‘โฆษก มท.’เผย‘กรมบัญชีกลาง’ไฟเขียวขยายวงเงินทดรองราชการอุ้มช่วยวิกฤตอุทกภัย‘เชียงราย - เชียงใหม่’จังหวัดละ 100 ล้านบาท ด้าน'มท.1'เผยเอกชนร่วมสมทบข้าวสาร 2,000 ถุง เรือท้องแบน 71 ลำ

เมื่อวันที่ 13 ก.ย.2567 น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล โฆษกกระทรวงมหาดไทย (มท.) กล่าวว่า ในวันนี้ กรมบัญชีกลางได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด  ที่ กค 0402.4/33762 ถึงอธิบดีกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งการอนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงใหม่ สามารถพิจารณาอนุมัติให้ใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทุกภัยได้ เพิ่มอีก 100 ล้านบาท จากที่มีวงเงินทดรองราชการปกติอยู่ 20 ล้านบาท

โฆษกมท. กล่าวต่อว่า สำหรับความจำเป็นที่ทางกรมบัญชีกลางต้องขยายวงเงินทดรองราชการ เนื่องจากขณะนี้ทั้ง 2 จังหวัด ยังคงอยู่ในสถานการณ์อุทกภัยที่ต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อประชาชนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับจ.เชียงราย และจ.เชียงใหม่ ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ และวงเงินทดรองราชการที่เหลือในปัจจุบัน กล่าวคือ จากวงเงินปกติ 20 ล้านบาท จ.เชียงราย คงเหลืออยู่ 9.11 ล้านบาทบาท ส่วน จ.เชียงใหม่ คงเหลือ 3.52 ล้านบาทอาจไม่เพียงพอที่จะรองรับกับสถานการณ์

“เพื่อให้ทั้ง 2 จังหวัดช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็ว ทั่วถึง และสอดคล้องกันโยบายของรัฐบาล กรมบัญชีกลางจึงได้อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการในอำนาจผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่เพิ่มเติมจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ที่ได้ประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินกรณีอุทกภัย” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ขณะนี้ทุกหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม ประชาชน จิตอาสา ได้ร่วมระดมสรรพกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชนที่กำลังประสบอุทกภัยที่ขยายวงกว้าง โดยล่าสุดนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เผยว่าได้รับการประสานจากภาคเอกชนที่ร่วมบริจาคผ่านกระทรวงมหาดไทย เพื่อสมทบการช่วยเหลือผู้ประสบภัย ประกอบด้วยเรือท้องแบน ซึ่งปัจจุบันส่งถึง จ.เชียงรายแล้ว 71 ลำ และอยู่ระหว่างจัดส่งข้าวสารถุงละ 5 กิโลกรัม จำนวน 2,000 ถุง  รวม 10,000 กก. ซึ่งข้าวทั้งหมดจะถูกจัดส่งถึงพื้นที่อุทกภัยในวันที่ 14 ก.ย.2567