ฉากทัศน์‘มวลชน’ หลังรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามสี

ฉากทัศน์‘มวลชน’ หลังรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามสี

วันอาทิตย์ ที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2567, 16.43 น.

ฉากทัศน์‘มวลชน’ หลังรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามสี

1 กันยายน 2567 ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต อดีตผู้ประสานงานกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ฉากทัศน์มวลชน หลังรัฐบาลข้ามสี” มีเนื้อหาดังนี้...


#ฉากทัศน์ “มวลชน” หลัง “รัฐบาลข้ามสี”

นับตั้งแต่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน ภายใต้ยุทธศาสตร์ปรองดองด้วยการ ข้ามขั้วอำนาจผ่าน มากว่าหนึ่งปี การปรองดองก็ยังไม่ปรากฏเป็นรูปธรรมแต่อย่างใด

แต่ที่เห็นชัดคือเกิดการผสมผสานของกลุ่มผลประโยชน์ทางการเมืองและพรรคการเมือง ได้อย่างลงตัว จนกลายมาเป็น concept การเมืองทำคลอดรัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯแพทองธาร ได้อย่างรวดเร็วง่ายดายในปัจจุบันแม้จะ effect อยู่บ้าง

Concept นี้จะกลายเป็นสูตรการเมืองในสนามเลือกตั้ง “คือ สูตรเอาหรือไม่เอาพรรคประชาชน(ก้าวไกล)” ทำให้ในสนามเลือกตั้งครั้งหน้า จะไม่ใช่การแข่งขันกันภายใต้ระบบสองพรรคใหญ่ หรือระบบหลายพรรคแบบที่เคยเป็น

แต่จะกลายเป็น “ระบบพรรคครึ่ง” คือพรรคประชาชน ที่คะแนนนิยมกำลังแรงแซงลิ่ว ทิ้งห่างทุกพรรค แข่งกับกลุ่มก้อนการเมืองที่วันนี้ดูเหมือนมีหลายพรรค ซึ่งไม่แน่ว่าพอถึงวันเลือกตั้ง อาจจะควบรวม หรือเป็นเครือข่ายการเมืองและกลุ่มผลประโยชน์เพื่อต่อต้านพรรคประชาชน (ก้าวไกล) เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม “เครือข่ายข้ามขั้ว” ยังไม่ได้สถาปนาเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมการณ์ตรงข้ามกับพรรคประชาชน หรือแข่งกับพรรคประชาชน ด้วยอุดมการณ์ที่แตกต่างอย่างแท้จริงในระยะเฉพาะหน้านี้ แต่ระยะยาวหากจะต่อกรกับพรรคประชาชนจะถูกบีบให้โบกสะบัดด้วยอุดมการณ์ชุดใดชุดหนึ่งเท่านั้น

ส่วนฉากทัศน์การเมืองของมวลชนนอกสภา ถ้าในฐานะ Voter  ก็ยังผูกโยงกับฉากทัศน์ของการเมืองในสภา ที่ตัวเองชื่นชอบและสังกัด ก็จะเป็นแดง+เหลือง+น้ำเงิน+ฟ้า ฟาดฟันกับส้ม

แต่ด้วยเหตุที่การเมืองของมวลชนมีชุดอุดมการณ์เข้ามาประกอบสร้างมากขึ้นในช่วงหลังๆ จึงดูยุ่งยากและไม่เรียบง่ายแบบในสภา การปะทะของสีของมวลชนแก่นแกนหลักยังเป็นเหลืองเข้มปะทะส้มเข้ม ส่วนแดง เหลืองอ่อน น้ำเงินและฟ้า  ยังเป็นตัวแปรของสถานการณ์ การเคลื่อนไหวมวลชนบางช่วงเท่านั้น

ด้วยเหตุดังนั้นฉากทัศน์การเมืองของมวลชนจึงเป็นคนละฉากทัศน์การเมืองของนักการเมืองในสภา และนับวันยิ่งแยกห่างจากกันมากขึ้นจนน่าเป็นห่วงเพราะพรรคการเมืองไม่ได้ปักหมุดทางอุดมการณ์ เป็นเพียงกลุ่มผลประโยชน์เฉพาะหน้าเท่านั้น

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top