"ว.วชิรเมธี"งานเข้า!!! "กมธ.ทรัพยากรธรรมชาติฯ สว."เตรียมถกปม"ไร่เชิญตะวัน" ขออนุญาตถูกต้องหรือไม่ 22 ต.ค.นี้ ด้าน"สว.ชีวะภาพ"ชี้ถ้าทันจะเรียกหน่วยเกี่ยวข้องแจงด้วย เล็งสอบคุณสมบัติเป็นไปตามวัตถุประสงค์-ตรงพิกัดหรือไม่

เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2567 นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ และอดีตหัวหน้าชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพร ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการตรวจสอบไร่เชิญตะวัน ของ ว.วชิรเมธี มีการขออนุญาตที่ถูกต้องหรือไม่ ว่า เรารับรู้รับทราบว่าที่ดินดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เท่าที่ทราบจากการสอบถามพบว่า มีการขออนุญาตใช้ประโยชน์ตามระเบียบกรมป่าไม้ แต่คนที่อนุญาตอาจจะเป็นหน่วยงานจังหวัด เนื่องจากกรมป่าไม้มอบอำนาจให้ทางจังหวัดพิจารณา สิ่งที่เห็นได้วันนี้คือสังคมให้ความสนใจ เรื่องนี้ กมธ.จึงจะนำเข้ามาพิจารณาเป็นกรณีเร่งด่วนในวันที่ 22 ต.ค.นี้ ซึ่งต้องตรวจสอบให้ได้ความชัดเจน ว่าอยู่ในพื้นที่อะไร ใช้ประโยชน์ถูกต้องหรือไม่ตามที่สาธารณชนสงสัย

"วันอังคารที่ 22 ต.ค.นี้ เราจะเอาเรื่องนี้เข้าพิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน และถ้าเป็นไปได้ ถ้าทันก็อาจจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูลแล้วเราจะขยายผลต่อว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อตอบสาธารณชนให้ได้" นายชีวะภาพ กล่าว

นายชีวะภาพ กล่าวว่า ทั้งนี้ กมธ.จะทำงานคู่ขนาน เป็นตัวกลางในการประสานตามหลักปฏิบัติการตรวจสอบข้อเท็จจริงซึ่งต้องทำให้ได้ข้อยุติ ทั้งนี้ กรณีนี้คล้ายกับกรณีเขานาคเกิด จ.ภูเก็ต ในเรื่องของการที่อยู่ในป่าสงวนแห่งชาติเหมือนกัน ขออนุญาตใช้ประโยชน์เหมือนกัน เขานาคเกิดขอไปจำนวนหนึ่ง แต่พอไปตรวจสอบ มันเกินไปจากพื้นที่ขอนุญาตไว้ ทำเกินไปกว่าพื้นที่ที่ขออนุญาต ทำผิดจุด ซึ่งอย่างนี้ก็ต้องไปดูรายละเอียด ที่เปรียบเทียบกันได้ก็คือมันใช้ระเบียบตัวเดียวกันในการขออนุญาต และการขออนุญาตบางทีเขาจะไม่ใช้มูลนิธิหรือวัด แต่เขาจะใช้สำนักพระพุทธศาสนาเป็นคนขออนุญาต ขอเข้ามาในนามของมูลนิธิก็ว่ากันไป ซึ่งก็ต้องมาดูรายละเอียด อย่างที่เชียงรายที่เป็นปัญหาอยู่ตอนนี้ เท่าที่ทราบใช้ 3 หน่วยงานในการขอ และขอไป 100 กว่าไร่ ซึ่งต้องมีการตรวจสอบ

นายชีวะภาพ กล่าวอีกว่า ทั้ง 3 หน่วยที่ขอไป 100 กว่าไร่ ต้องดูว่าพิกัดเป็นอย่างไร อยู่ตรงไหน สมเหตุสมผลหรือไม่ถูกต้องหรือไม่ตามระเบียบ ซึ่งถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน คงต้องตรวจสอบให้ได้ข้อยุติ พร้อมย้ำว่า ตามระเบียบสามารถขอใช้พื้นที่ป่าสงวนได้ สามารถใช้พื้นที่ทำกิจกรรมได้หลายอย่างตามระเบียบของกฎหมาย เพียงแต่ว่าการขออนุญาตจะต้องอยู่ภายใต้ขอบเขตที่ขอไปตามวัตถุประสงค์ สิ่งนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ

"ยกตัวอย่าง ขอไป 5 ไร่ แต่ทำเกินไป 10 ไร่ ก็ต้องไปตรวจสอบเรื่อง การตรวจไม่ยาก ในระบบเดี๋ยวนี้เขาตรวจแต่ไม่ยากแล้ว ว่าใช้ประโยชน์ไปจากพื้นที่จริงขนาดไหน และคงต้องไปดูในรายละเอียดว่าก่อนที่จะมาขออนุญาตนั้น อยู่ในคุณสมบัติที่จะขอได้หรือไม่ คุณสมบัติที่เป็นสิ่งสำคัญ เพราะในเงื่อนไข มันไม่ใช่ว่าทุกคนจะมาอ้างนู่นอ้างนี่แล้ว เข้าไปขอทำอะไรโดยวัตถุประสงค์ที่มันไม่สอดคล้อง ไม่ตรงไปตามความถูกต้อง ป่าสงวนเป็นของพี่น้องประชาชนทั้งหมดแหละ กรมป่าไม้สร้างระเบียบมาให้เข้าไปขอใช้ประโยชน์ก็ได้ แต่ต้องขอให้ถูกต้องสอดคล้องทั้งพื้นที่ ทั้งตำแหน่งรวมถึงวัตถุประสงค์ ผมก็ยังดูอยู่ว่าถ้าขอด้วย 3 หน่วยงาน แบ่งเป็น 3 พื้นที่ คงน่าจะมีอะไรที่คาดเคลื่อนหรือไม่" นายชีวะภาพ กล่าว

- 006