกระทบเงินที่กันไว้ใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตหรือไม่ ความทุกข์ยากของประชาชนจึงให้ความสำคัญน้อยกว่าที่ควรเป็น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี