‘มาร์ค’ชี้‘แม้ว’กลับมามีบทบาท
รบ.ก้าวไม่พ้นครอบครัว
ประเมินสภาฯอยู่ครบเทอม
จุดตายรบ.อยู่ที่ศรัทธาปชช.
ระวังธรณีสงฆ์อัลไพน์ปักอก
‘หมอมิ้ง’ยํ้ำครม.ใกล้สมบูรณ์
“อภิสิทธิ์”ระบุ“ทักษิณ”กลับมามีบทบาทเหมือนครั้งเคยเรืองอำนาจ ทำรัฐบาลแพทองธาร ไม่สามารถก้าวพ้นครอบครัวได้ ทั้งยังมีกรณีธรณีสงฆ์อัลไพน์ปักอกเตือนอย่าทำผิดซ้ำ เชื่อจุดตายรัฐบาลอยู่ที่ศรัทธาประชาชน ผลพวงผสมพันธ์กับพรรคเพื่อไทย‘ซูเปอร์โพล’เผยเรตติ้งประชาธิปัตย์ทรุดฮวบ
เมื่อวันที่ 1กันยายน2567 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับมามีบทบาทในประเทศอีกครั้งว่า ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากวันที่นายทักษิณเคยเรืองอำนาจ ส่วนที่นายทักษิณเข้ามามีบทบาทในการบริหารประเทศจะกระทบกับการบริหารประเทศมากน้อยแค่ไหนนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า จริงๆ สังคมก็มองออกว่านายทักษิณมีบทบาทมาต่อเนื่อง เพียงแต่จะเปิดเผยมากน้อยแค่ไหนเท่านั้นเอง ส่วนหนึ่งถ้ามองในมุมบวกก็ต้องบอกว่า สำหรับคนที่เชื่อในแนวทางนั้นก็อาจจะมีความเชื่อมั่น มีความมั่นใจมากขึ้น อาจจะทำให้การประสานงาน อาจจะใช้ประสบการณ์ผลักดันในสิ่งที่ตัวเองต้องการ
“ทักษิณ”ยังเรืองอำนาจ
“ขณะเดียวกันอย่างที่ผมเคยบอกว่า วันที่นายทักษิณเคยมีอำนาจมากมายมหาศาล สุดท้ายก็ต้องยุติลงด้วยหลายสิ่งหลายอย่างที่เป็นความไม่ถูกต้อง ดังนั้นถ้ายังไม่เก็บเกี่ยวบทเรียนตรงนี้ความเสี่ยงที่จะเกิดแบบนี้อีกก็มี” นายอภิสิทธิ์กล่าว
เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ช่วงที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ลงเล่นการเมือง นายอภิสิทธิ์เคยปราศรัยว่าสงสาร น.ส.ยิ่งลักษณ์ วันนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นนายกฯ แล้ว มองอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรากำลังพูดถึงคนในครอบครัว ตนไม่ไปก้าวล่วงในแง่ความสัมพันธ์ในครอบครัวจะเป็นอย่างไร แต่แสดงว่าเป็นแนวทางที่ต้องสอดรับกัน
“ผมเคยพูดหลายครั้งว่า แม้จะต่อสู้กับพรรคเพื่อไทยมาอย่างยาวนาน ผมก็ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยมีความสำเร็จในบางเรื่อง และเสียดายว่าเขาไม่ได้ต่อยอดเอาตรงนั้นมาเป็นแกนในการขับเคลื่อนพรรค และยังไม่สามารถที่จะก้าวพ้นครอบครัวได้” นายอภิสิทธิ์กล่าว
“มาร์ค”ชี้จุดตายรบ.อิ๊งค์
เมื่อถามย้ำว่าทั้งนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์มีจุดจบที่ไม่สวย มาวันนี้คนก็มองว่าจุดจบของ น.ส.แพทองธารจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เราไม่อยากให้มีปัญหา จริงๆ ดีที่สุด ถ้าหากรัฐบาลสามารถที่จะแก้ไขปัญหาของประเทศบนความถูกต้องได้ ทุกคนก็ควรจะดีใจ
ต่อข้อถามว่ามองว่าจากนี้จะมีการปฏิวัติเกิดขึ้นหรือไม่ เพราะคนตระกูลชินวัตรมาเป็นนายกฯ คนที่ 3 แล้ว นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า คงไม่ใช่เรื่องตระกูลหรืออะไร แต่อยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้มันมีเงื่อนไข และเราก็ไม่อยากจะต้องไปสู่จุดนั้นกันอีก ผู้สื่อข่าวถามว่ามองว่ารัฐบาล น.ส.แพทองธาร จะอยู่ครบเทอมหรือไม่ เพราะตัวนายกฯ ก็มีปัญหาเรื่องที่ดินอัลไพน์ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนคิดว่าสภาน่าจะอยู่ครบเทอม เพราะตนก็มองไม่เห็นว่าจะมีปัญหาในพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งไม่น่าจะมีพรรคไหนอยากจะเลือกตั้งเร็ว เมื่อถามย้ำว่า คิดว่ามีอะไรเป็นจุดอ่อน หรือจุดตายของรัฐบาลชุดนี้ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ปัญหาศรัทธาของประชาชนที่ไปเกี่ยวข้องกับเรื่องความไม่ถูกต้อง
เรดติ้งประชาธิปัตย์ทรุด
สำนักวิจัย “ซูเปอร์โพล” เสนอผลสำรวจเรื่อง “ความนิยมต่อประชาธิปัตย์” กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น จำนวนทั้งสิ้น 1,346 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา เมื่อวิเคราะห์ความนิยมของประชาชนคนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ต่อพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีข่าวเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย พบว่า คะแนนนิยมต่อพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้นหรืออยู่ในแดนบวก เพียงร้อยละ 39.9 ในขณะที่คะแนนนิยมส่วนใหญ่ต่อพรรคประชาธิปัตย์ลดลงหรืออยู่ในแดนลบ ถึงร้อยละ 60.1 ในกลุ่มคนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์
คะแนนนิยมเพื่อไทยเพิ่ม
เมื่อวิเคราะห์ความนิยมของประชาชนคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทยต่อพรรคเพื่อไทย หลังมีข่าวพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล พบว่า คะแนนนิยมต่อพรรคเพื่อไทยกลับเพิ่มขึ้นหรืออยู่ในแดนบวก สูงถึงร้อยละ 80.4 ในขณะที่คะแนนนิยมต่อพรรคเพื่อไทยลดลงหรืออยู่ในแดนลบ มีอยู่ร้อยละ 19.6 ในกลุ่มคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทย ที่น่าพิจารณาคือ
เมื่อจำแนกออกตามกลุ่มอาชีพของคนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ พบว่า พรรคประชาธิปัตย์เสียคะแนนนิยมในกลุ่มพนักงานเอกชนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด คือร้อยละ 81.1 รองลงมาคือกลุ่มเกษียณอายุ ร้อยละ 66.7 กลุ่มค้าขายอาชีพอิสระ ร้อยละ65.3 กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 62.3 และกลุ่มเกษตรกร ร้อยละ54.7 ของกลุ่มคนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกออกตามกลุ่มอาชีพของคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทย พบว่า หลังมีข่าวพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กลับ ทำให้คะแนนนิยมของประชาชนคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้นหรืออยู่ในแดนบวก สูงสุดในกลุ่มเกษียณอายุร้อยละ 81.8 รองลงมาคือ กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 80.6 กลุ่มเกษตรกร ร้อยละ 79.2 กลุ่มค้าขาย อาชีพอิสระ ร้อยละ 73.8 และกลุ่มพนักงานเอกชน ร้อยละ 66.9 ของกลุ่มคนที่เคยเลือกพรรคเพื่อไทย
ที่น่าสนใจอีกประเด็นของผลสำรวจครั้งนี้คือ ความรู้สึกของประชาชน เมื่อพรรคก้าวไกลถูกยุบ พบว่า จำนวนมากสุดหรือร้อยละ 44.1 รู้สึกเฉย ๆ ในขณะที่ร้อยละ 29.7 เสียใจ แต่สัดส่วนใกล้เคียงกันคือร้อยละ 26.2 กลับรู้สึกดีใจ
วงจรอุบาทว์เกิดซ้ำซาก
รายงานของสำนักวิจัยซูเปอร์โพลครั้งนี้สะท้อนถึงความรู้สึกและการตอบสนองทางอารมณ์ของประชาชนต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองล่าสุดในประเทศไทยได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ การร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยทำให้มีการเปลี่ยนแปลงคะแนนนิยมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มคนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ที่มีความไม่พอใจเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทยกลับมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้นสูง นอกจากนี้ การยุบพรรคก้าวไกลยังสร้างความรู้สึกที่หลากหลายในหมู่ประชาชน ซึ่งเป็นสัญญาณของการแบ่งขั้วทางความคิดและการตอบสนองที่แตกต่างกันตามสถานการณ์การเมืองในประเทศไทยที่อาจนำพาไปสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซากได้
รายงานของซูเปอร์โพล ระบุด้วยว่า เพื่อตอบโจทย์ของการเสริมสร้างความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากประชาชนต่อการขับเคลื่อนประเทศตามระบอบประชาธิปไตยในอนาคต สำนักวิจัยซูเปอร์โพลจึงจัดทำข้อเสนอแนะที่อาจช่วยให้กลุ่มการเมืองต่างๆ สามารถตอบสนองความต้องการและคาดหวังของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสัมฤทธิ์ผลทางการเมืองการปกครองประเทศหลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์ซ้ำซาก
ต้องเร่งสร้างความโปร่งใส
1.เพิ่มความโปร่งใสและมีส่วนร่วม กลุ่มการเมืองควรเพิ่มความโปร่งใสในการตัดสินใจและนโยบายต่างๆ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้นในกระบวนการต่างๆ เช่น การจัดทำนโยบาย การแก้ไขปัญหาสังคม หรือการวางแผนการพัฒนาต่างๆ โครงการสำคัญตามนโยบายเฉพาะพิเศษของรัฐบาล เช่น เงินดิจิทัล ซอฟต์พาวเวอร์ การให้สิทธิพิเศษต่อชาวต่างชาติและบริษัทข้ามชาติ เป็นต้น
2.สื่อสารที่ชัดเจนและสม่ำเสมอ การให้ข้อมูลที่ชัดเจนและสม่ำเสมอเกี่ยวกับนโยบายและแผนงานที่กำลังดำเนินการ จะช่วยให้ประชาชนเข้าใจและติดตามผลงานของพรรคได้ง่ายขึ้น และช่วยสร้างความไว้วางใจ
ตอบสนองความต้องการปปช.
3.ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชน ให้ความสำคัญกับความต้องการของประชาชนในระดับท้องถิ่นและแหล่งเลือกตั้งของตน เพื่อสร้างนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการจริงๆ ของพวกเขา ซึ่งจะช่วยเพิ่มคะแนนนิยมและการสนับสนุน 4.ส่งเสริมความเป็นธรรมและการบริหารจัดการที่ดี พยายามลดการใช้อำนาจทางการเมืองเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรือกลุ่ม โดยมุ่งเน้นการบริหารจัดการที่ดีและเป็นธรรม สนับสนุนการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจ 5.การศึกษาและการพัฒนาความรู้ระบบการเมือง ส่งเสริมการศึกษาและการพัฒนาความรู้ให้กับประชาชน เพื่อให้พวกเขามีความเข้าใจในระบบการเมืองและนโยบายต่างๆ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถตัดสินใจเลือกพรรคการเมืองที่ตนสนับสนุนได้อย่างมีข้อมูลครบถ้วน
6.ให้ความสำคัญกับปัญหาที่เฉพาะเจาะจง มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาที่มีความเฉพาะเจาะจง เช่น การเพิ่มการจ้างงาน การบริหารจัดการทรัพยากร การแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และการพัฒนาอุตสาหกรรมความรู้ วิจัยนวัตกรรมต่างๆ โดยรวมแล้ว ความพยายามในการสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงทางการเมืองที่ยั่งยืนจะต้องอาศัยความโปร่งใส ความเป็นธรรม และการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นหลักจะช่วยทำให้ประเทศไทยห่างไกลวงจรอุบาทว์ได้ไม่ยากนัก
‘อดีตสว.วันชัย’สะกิดแม้วระวังตัว
นายวันชัย สอนศิริ อดีตสว.โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “ผลงานของนายกอุ๊งอิ๊ง เท่านั้นที่จะชนะศัตรูหมู่มารได้’ระบุข้อความว่า ศัตรูเก่าศัตรูใหม่ของคุณทักษิณพ่อของนายกอุ๊งอิ๊ง เขาเตรียมถล่มกันทุกเม็ดทุกดอก ถาโถมเข้าใส่ทั้งคุณทักษิณและคุณอุ๊งอิ๊ง สิ่งคนที่ไม่ได้เป็นรัฐบาลยิ่งจะหาเรื่องจัดหนักจัดเต็ม นายกอุ๊งอิ๊งเตรียมตั้งหลักที่จะรับสารพัดเรื่องได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เพราะดูแต่ละคน แต่ละพวกแล้ว ต้องการที่จะเล่นงานคุณทักษิณและนายกอุ๊งอิ๊งให้คว่ำคะมำลงไปให้ได้ จะไปห้ามคนพวกนี้ก็คงจะไม่ได้ มันฝังรากลึกกันเสียแล้ว นับแต่นี้รัฐบาลนายกอุ๊งอิ๊งอย่าไปมัวเสียเวลากับคนพวกนี้ และเลิกคิดเรื่องการโกงกินทุจริตคอร์รัปชัน การเล่นพรรคเล่นพวก การก่อกรรมทำชั่วต่างๆ มุ่งหน้าเอาแต่งานเพื่อผลงานให้โดนใจประชาชน แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องปากเรื่องท้อง เงินทองคล่องมือ ต้องรีบเร่งทำให้ได้ ไม่ใช่ได้แต่บอกว่า รู้ปัญหา รู้ปัญหา แต่การแก้ไขที่ได้ผลยังไม่มีเลย หมดเวลาเต้นไปเต้นมา หมดเวลาแก้ตัว ต้องรีบเดินหน้า แก้ปัญหาอย่างเดียว นายกอุ๊งอิ๊งไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน ไม่ต้องไปวิตกกับพวกร้องเรียนเหล่านั้น ชาวบ้านเขาไม่สนหรอก เขารออยู่แต่ว่าจะแก้ปัญหาให้เขาได้เมื่อไร ถ้าแก้ให้เขาได้มันก็จะเป็นเกราะป้องกันให้กับนายกอุ๊งอิ๊งได้เป็นอย่างดี ต้องทำให้ชาวบ้านพอใจจนพวกร้องเรียนกระอักเลือดตาย
“ที่คุณเศรษฐาคว่ำคะมำไปนั้นก็เพราะมัวแต่รำมวยไม่มีผลงานที่จะให้ชาวบ้านจดจำ และเมื่อไปแล้วชาวบ้านเขาจึงรู้สึกเฉยๆ ไม่ห่วงหาอาลัย ไปเสียได้ก็ดี จึงเป็นบทเรียนของนายกอุ๊งอิ๊ง… อยู่ต้องให้ได้ใจ จากไปก็ต้องให้เขาคิดถึง ใครจะนินทาว่ากล่าวใส่ร้ายป้ายสีกี่เรื่องกี่ประเด็นก็ช่างหัวมัน เอาผลงานเข้าสู้ เอาประชาชนเป็นประกัน แค่นี้ก็ไปตลอดรอดฝั่ง ศัตรูหมู่มารก็ย่อยยับไปเอง…ก็แตกกันหลายพรรคแล้วนิ” นายวันชัย ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี