นัดพรรคร่วมรบ.ถกสัปดาห์หน้า
พท.ลุยแกรธน.
โวไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ตัวเอง
มุ่งแก้ปมยุบ-ครอบงำพรรค
เสนอหั่นอำนาจของป.ป.ช.
“วันนอร์” แย้ม ขยับประชุมร่วมรัฐสภา ถกแก้รัฐธรรมนูญเร็วขึ้นก่อนกลางตุลาคม สั่งงดประชุมร่วม 25 กันยายน ด้าน “เพื่อไทย” ไม่แผ่ว “ชูศักดิ์” เตรียมยื่นแก้ “พ.ร.ป.พรรคการเมือง” รื้อคุณสมบัติสมาชิกพรรค ปัดเอื้อ “ทักษิณ” หวนคืนคุมบ้านเก่า พร้อมแก้ไข “ยุบพรรค-ครอบงำ” รวมถึงเขย่าอำนาจ“ป.ป.ช.” - ‘ภูมิธรรม’เตรียมนัดพรรคร่วมสัปดาห์หน้า หารือแก้รัฐธรรมนูญรายมาตรา พร้อมล็อบบี้ สว.ปัดแก้เพื่อประโยชน์ตัวเอง ไม่หวั่นร่วงในชั้นทำประชาติ เชื่อปชช.ไม่อยากเห็นเครื่องประหารทางการเมือง
เมื่อวันที่ 20 กันยายน2567 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติมที่พรรคเพื่อไทยเสนอมาเมื่อวันที่ 19กันยายน แต่เมื่อได้รับแล้วฝ่ายกฎหมายกับกองงานประชุมจะเสนอเข้ามาเพื่อดำเนินการบรรจุระเบียบวาระโดยขั้นตอนต่อไปจะเชิญประชุมผู้แทนรัฐบาล กับวิปสามฝ่าย คือรัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา เพื่อนัดวันที่ชัดเจนในการพิจารณาซึ่งเดิมตนบอกว่าจะประชุมเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญภายใน ช่วงกลางเดือนตุลาคม แต่หากเสร็จเรียบร้อยอาจจะพิจารณาก่อนกลางเดือนตุลาคมก็ได้ เพราะขณะนี้ร่างแก้ไขฯ ของฝ่ายค้านยื่นมาหมดแล้ว
เมื่อถามว่าวันที่ 25 กันยายนนี้จะยังมีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาอยู่หรือไม่ ประธานรัฐสภา กล่าวว่า จะไม่มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภาแล้ว และพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันดังกล่าวไม่ทัน เนื่องจากจะต้องมีการบรรจุระเบียบวาระก่อนล่วงหน้า 5วัน
‘ชูศักดิ์’เตรียมยื่นแก้พรป.พรรคการเมือง
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ฝ่ายกฎหมาย กล่าวถึงการเตรียมยื่นแก้ไขพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ว่า จะยื่นร่างกฎหมายดังกล่าวต่อสภา และพิจารณาในรัฐสภา โดยจะมีการแก้ไขในหลายเรื่อง ยกตัวอย่าง เช่น การแก้ไขเรื่องความเป็นสมาชิกพรรคการเมือง เพราะเดิมใช้คุณสมบัติของผู้สมัคร สส.จึงทำให้หลายคนไม่สามารถเป็นสมาชิกพรรคได้ ตนคิดว่าสิทธิเสรีภาพในการเป็นสมาชิกพรรค ควรจะเปิดกว้างให้กับทุกคน
เมื่อถามว่าการแก้ไขนี้เพื่อให้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยได้ใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์ กล่าวว่า “ไม่ได้เกี่ยวกับใคร หรือหมายถึงใคร ผมคิดว่าสิทธิเสรีภาพในการเป็นสมาชิกพรรค ควรจะเปิดกว้าง เป็นสิทธิเสรีภาพของปวงชนชาวไทย ไม่ควรมีข้อจำกัดมากมาย ก็ไม่ต้องไปพูดว่าหมายถึงใครยังไงอย่างไร เรื่องเหล่านี้เราเคยทำมาแล้วในอดีต เพียงแต่ สว.ในขณะนั้นไม่เห็นด้วย ส่วน สว.ชุดปัจจุบันนี้จะเห็นด้วยหรือไม่ ก็ว่าในอนาคต”
‘ยุบพรรค-ครอบงำ’ต้องนิยามชัดเจน
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกันก็จะไปดูการแก้เรื่องยุบพรรค การครอบงำพรรค ว่าจำกัดไว้อย่างไรให้เหมาะสม โดยเรื่องการยุบพรรคเราก็จะเน้นไปที่เรื่องเฉพาะการล้มล้างการปกครอง ส่วนเรื่องอื่นๆไม่เอาถูกยุบพรรค ส่วนเรื่องการครอบงำก็จะปรับว่าจะทำอย่างไรให้รัดกุมขึ้น ไม่ใช่อะไรๆก็ครอบงำหมด เมื่อถามว่า กังวลข้อหาหรือไม่ ว่าการแก้ไขกฎหมายจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้ตัวเอง นายชูศักดิ์ ระบุว่า ตนขอย้ำเราทำกฎหมายเพื่อให้ความเป็นธรรมพอสมควร ขอพูดง่าย ๆ คนที่ถูกตัดสินให้รอลงอาญาท้ายที่สุดเป็นสมาชิกพรรคไม่ได้ พร้อมถามกับสื่อว่าเป็นธรรมหรือไม่ ถ้ามาตั้งคำถามว่าแก้เพื่อตัวเองอย่างโน้นอย่างนี้ มันก็ตั้งคำถามได้หมด
ลดทอนอำนาจปปช.-ไม่ให้กินรวบ
นายชูศักดิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน ยังยื่นแก้ไข พรป.ว่าด้วยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ป.ป.ช.) ว่าจะแก้ในบางประเด็น กรณีแรกคือมีความผิดบางประเภทที่ป.ป.ช.สั่งไม่มีมูล หรืออัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง ก็ให้สิทธิ์ผู้เสียหายฟ้องคดีได้เอง เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายซึ่งเคยยื่นมาแล้ว แต่ท้ายที่สุดมีข้อทักท้วงบางประการก็นำกลับมาแก้ และขณะนี้ก็จะแก้ใหม่ พร้อมทั้งแก้เรื่องอื่นๆไปด้วย เช่น เรื่องอำนาจฟ้องเองของคณะกรรมการป.ป.ช.“เรามองว่ากรณีที่ป.ป.ช. มีคำสั่งว่ามีมูลหรือฟ้อง แต่อัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง ตั้งกรรมการร่วมกันก็บอกว่าไม่ฟ้อง แต่ท้ายที่สุดป.ป.ช.ก็ไปฟ้องเอง ซึ่งหากเป็นแบบนี้เราก็มองว่าป.ป.ช.ทำหน้าที่สอบสวนฟ้องร้องได้เองหมด ทำให้ขัดต่อหลักการคานอำนาจ ส่วนอีกกรณีบางเรื่องเกิดขึ้นมานานแล้ว ควรมีกำหนดระยะเวลาในการรับเรื่องเพื่อทำให้ชัดเจน พร้อมย้ำว่าควรมีขอบเขตระยะเวลาในการไต่สวนว่าควรเริ่มตั้งแต่เมื่อไร และจะมีระยะเวลาแล้วเสร็จเมื่อไร ไม่ใช่สอบไปเรื่อยๆ 10 - 20 ปี บางทีชี้มูลไปแล้วตอนเกษียณ เช่น อาจจะกำหนดไว้ 5 ปีก็ได้ และยืนยันว่าการแก้พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองไปด้วยและ ป.ป.ช.คาดว่าสัปดาห์หน้าจะยื่นได้พร้อมๆกัน นายชูศักดิ์ กล่าว
‘ภูมิธรรม’นัดพรรคร่วมสัปดาห์หน้า
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้ประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล เปิดเผยถึงการหารือพรรคร่วมรัฐบาลกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่า ได้ให้เลขาฯ ประสานกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อพูดคุยภายในสัปดาห์หน้า ก่อนวันศุกร์ที่ 27 ก.ย. โดยจะเลือกวันที่ว่างพร้อมกัน ซึ่งจะเป็นการหารือระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีฝ่ายค้าน เพื่อพูดคุยประเด็นปัญหาในการบริหารราชการแผ่นดิน หรือปัญหาบางส่วนซึ่งการแก้รัฐธรรมนูญรายมาตราจะเป็นทางออกที่ช่วยได้ โดยจะต้องหารือว่ามีประเด็นใดบ้าง ที่ทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันก็จะเป็นฉันทามติ เพราะทุกฝ่ายต้องเห็นปัญหาร่วมกัน ไม่ใช่ทำให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือคนใดคนหนึ่ง ส่วนแนวโน้มพรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นตรงกันหมดหรือไม่ ในการแก้รัฐธรรมนูญนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย
สรุปความเห็นแก้ไขรธน.มาตราใดบ้าง
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทุกพรรคเห็นตรงกันในการแก้เรื่องมาตรฐานจริยธรรมหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทุกพรรคเห็นว่ามีหลายประเด็นที่จะต้องแก้ไข ประเด็นที่เห็นต้องพ้องกันทั้งหมดจะเป็นเรื่องง่ายที่สุด ส่วนประเด็นที่เห็นต่างก็ต้องคุยกันให้จบ เมื่อถามว่า การแก้ไขอำนาจองค์กรอิสระที่จากเดิมมองว่ามีอำนาจล้นฟ้า พรรคร่วมรัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่า ต้องหารือกับทุกคน เพราะเราเป็นรัฐบาลพรรคร่วม ดังนั้นการที่จะจัดการกับหน่วยงาน หรือแก้ไขปัญหาอะไรก็ตาม ก็ควรจะเป็นการหารือกันทั้งหมด ขอเวลาคุยในสัปดาห์หน้าก็จะชัดเจน และจะสามารถประสานเข้าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ ทั้งนี้ต้องไปดูกฎระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องว่าจะดำเนินการอย่างไร ส่วนจะต้องคุยกับพรรคภูมิใจไทยเป็นพิเศษหรือไม่ เนื่องจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวข้องกับวุฒิสภาด้วย นายภูมิธรรม ระบุว่า ไม่พิเศษ คุยปกติ ถ้าเห็นว่าสิ่งใดเป็นปัญหาก็แก้ได้
ต้องล็อบบี้สว.เพื่อให้กฎหมายผ่าน
เมื่อถามย้ำว่า ต้องคุยกับสมาชิกวุฒิสภา (สว.) โดยตรงหรือไม่ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมาไม่สามารถทำได้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาเพื่อทำให้ทุกอย่างดีขึ้นต้องมีความหวังและใช้ความพยายาม เราจะประสานกับวิปสว.ด้วย เพราะ สว.เป็นส่วนหนึ่งในการที่จะแก้ไขปัญหา คิดว่าจะพยายามประสานทุกฝ่าย ซึ่งหากทุกคนเห็นพร้อมต้องกันก็จะเป็นเรื่องดีที่สุด ถ้าไม่เห็นพ้องต้องกันต้องดูที่เหตุผล และทุกอย่างต้องเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ว่าจะต้องใช้เสียงอะไรอย่างไร
ไม่หวั่นนิติสงคราม-สถานการณ์เปลี่ยน
ผู้สื่อข่าวถามว่า การแก้รัฐธรรมนูญในชั้นนักการเมืองจะไม่ค่อยมีปัญหา แต่ในชั้นทำประชามติจากประชาชนจะมั่นใจหรือไม่ เพราะแก้เพื่อประโยชน์นักการเมืองฝ่ายเดียว นายภูมิธรรม กล่าวว่า ในทางปฏิบัติพิสูจน์ได้ชัดเจน ว่าเรื่องอะไรที่คนส่วนใหญ่เห็นว่าเป็นปัญหา สิ่งสำคัญไม่ใช่แก้เพื่อตัวเอง แต่เป็นการแก้เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการตรวจสอบ และการดำเนินการต่างๆ ให้ยุติธรรม ไม่ใช่เครื่องมือทางการเมืองที่จะนำมาประหารกัน เป็นเรื่องที่เราพยายามจะทำให้ระบบการตรวจสอบทั้งหลายเกิดการปฏิบัติงานที่ชัดเจน เห็นประเด็นปัญหาที่ชัดเจนมากขึ้นในการตัดสินปัญหาต่างๆ
เมื่อถามว่า จะเข้าทางนิติสงครามหรือไม่ เพราะมองว่าเป็นเรื่องขัดกันแห่งผลประโยชน์ ส่อกระทำผิดกฎหมายเปิดช่องให้ยื่นตรวจสอบคนแก้รัฐธรรมนูญ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ต้องห่วงว่าการแก้รัฐธรรมนูญจะเป็นนิติสงคราม เอาความตั้งใจ ปรารถนาดีเป็นที่ตั้ง ถ้าเราตั้งใจปรารถนาดี และดูข้อกฎหมายครบถ้วน ทุกอย่างก็เดินหน้าได้ และปรับปรุงแก้ไขได้ สิ่งที่รัฐบาล หรือฝ่ายค้านสร้างไว้ไม่ว่าใครก็ตามต้องขึ้นอยู่กับความเป็นจริง อะไรที่แก้ไขแล้วเป็นสิ่งที่ดีขึ้นต้องแก้ไขได้ อะไรที่เหมาะสมกับยุคสมัยหนึ่ง แต่เมื่อเปลี่ยนยุคสมัยแล้วไม่สอดคล้องก็ต้องแก้ไข
กมธ.ประชามติจ่อเข้าวุฒิสภา1ต.ค.
ที่วุฒิสภา นายไชยยงค์ มณีรุ่งสกุล สว. ฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ (ฉบับที่) พ.ศ... วุฒิสภา เปิดเผยถึงความคืงหน้าการประชุม กมธ. ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาเนื้อหาทั้งฉบับเสร็จเรียบร้อย และมีการแก้ไขในประเด็นของถ้อยคำเท่านั้น อย่างไรก็ดีเมื่อวันที่ 18 ก.ย. เชิญ สว. ที่เสนอคำแปรญัตติ จำนวน 3 คนมาชี้แจงต่อที่ประชุม ทั้งนี้มีเพียงผู้แปรญัตติ 1 คนที่ติดใจและสงวนความเห็นไว้ไปอภิปรายต่อที่ประชุม ซึ่งเป็นประเด็นเกี่ยวกับการแก้ไขมาตรา 13 ว่าด้วยเกณฑ์ผ่านประชามติ 2 ชั้น ทั้งนี้กมธ.ไม่เห็นด้วยและให้ยืนตามร่างพ.ร.บ. ที่สภาฯ เห็นชอบ สัปดาห์หน้า กมธ.จะนัดประชุมครั้งสุดท้าย เพื่อทำรายงานและตรวจทาน ก่อนจะส่งให้ประธานวุฒิสภาบรรจุวาระพิจารณา เบื้องต้นคาดว่าที่ประชุมวุฒิสภาจะพิจารณาในวาระสองและวาระสาม ช่วงวันที่ 1 ต.ค. นี้” นายไชยงค์ กล่าว
เลขาฯสภาฯเผยบิ๊กป้อมส่งใบลาทุกครั้ง
ที่รัฐสภา ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง ข้อสงสัยในการไม่เข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า ตามรัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่า สส. จะสามารถลาประชุมได้ไม่เกิน 1 ใน 4 ของวันประชุม ในสมัยประชุม ที่มีจำนวน 120 วัน ฉะนั้นในช่วงสมัยประชุม 120 วัน ต้องคำนวณว่ามีการประชุมสภาฯ กี่ครั้ง เพื่อไม่ให้เกิน 1 ใน 4 หากลาเกิน 1 ใน 4 ถือว่าขาดประชุม
เลขาธิการสภาฯ กล่าวว่า ในทางปฏิบัติมีระเบียบการลงชื่อมาประชุมและการลาประชุม สส. จะทราบระเบียบนี้ ซึ่งมีแบบฟอร์มที่สามารถจะยื่นลาประชุมได้ล่วงหน้าก่อนวันประชุมและหลังจากวันประชุมได้ภายใน 7วันและเป็นดุลพินิจในการอนุญาตของประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งที่ผ่านมาประธานสภาฯ ได้มอบหมายให้นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่2ในขณะนั้น เป็นผู้อนุญาต และเมื่อได้ยอดในแต่ละครั้ง จะทำยอดรวมเพื่อรายงานประธานสภาฯ ให้ทราบว่ามีสมาชิกลาเท่าไหร่ และหากการลานั้นได้รับอนุญาตจากประธานฯ ไม่ถือว่าเป็นการขาดประชุม แม้จะเกิน1ใน4ของวันประชุมก็ตาม โดยให้ยึดตามใบลา และถ้าขาดประชุม1ใน4โดยที่ประธานไม่ได้อนุญาต ถือว่าขาดการประชุมจะมีผลต่อสมาชิกภาพของ สส.คนนั้น แต่ส่วนมาก สส.จะยื่นใบลา และได้รับการอนุญาต
ยื่นดูหลักฐานได้-แต่ไม่เปิดเหตุผลที่ลา
ส่วนกรณีที่ พล.อ.ประวิตร ถูกยื่นสอบจริยธรรมในเรื่องนี้นั้น ทางคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรมเป็นผู้พิจารณา ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่ดูแลในเรื่องนี้ ทราบว่า พล.อ.ประวิตร ได้ยื่นใบลาในเวลาที่ไม่มาประชุมทุกครั้ง โดยระบุเหตุผลว่ามีภารกิจในวันนั้น และนายพิเชษฐ์จะพิจารณาอนุญาต ซึ่งมีหลักฐานการลาของ พล.อ.ประวิตร อยู่ เมื่อถามว่า ตอนนี้ยังมี สส. คนใดมีปัญหาเรื่องวันลาประชุมอีกบ้าง ว่าที่ร้อยตำรวจตรีอาพัทธ์ กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะสมาชิกส่วนมากจะยื่นลาก่อนประชุมและหลังประชุม
เลขาธิการสภาฯ กล่าวด้วยว่า สำหรับเอกสารการลาของ สส. ประชาชนสามารถตรวจสอบได้เบื้องต้นว่า ขาด ลา กี่ครั้ง โดยสามารถขอที่กลุ่มงานข้อมูลข่าวสาร เพราะถือเป็นข้อมูลที่เปิดเผยได้ แต่จะไม่สามารถทราบเหตุผลการลาของ สส. ได้ เนื่องจากเป็นข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนั้นจะมีเว็บไซต์ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ ที่สามารถเข้าไปขอข้อมูลเกี่ยวกับการลาของสมาชิกได้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี