วันพฤหัสบดี ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘วุฒิสภา’ตั้งกระทู้ถามปม‘ดิไอคอน’ คาใจส่งคดีให้‘ดีเอสไอ’ถูกต้องหรือไม่

‘วุฒิสภา’ตั้งกระทู้ถามปม‘ดิไอคอน’ คาใจส่งคดีให้‘ดีเอสไอ’ถูกต้องหรือไม่

วันจันทร์ ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 13.41 น.
Tag : คดีพิเศษ แชร์ลูกโซ่ ดิไอคอน ดิไอคอนกรุ๊ป ดีเอสไอ บอสพอล ฟอกเงิน วุฒิสภา
  •  

"วุฒิสภา"ตั้งกระทู้ถามปม"ดิไอคอน" คาใจส่งคดีให้"ดีเอสไอ"ถูกต้องหรือไม่ หวั่นเสร็จไม่ทัน ทำผู้ต้องหารอดคุก จี้"กสทช."จัดการใช้คนมีชื่อเสียงมาสร้างความน่าเชื่อถือ ด้าน"รมว.ดิจิทัล"ยันมีมาตรการกฎหมายกำกับ-คุมเข้มโฆษณาเกินจริง-ป้องแชร์ลูกโซ่ แจงโอนเป็นคดีพิเศษ เพราะเข้าข่าย"ฟอกเงิน"

เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดย นายชิบ จิตนิยม สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจา ถาม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงมาตรการการแก้ไขปัญหากรณีความเสียหายจากปัญหาธุรกิจเครือข่ายดิไอคอนกรุ๊ป ที่มีผู้เสียหายเกือบ 10,000 คน และลุกลามทั่วโลก ทั้งนี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้รับมอบหมายให้มาชี้แจงแทน


นายชิบ อภิปรายว่า ความเสียหายจากปัญหาธุรกิจเครือข่ายดิไอคอนกรุ๊ป ยังลุกลามบานปลายไม่หยุด ตัวเลขจากสำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อค่ำวันที่ 27 ต.ค.สรุปว่าระหว่างวันที่ 10 - 27 ต.ค.มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว 9,472 คน ความเสียหายเกือบ 3,000 ล้านบาท สอบปากคำผู้เสียหายแล้ว 5,999 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 1,728 ล้านบาท ซึ่งพิษของดิไอคอน ระบาดไปเกือบ 20 ประเทศ ทั้งเอเชีย และยุโรป โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่เป็นคนไทยที่แต่งงานกับชาวต่างชาติ และพำนักอยู่ที่นั่น นอกจากจะลงทุนด้วยตัวเองแล้วยังชักชวนญาติชาวต่างชาติให้มาร่วมเปิดบิลลงทุนกับดิไอคอน รวมความเสียหายตรงนี้อีกกว่า 20 ล้านบาท

นายชิบ กล่าวต่อว่า ดังนั้น การส่งคดีให้กับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นการดำเนินการที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะหวั่นว่าหากดำเนินการไม่เสร็จทันตามกรอบเวลา อาจจะต้องมีการปล่อยตัวผู้ต้องหาจากการคุมขัง ทำให้ผู้ต้องหารอดคดี รวมถึงมาตรการควบคุมป้องกันการใช้สื่อหรือแพลตฟอร์มออนไลน์ไม่ให้มีการโฆษณาหลอกลวงประชาชนลงทุนธุรกิจขายตรง โดยการใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงมาสร้างความน่าเชื่อถือ การทำหน้าที่กำกับดูแลของ กสทช.รวมถึงแนวทางช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายให้ได้รับความยุติธรรม

ด้าน นายประเสริฐ ชี้แจงว่า รัฐบาลมีมาตรการป้องกันการใช้สื่อออนไลน์และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มีการโฆษณาหลอกลวงประชาชนผ่านธุรกิจขายตรง โดยมีกฎหมายมาดำเนินการ ได้แก่ 1.พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การขายตรง ซึ่งในกรณีของดิไอคอนเป็นการประกอบธุรกิจที่ไม่ตรงตามที่จดทะเบียนไว้ 2.พ.ร.บ.การกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และหลอกลวงประชาชนโดยชักชวนให้มีการสมัครสมาชิก ในธุรกิจขายตรงและนำเงินมาลงทุน และ 3.พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์

ขณะที่การใช้สื่อออนไลน์ในการโฆษณามีหลายหน่วยงานเข้าไปเกี่ยวข้องและได้กำกับดูแลอยู่ เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) จัดให้มีช่องทางในการแจ้งเบาะแส กรณีหากเกิดเหตุการณ์ผิดสังเกตหรือสงสัย , สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้มีการกำหนดมาตรการและการบังคับใช้กฎหมาย , กระทรวงสาธารณสุข ดูแลในเรื่องมาตรฐานสินค้าว่าเป็นไปตามที่กำหนดหรือไม่ , กระทรวงการคลัง เข้าไปตรวจสอบในเรื่องของการกำหนดมาตรฐานและป้องกันไม่ให้เกิดการทำธุรกิจที่เรียกว่าแชร์ลูกโซ่ ส่วนกรณีของดารา หรืออินฟลูเอนเซอร์ ต่างๆ ทางสมาคมโฆษณา และผู้ประกอบการธุรกิจบันเทิง รวมทั้งองค์กรที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินการจัดการโฆษณาและตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด

นายประเสริฐ กล่าวว่า ส่วนภารกิจของ กสทช.เป็นการเฝ้าระวังเชิงรุก และเป็นการตรวจสอบการกำกับในการออกอากาศ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับข้อมูลและข่าวสารที่มีความถูกต้อง ทั้งรายการวิทยุหรือรายการโทรทัศน์ และแจ้งแนวทางในการปฏิบัติให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปใช้ เพื่อให้เกิดความระมัดระวังอย่างยิ่งในการนำเสนอเนื้อหาที่สุ่มเสี่ยงในเรื่องของการผิดกฎหมายและป้องกันการโฆษณาที่ไม่เป็นธรรมกับประชาชน นอกจากนั้น กสทช.ยังได้ทำงานร่วมกับองค์การอาหารและยา (อย.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้ดำเนินคดีกับผู้ละเมิดต่างๆ ขณะที่กระทรวงดิจิทัลฯ ก็ได้มีการเฝ้าระวังเรื่อง พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดทางด้านคอมพิวเตอร์ ในมาตรา 14(1) ได้กำหนดลักษณะความผิดที่เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ไว้ และเราได้ติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด

"วันนี้ข้อมูลที่ทราบ มีผู้ประกอบการธุรกิจขายตรง 693 ราย ผู้ประกอบการธุรกิจแบบตรง 935 ราย และรัฐบาลได้มีการดำเนินการในการควบคุมเรื่องการโฆษณาที่เกินความเป็นจริง เสนอให้มีการกำหนดมาตรการให้ชัดเจนยิ่งขึ้นและสร้างมาตรฐานในการโฆษณา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเอาเปรียบผู้บริโภค" นายประเสริฐ กล่าว

นายประเสริฐ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการอายัดทรัพย์สิน การดำเนินการต่างๆ ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอน วันนี้ทราบล่าสุด ว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดย สตช.จะโอนคดีหลักเข้าสู่ดีเอสไอ เป็นคดีพิเศษ เพราะเห็นว่าอาจจะเข้าข่ายความผิดฐานฟอกเงิน ส่วนเรื่องการเยียวยา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป

จากนั้น นายชิบ ได้ถามย้ำถึงมาตรการที่รัฐบาลจะทำให้ประชาชนไว้วางใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานของรัฐ เพราะประชาชนเป็นผู้ที่ตกทุกข์ได้ยากจากกระบวนการต่างๆ โดย นายประเสริฐ ชี้แจงว่า กระทรวงดิจิทัลฯ ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของ สคบ.ซึ่งได้มีอนุกรรมการของคณะขึ้น 2 ชุด ประกอบด้วย ชุดแรกนำสืบค้นหาข้อมูลทั้งหมดเพื่อประกอบการพิจารณาและอนุกรรมการ ชุดที่ 2 คือการดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้ในอนาคต วันนี้อนุกรรมการทั้ง 2 คณะ จะเข้ามารายงานกับคณะทำงานชุดใหญ่ เพื่อดำเนินการอย่างเข้มงวดในเรื่องนี้ต่อไป หากพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการอย่างเด็ดขาด ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เพราะเห็นว่ากระทบต่อประชาชนในวงกว้าง หรืออาจจะมีเรื่องในลักษณะเดียวกันนี้เกิดขึ้นอีกในอนาคต

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ปิด3จว.ไล่ล่า ‘ก๊ก.อาน’กล่องดวงใจ‘ฮุนเซน’  โยงฟอกเงิน-ท่อน้ำเลี้ยงแก๊งคอล ปิด3จว.ไล่ล่า ‘ก๊ก.อาน’กล่องดวงใจ‘ฮุนเซน’ โยงฟอกเงิน-ท่อน้ำเลี้ยงแก๊งคอล
  • ‘วุฒิสภา’เสียงข้างมาก ฉลุยเห็นชอบ‘9 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด’ ‘วุฒิสภา’เสียงข้างมาก ฉลุยเห็นชอบ‘9 ตุลาการศาลปกครองสูงสุด’
  • ผอ.กองคดีฟอกเงิน DSI ยันสำนวนคดีฮั้ว สว. จะส่งถึงประธาน กกต. ภายในปี 68 ผอ.กองคดีฟอกเงิน DSI ยันสำนวนคดีฮั้ว สว. จะส่งถึงประธาน กกต. ภายในปี 68
  • สภาฯ ฉาว!! \'สาวที่ปรึกษาอนุกมธ.วุฒิสภา\'อ้างถูก\'สว.\'ล่วงละเมิดทางเพศ จ่อแถลงพรุ่งนี้ สภาฯ ฉาว!! 'สาวที่ปรึกษาอนุกมธ.วุฒิสภา'อ้างถูก'สว.'ล่วงละเมิดทางเพศ จ่อแถลงพรุ่งนี้
  • เปิดเวทีชำแหละ‘ธุรกิจกาสิโน’ สร้างปัญหาฟอกเงิน ซ้ำรอยประเทศเพื่อนบ้าน เปิดเวทีชำแหละ‘ธุรกิจกาสิโน’ สร้างปัญหาฟอกเงิน ซ้ำรอยประเทศเพื่อนบ้าน
  • \'กมธ.ทรัพยากรฯ สว.\'ยกคณะลุยเบลเยี่ยมดูบริหารจัดการน้ำจ่อเปลี่ยนโฉมรับมือปัญหาสิ่งแวดล้อม 'กมธ.ทรัพยากรฯ สว.'ยกคณะลุยเบลเยี่ยมดูบริหารจัดการน้ำจ่อเปลี่ยนโฉมรับมือปัญหาสิ่งแวดล้อม
  •  

Breaking News

ถ้าผมไม่เxือก แล้วใครจะเxือก! วาทะ 'ทักษิณ' จุดเดือด 'นักข่าวอาวุโส' ลั่นดูถูกคนไทยเกินรับไหว

ถล่มยับ! เปแอสเชทะลุชิงสโมสรโลก

'กอบศักดิ์' ฟันธง 'ภาษีทรัมป์' รอบนี้ของจริง! เตือนไทยจับตาโครงสร้างการค้าโลกใหม่

รัฐบาลย้ำต้องขุดรากถอนโคนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังออกหมายจับแก๊ง 'ก๊ก อาน'

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved