ย้อนมองชะตากรรม"ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์" สื่ออินโดฯจับตารัฐบาล"อุ๊งอิ๊งค์"จะอยู่จนครบวาระได้หรือไม่?

เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2567 นสพ.The Jakarta Post ของอินโดนีเซีย เผยแพร่บทบรรณาธิการ หัวข้อ “Can Shinawatra survive?” ระบุว่า แม้ แพทองธาร ชินวัตร ทายาทวัย 38 ปี ของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย แต่การทำงานของเธอหลังจากนี้จะเต็มไปด้วยความเสี่ยงที่จะหลุดจากตำแหน่งได้ทุกเมื่อ หากขั้วอำนาจฝ่ายอนุรักษ์นิยมไม่สนับสนุน แม้จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศน่าเชื่อถือถือเพียงใดก็ตาม

บทบรรณาธิการของสื่ออินโดฯ กล่าวว่า ในประเทศไทย การโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งสามารถทำได้ 2 วิธี คือ 1.การรัฐประหารโดยกองทัพ กับ 2.ใช้กลไกศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ ทักษิณ และน้องสาวของเขา ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่เคยเป็นนายกรัฐมนตรีเช่นกัน ต้องพ้นจากตำแหน่งจากการทำรัฐประหารในปี 2549 และปี 2557 ตามลำดับ ดังนั้น จึงมีคำถามว่า นายกฯ คนที่ 3 จากตระกูลชินวัตรอย่างแพทองธาร จะสามารถอยู่ในตำแหน่งไปจนครบวาระในปี 2570 ได้จริงหรือ?

“ประเทศไทยได้กลายเป็นต้นแบบของผู้นำประเทศที่ไม่เป็นประชาธิปไตยในภูมิภาคที่ต้องการยึดอำนาจโดยไม่คำนึงถึงความปรารถนาของประชาชน ลองดูที่เมียนมา ซึ่งคณะรัฐประหารภายใต้การนำของ พล.อ.มินอ่องหล่าย ได้เรียนรู้จากนายพลของไทยเมื่อยึดอำนาจจากรัฐบาลของ อองซานซูจี เมื่อเดือน ก.พ.2564 ผู้นำคณะรัฐประหารเมียนมาชื่นชม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นผู้ทำรัฐประหารรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในปี 2557 และรักษาอำนาจทางการเมืองไว้ได้จนถึงปี 2566 อย่างเปิดเผย ขณะที่รัฐบาลไทยภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็แสดงความลังเลใจที่จะสนับสนุนความคิดริเริ่มของอาเซียนในการฟื้นฟูสันติภาพในเมียนมา” บทบรรณาธิการของสื่ออินโดฯ ระบุ

บทความของ The Jakarta Post ทิ้งท้ายว่า การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลของไทยจะนำไปสู่เสถียรภาพหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับขั้วอำนาจฝ่ายอนุรักษ์นิยมเป็นหลัก เพื่อนบ้านร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ซึ่งรวมถึงอินโดนีเซีย ได้แต่อวยพรให้แพทองธารและประเทศไทยโชคดีท่ามกลางการทดสอบของกาลเวลา

- 006