‘พิเชษฐ์-ภราดร’เข้าวินฉลุย! ยึดเก้าอี้‘รองประธานสภาฯคนที่ 1-2’ไร้คู่แข่ง ด้าน‘วันนอร์’ยันจะรีบนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ ขณะที่‘พรรคประชาชน’ขอกอดเก้าอี้‘ผู้นำฝ่ายค้าน’แน่นๆ แนะสานต่อนโยบาย‘ปดิพัทธ์’สร้างโปร่งใส เป็นที่พึ่งประชาชน ก่อนสั่งปิดประชุมทันที ให้ผู้แทนฯไปเตรียมตัวแถลงนโยบายรัฐบาล 12-13ก.ย.นี้
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 11 กันยายน 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้แจ้งต่อที่ประชุมถึงการลาออกของนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน จากตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่2 เมื่อวันที่10ก.ย.ที่ผ่านมา ตอนเวลา 16.30 น.
น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน ลุกขึ้นขออภิปรายเพื่อเสนอความเห็นต่อที่ประชุมว่า พรรคประชาชนจะรักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ไม่เสนอชื่อชิงตำแหน่งรองประธานสภาฯ ทั้งนี้ขอฝากไปยังว่าที่รองประธานสภาฯ สานต่อวิสัยทัศน์นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีตรองประธานสภาฯ คนที่1 ที่สภาฯโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นสภาฯของประชาชน และเป็นสภาฯก้าวหน้ารองรับความหลากหลายและเป็นพื้นที่ปลอดภัยของประชาชน
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ข้อเสนอแนะนำเข้าสู่กมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร ที่ประกอบทุกพรรคการเมือง เพื่อปรับปรุงให้สภา ให้กับประชาชนและสส. ขอบคุณที่พรรคประชาชนไม่เสนอผู้เป็นรองประธานสภาฯ รักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้าน ตนเห็นด้วยเพราะตำแหน่งดังกล่าวสำคัญ เป็นกรรมการสรรหาองค์กรอิสะ อยากให้ผู้นำฝ่ายค้านมาจากพรรคใหญ่ของฝ่ายค้านที่คนอื่นทำหน้าที่ไม่ได้ ตนยินดีและขอขอบคุณ
จากนั้นในเวลา11.25น. นายศรัณย์ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคเพื่อไทย ในฐานะวิปรัฐบาล ลุกขึ้นเสนอให้เปลี่ยนระเบียบวาระเพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาเลือกรองประธานสภาฯ คนที่1 และรองประธานสภาฯ คนที่2 ต่อจากนี้ โดยไม่มีผู้ใดที่ขัดข้อง จากนั้นได้เข้าสู่วาระการเลือกตำแหน่งดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง แทนตำแหน่งที่ว่าง หลังจากนายปดิพัทธ์ พ้นตำแหน่งนั้น พบว่ามีการเสนอชื่อเพียงคนเดียว คือนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย จึงถือว่าเป็นผู้ได้รับเลือกตามข้อบังคับการประชุม ทั้งนี้พบว่านายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นผู้เสนอ
นายพิเชษฐ์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ตอนหนึ่งว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติและตรวจสอบฝ่ายบริหาร รวมถึงมีนโยบายให้สภาฯ ใกล้ชิดประชาชน จัดให้มีสภาประจำจังหวัดทดลอง อย่างน้อย 5 จังหวัด ปรับปรุงอาคารรัฐสภาให้สวยงาม สมบูรณ์ สร้างท่าเทียบเรือฝั่ง สว. สส. ภายในปี2568 ทำที่จอดรถ 3,000 คันให้ถูกต้องตามกฎหมายของกทม.
“รีบให้มีการบริหารความปลอดภัยและการป้องกันอัคคีภัยและจัดชุดป้องกันให้เร็วที่สุด และช่วยงานประธานสภาฯ ให้การประชุมเรียบร้อย เสริมสร้างศักยภาพของสมาชิกให้พัฒนาท้องถิ่น รวมถึงนำรัฐสภาไทยก้าวขึ้นอยู่รัฐสภาผู้นำอาเซียนต่อไป” นายพิเชษฐ์ กล่าว
ขณะที่ตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่2 พบว่านายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เสนอชื่อนายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เพียงคนเดียว จึงถือว่าเป็นผู้ได้รับเลือกตามข้อบังคับการประชุม
นายภราดร กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมฯตอนหนึ่งว่า ตนเป็นเกียรติที่ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งดังกล่าว ในฐานะผู้ช่วยประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ และเป็นเกียรติของคนอ่างทอง ตนใช้เวลาที่สภาฯ 17 ปี เกือบครึ่งชีวิต ตนผูกพันกับองค์กรและสภาฯ จนเปรียบเป็นบ้านหลังที่2 แม้สถานะของตนเป็นสมาชิกพรรคการเมืองปฏิเสธไม่ได้ แต่ขอให้คำมั่นสัญญา ตนไม่เป็นรองประธานสภาฯ ของพรรคภูมิใจไทย หรือ ฝ่ายรัฐบาล แต่จะเป็นรองประธานสภาฯของ สส.ทั้ง 493 คน พร้อมปฏิบัติหน้าที่ตามที่ได้รับมอบหมายเต็มที่และทำให้ดีที่สุด ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุขและทำให้สภาฯเป็นของประชาชน รวมถึงสร้างความเชื่อมั่น เกียรติยศให้สภาฯ เชิดหน้าชูตาของประชาชน
ประธานสภาฯ กล่าวว่า ตนจะรีบนำรายชื่อรองประธานสภาฯทั้ง2คนขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯต่อไป การประชุมวันนี้ถือว่าเป็นบรรยากาศที่ดีมาก ทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ไม่เสียเวลาเรื่องต่างๆที่ได้ประโยชน์น้อย วันนี้เราได้ประโยชน์ล้วนๆ จากนั้นได้สั่งปิดประชุม11.40 น. เพื่อให้สส.ไปเตรียมตัวอภิปรายในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คณะรัฐมนตรี(ครม.)แถลงนโยบายต่อรัฐสภา ในวันที่ 12-13 ก.ย.นี้ ///-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี