"ชวน"มองยุค"อุ๊งอิ๊งค์" รัฐบาลยังมั่นคง เหตุเสียง ส.ส.ยังแน่นปึ้ก "ปชป."จะร่วมด้วยหรือไม่ต้องเป็นมติพรรค

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โฟนอินให้สัมภาษณ์กับรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในประเด็นกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทั้งที่ไม่เคยมีประสบการณ์ทางการเมืองมาก่อน อาจนำไปสู่ปัญหาอะไรได้หรือไม่? ว่า ตนยังไม่ได้วิเคราะห์ถึงขั้นนั้น คงต้องให้เวลาในการจัดตั้งรัฐบาล แต่กระบวนการเลือกนายกฯ ก็เป็นไปตามระบบที่กฎหมายมีอยู่

ส่วนที่มีคำพูดประมาณว่า น.ส.แพทองธาร คือไพ่ใบสุดท้ายของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ตนเห็นว่า เรื่องไพ่ใบแรกหรือใบสุดท้ายไม่ได้มีการพูดถึง แต่ในแง่ของความแป็นรัฐบาล เห็นว่าเสียงที่รัฐบาลมีก็ยังมีความมั่นคง ในแง่จำนวน สส. ที่สนับสนุน อีกทั้งยังมีเสียง สส. เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่เดิมแล้วด้วยตามที่ปรากฏเป็นข่าวในวันลงมติเลือกนายกฯ และยังไม่เห็นแนวโน้มว่าจะมีพรรคการเมืองใดออกไปจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล การที่รัฐบาลจะทำงานต่อไปภายใต้เงื่อนไขเสียงข้างมากจึงยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

ส่วนที่มีกระแสข่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์อาจไปร่วมรัฐบาล ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มที่รัฐบาลจะมีเสียง สส. มากขึ้น ตนเห็นข่าวจากสื่อ แต่ยังไม่ได้ยินคนในพรรคพูดกัน คนที่อยากไปร่วมก็คงมีอยู่ แต่ตามระบบของพรรคจะไปร่วมกับใครก็ต้องเป็นมติพรรค แต่ใครคนใดคนหนึ่งจะแอบไปติดต่อกัน เรื่องนั้นยอมรับว่าตนไม่มีโอกาสรู้ ส่วนที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน กล่าวเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 2567 บอกว่าหากมีมติพรรคออกมาทุกคนต้องเคารพ โดยทั่วไปก็ต้องเป็นแบบนั้น จะไปเข้าร่วมรัฐบาลก็ต้องเป็นมติพรรค ไม่ใช่ไปแอบทำลับๆ ล่อๆ ให้พรรคเสื่อมเสีย

ซึ่งแม้โดยส่วนตัวยืนยันมาตลอดว่าไม่ประสงค์จะร่วมรัฐบาล แต่เมื่อมติพรรคออกมาอย่างไรก็ต้องเป็นอย่างนั้น ส่วนกรณี นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช ออกมาให้ความเห็นว่า หากพรรคประชาธิปัตย์ไปร่วมรัฐบาลก็เท่ากับเป็นการฆ่าตัวตาย ตนมองว่าแต่ละคนก็มีความเห็นแตกต่างกันไป แต่ก็ต้องยอมรับว่าผู้บริหารพรรคชุดปัจจุบันกับชุดก่อนนั้นต่างกันโดยสิ้นเชิง ตัวพรรค อุดมการณ์และนโยบายของพรรคไม่ได้เปลี่ยน แต่ตัวบุคคลนั้นเปลี่ยนไปอย่างที่เห็นกันอยู่ แต่ที่ผ่านมาก็เห็นการละเมิดมติพรรคแล้ว 2-3 ครั้ง ในการลงมติ แต่พวกตนยังไม่เคยฝืนมติพรรค

“ที่เราเห็นเปลี่ยนไปจากเดิม ก็ดูจากครั้งที่แล้วที่คุณเศรษฐา (นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี) มติพรรคบอกไม่รับ แต่พอถึงเวลา คนที่เสนอไม่รับนั่นแหละก็หายไป มาโผล่ขึ้นมาอีกทีก็เข้ามารับ อันนี้ชัดเจนว่ามติพรรค เที่ยวนี้ยังไม่ปรากฏ เพียงแต่ว่าเมื่อมีการรับนายกฯ มติของพรรคเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (16 ส.ค. 2567) ไม่รับโดยงดออกเสียง แต่ไม่ได้เป็นเอกฉันท์ มีเสียงที่ไม่เห็นด้วยอยู่เหมือนกัน แต่เวลาลงมติว่าใครเห็นว่าควรจะไม่รับโดยงดออกเสียงให้ยกมือ ก็มีคนยก ก็มีคนไม่ยก ไม่ใช่เอกฉันท์ทุกคน มีคนไม่ยก แต่เสียงส่วนใหญ่ยกมือว่าให้งดออกเสียง” นายชวน กล่าว

นายชวน กล่าวต่อไปว่า อย่างไรก็ตาม ก็มีคนเสนออยู่เหมือนกันว่าน่าจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านว่าควรจะลงมติอย่างไร แต่ที่ประชุมของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เอาด้วย โดยเสียงส่วนใหญ่เห็นควรให้ลงมติไม่รับรอง น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ด้วยการงดออกเสียง แต่ไม่ใช่ สส. ของพรรคทุกคนจะเห็นแบบนั้นทั้งหมด ส่วนการงดออกเสียงจะเป็นสัญญาณการขอเข้าร่วมรัฐบาลหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ในส่วนของตนคือไม่มีสัญญาณไปร่วม และตนเห็นว่าเมื่อไม่ได้เป็นรัฐบาลก็ต้องเป็นฝ่ายค้านที่ทำงานอย่างจริงจัง เพราะไม่ว่าจะทำหน้าที่อะไรก็ต้องจริงจังในเรื่องนั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :

- ศิษย์เก่าเตือน‘ประชาธิปัตย์’ ร่วมรัฐบาล‘อุ๊งอิ๊งค์’ = ฆ่าตัวตาย ครั้งที่2

- แบะท่ารอแล้ว!!! 'ปชป.'พร้อมเป็นทั้ง'ฝ่ายค้าน-รัฐบาล' ยันยังไม่มีเทียบเชิญ

ชมคลิปเต็มได้ที่ : https://www.youtube.com/watch?v=AY6T3nWcauw

- 006