‘หมอวรงค์’เอาจริง

ลุยฟ้อง‘พ่อนายกฯ’สัปดาห์หน้า

ควบคุม-ครอบงำ-ชี้นำ‘เพื่อไทย’

“หมอวรงค์” เอาแน่! เตรียมยื่น กกต.ฟ้อง “ทักษิณ” พ่อนายกฯ“อิ๊งค์” ข้อหา ควบคุม ครอบงำ ชี้นำ“เพื่อไทย” ฝ่าย ก.ม.ไทยภักดี เร่งยกร่างคำร้อง “เทพไท” ย้ำ “ครม.สืบสันดาน” ไม่เกินจริงชี้เป็นสิ่งถูกต้องเหมาะสมแล้วที่สังคมจะให้ฉายารัฐบาลชุดนี้ เพื่อเตือนสติให้รู้สำนึก-อับอายต่อประชาชน “เจ้าของประเทศ”

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก“วรงค์ เดชกิจวิกรม - WarongDechgitvigrom”ว่า เตรียมฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และพรรคเพื่อไทย ซึ่งวันที่ 4 กันยายนคงได้ฟังนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หรือมาดามแพ นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ให้สัมภาษณ์หลายประเด็น ตนขอนำประเด็นสำคัญมาพูด นางสาวแพทองธารระบุว่า “สงสารนายกฯบ้าง อย่าฟ้องอะไรเยอะ เป็นนายกฯ ที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์แล้ว และก็ตั้งใจทำงานเต็มที่...”

“นางสาวแพทองธารหรือมาดามแพ พูดคล้ายกับว่า การเป็นนายกฯและอายุน้อยที่สุดของตัวเองนั้น เพราะประชาชนไปเชื้อเชิญ ไปขอร้องให้มารับตำแหน่ง แต่จริงๆคนละเรื่อง ส่วนเรื่องฟ้อง ถ้าคุณไม่ทำอะไรผิด จะไปกลัวอะไร กฎหมายมีไว้ควบคุมคนให้ปฏิบัติตาม แต่ถ้าคุณปล่อยให้พ่อ หรือพ่อตั้งใจทำผิดกฎหมาย คนที่เขาเรียกร้องความถูกต้อง การเคารพกฎหมาย ก็ต้องฟ้องเป็นเรื่องธรรมดา”นพ.วรงค์กล่าว

และว่า ตนบอก มาดามแพ ไว้ด้วยว่า ฝ่ายกฎหมายไทยภักดียกร่างคำร้อง กำลังรวบรวมหลักฐานใกล้สมบูรณ์แล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าเรื่องน่าจะถึงคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่วนประเด็นการร้องน่าจะเดาได้คือ การควบคุม ครอบงำ ชี้นำพรรคเพื่อไทย ทั้งนี้ ถ้าไม่อยากให้ใครฟ้อง ก็ต้องบอกนายทักษิณ บิดาว่า บ้านเมืองมีขื่อมีแป ต้องเคารพกฎหมาย ใครที่ทำตัวเหนือกฎหมายได้ ก็จะทำตัวเหนือประชาชนได้ ไม่ต่างจากเผด็จการ ดังนั้น อย่าทำผิดกฎหมาย

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ครม.สืบสันดาน ถูกต้องเหมาะสมแล้ว” มีเนื้อหาโดยสรุปว่า ตนเป็นคนหนึ่งที่เปิดประเด็นเรื่องคณะรัฐมนตรี (ครม.) สืบทอดตำแหน่งทาง DNA หรือ ครม.สืบสันดาน จนสื่อมวลชนนำไปสอบถามความเห็นต่อน.ส.แพทองธาร ซึ่งนายกฯ ถึงกับบอกว่าใช้คำแรงนั้น ตนขอชึ้แจงว่า ในฐานะตนเรียนกฎหมายมา คำว่าผู้สืบสันดานโดยตรงตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1643 หมายถึง ผู้สืบสันดานในทางสืบสายโลหิตโดยแท้จริง บุตรบุญธรรมนั้นกฎหมายถือ เป็นผู้สืบสันดานเหมือนบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่ใช่คำแรง หรือคำหยาบ เป็นคำภาษาไทยโบราณ ที่สื่อความหมายแบบตรงไปตรงมา เกี่ยวกับนิสัยหรือสันดานของคน ถ้าจะให้พูดแบบภาษาผู้ดี อาจพูดได้ว่าเป็น “นิสัยอันถาวร” มีความหมายเดียวกันกับคำว่าสันดาน หรือจะให้เปลี่ยนเป็น ครม.สืบนิสัยอันถาวร

ส่วนการที่รัฐมนตรีบางคนบอกว่า ครม.สืบสันดาน เป็นแค่วาทกรรมนั้น นายเทพไทกล่าวว่า ซึ่งในข้อเท็จจริง ภาพลักษณ์ของคณะรัฐมนตรีชุดนี้ สืบทอดตำแหน่งให้บุคคลในครอบครัวจริง ไม่ได้คำนึงถึง ความรู้ความสามารถ ความเชี่ยวชาญ เกี่ยวกับกระทรวงนั้นเลย คำนึงถึงแต่โควตาว่าเป็นของคนในตระกูลใด เมื่อไม่สามารถดำรงตำแหน่งได้ เพราะคุณสมบัติขัดจริยธรรมร้ายแรง ก็ยกให้คนในครอบครัว เป็นนอมินีรับตำแหน่งแทน ทำเหมือนประเทศนี้ เป็นสมบัติของครอบครัว หรือของตระกูลตัวเอง

“ผมเห็นว่าเป็นสิ่งถูกต้องเหมาะสมแล้ว ที่สังคมจะให้ฉายารัฐบาลชุดนี้ว่า ครม.สืบสันดาน จะได้รู้สึกสำนึกและอับอายต่อประชาชนคนไทยผู้เป็นเจ้าของประเทศบ้าง”นายเทพไทกล่าวย้ำ

วันเดียวกัน นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์แสดงความคิดเห็นการเมืองว่า หากองค์กรอิสระ อีกทั้งการเมืองระบบสภาไม่หยุดยั้งความเลวร้ายจากอำนาจฮุบขายแผ่นดินหาผลประโยชน์ได้แล้ว ประชาชนย่อมไม่มีทางเลือกอื่น จึงต้องลงถนนเพื่อปกป้องชาติ ส่วนผลตรวจสอบนักโทษชั้น 14 และหน่วยงานเกี่ยวข้องเปิดเผยออกมา โดยผลสอบแพทย์ รพ.ตำรวจ กับรพ.ราชทัณฑ์ ของแพทยสภาเปิดเผยต่อสังคม อาจพลิกเปลี่ยนเหตุการณ์การเมืองครั้งใหญ่ คนอื่นที่เกี่ยวข้องจะออกนอกประเทศได้ สำหรับนายทักษิณ ไม่มีทางออกได้เด็ดขาด ดังนั้น การจัดการผู้ครอบครองนายกฯ ลูกสาว แล้ว ย่อมสะเทือนถึงนายกฯ ซึ่งไม่ใช่เรื่องยาก

นายจตุพรกล่าวอีกว่า วันนี้ประชาชนทุกฝ่ายที่ร่วมชุมนุมทางการเมืองที่ผ่านมา ถูกหลอกทั้งสิ้น การปล่อยให้คนหนีคุกอยู่ต่างประเทศ 17 ปีได้แสดงวิสัยทัศน์เปิดบ่อน และเช่าที่ดิน 99 ปี ซึ่งเป็นการขายชาติอย่างมีนัยยะสำคัญ ดังนั้น ประชาชนต้องร่วมมือกันให้ได้ เพื่อรักษาชาติบ้านเมืองเอาไว้ รวมทั้งหวังว่าองค์กรอิสระและหน่วยงานเกี่ยวข้องที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ ควรปฏิบัติหน้าที่ปกป้องชาติจากความเลวร้ายให้ครบถ้วนสมบูรณ์ โดยไม่ให้ประชาชนมาทำหน้าที่แทน

“แม้ภาคประชาชนยังไม่พร้อมต่อสู้และลงถนนชุมนุม แต่ถ้าระบบการเมืองในสภาใช้พวกมากลากไปและปกป้องผลประโยชน์ของชาติไม่ได้ จึงต้องใช้ระบบนอกสภามาทำหน้าที่แทน”นายจตุพรระบุ และยังเผยว่า กรณีชั้น 14 ที่มีคำร้องให้ตรวจสอบนั้น ได้ยินมาว่าจะจบได้เดือนพฤศจิกายนนี้ องค์กรอิสระตรวจสอบต้องทำให้เสร็จตามเวลา ถ้าดึงเรื่องทำให้ช้าไป ครม.เพื่อไทย อาจเร่งดันบ่อนกาสิโน ดิจิทัลวอลเล็ต คอนโด 99 ปี เชื่อว่าสภาเอาไม่อยู่ ความล่าช้าย่อมทำให้ประชาชนไม่มีทางเลือก แต่ความเสียของชาติเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าประชาชนไม่ยอมให้ขายชาติ ไม่มีวันแลกบ่อนและที่ดิน 3 แสนไร่ในแลนด์บริดจ์ กับผลประโยชน์ของชาติน้อยนิด ประชาชนย่อมเลือกทางที่ยังไม่พร้อมเลือกก็ได้

“ฝ่ายค้านถ้าหยุดอำนาจและผลประโยชน์ที่ทำให้ชาติเสียหายในสภาไม่ได้ ต้องคิดถึงประชาชน ผมไม่ได้ชวน แต่ให้คิดกันเอาเอง เพียงจะบอกว่า ถ้าสภาหยุดความเลวร้ายไม่ได้ถนนจะหยุดได้และผมเชื่อมั่นประชาชน”นายจตุพรกล่าว