วันพุธ ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘ลูกสาวชัยชนะ’ยังไม่รอด!!! ถูกมิจฉาชีพหลอกเป็นจนท.รีดเงินสูญ 6 แสน

‘ลูกสาวชัยชนะ’ยังไม่รอด!!! ถูกมิจฉาชีพหลอกเป็นจนท.รีดเงินสูญ 6 แสน

วันพุธ ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2567, 12.50 น.
Tag : แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ชัยชนะเดชเดโช ปชป ประชาธิปัตย์ มิจฉาชีพ ลูกสาวชัยชนะ
  •  

"ลูกสาวชัยชนะ"ปธ.กมธ.ตำรวจ ถูกมิจฉาชีพหลอกเป็นจนท.รีดเงินสูญ 6 แสน จี้"ผบ.ตร-นายกฯ"แก้ปัญหา"แก๊งคอลเซ็นเตอร์"ด่วน

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2567 ที่รัฐสภา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่บุตรสาวคนโต ที่กำลังศึกษาอยู่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รีดเงินกว่า 600,000 บาท ว่า มีบุคคลที่แอบอ้างชื่อ ร.ต.อ.อดิศักดิ์ สอนบัว ว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ โทรศัพท์มาที่บุตรสาว แจ้งว่ามีคดีความและอย่านำเรื่องนี้ไปบอกพ่อแม่หรือญาติพี่น้อง และบอกว่ามีหนทางในการช่วยเหลือโดยให้โอนเงินเพื่อช่วยเหลือคดี และให้พูดคุยผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์


โดยบุตรสาวได้โอนเงินครั้งแรก 56,000 บาท ในเวลาประมาณ 08.00 น.หลังจากนั้นก็มีการเปิดวีดีโอคอลพูดคุย อีกฝ่ายใส่ชุดเป็นตำรวจ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และมีการบอกถึงคดีความว่าเป็นอย่างไร หลังจากนั้นก็ได้ให้โอนเงินครั้งที่ 2 บุตรสาวก็ได้โทรศัพท์มาหาตน บอกกับตนว่าต้องจ่ายค่าเทอม ซึ่งตนได้ให้บุตรสาวส่งใบเสร็จการจ่ายค่าเทอมมา เพราะความจริงจะต้องจ่ายเดือน ม.ค.แต่เนื่องจากบุตรสาวเป็นคนตั้งใจเรียน และไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดีในด้านการเงิน ตนก็ได้โอนเงินชำระค่าเทอมผ่านไปยังบุตรสาว หลังจากนั้นบุตรสาวก็ได้โอนเงินต่อไปไปให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ผ่านบัญชีม้า 100,000 บาท 2 ครั้ง ครั้งละแสนรวม 200,000 บาท หลังจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินไปแล้ว 3 ครั้ง ก็ได้กล่อมให้บุตรสาวกลับบ้านต่างจังหวัด เพื่อไปหาเงิน ไม่เช่นนั้นจะทำให้คุณพ่อ รวมถึงญาติพี่น้องเสื่อมเสียชื่อเสียง และจะแบล็คเมล์รูปที่วิดีโอคอลกันไว้ บุตรสาวจึงได้เดินทางกลับไปที่ จ.นครศรีธรรมราช ไปเอาเงินที่คุณยายแล้วโอนเงินให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์อีก 393,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งหมด 649,000 บาท

"การกระทำของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่กระทำต่อเด็ก และเป็นบุตรของบุคคลสาธารณะในสังคม และใช้วาทะในการข่มขู่นักศึกษาเหล่านี้ ว่าถ้าไม่กระทำตามคุณพ่อคุณแม่จะเสียชื่อเสียง และจะนำรูปที่มีส่งให้มหาวิทยาลัย ทำให้เด็กเกิดความกลัว ซึ่งหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น บุตรสาวก็ได้โทรมาหาผม และเล่าเรื่องราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็ได้ให้บุตรสาวแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช" นายชัยชนะ กล่าว

นายชัยชนะ กล่าวต่อว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสังคมไทย ซึ่งจริงๆ แล้ววันนี้รัฐบาลหรือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องปรับตามเรื่องเหล่านี้อย่างเด็ดขาด ตนยังมีความโชคดีอยู่ว่าเขาไม่มาหลอกนำพาบุตรสาวของตนไปดำเนินคดีแล้วมีการกักขังไว้เหมือนที่คนอื่นโดน เพราะปัจจุบันก็ยังมีเหตุการณ์แบบนี้อยู่ ต้องยอมรับว่าเด็กหลายคนรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้ถึงกระบวนการการกระทำแบบนี้ ก็จะโดนหลอกลวงแบบนี้อยู่บ่อยๆ

ทั้งนี้ ระหว่างการให้สัมภาษณ์ นายชัยชนะได้เปิดหลักฐานการพูดคุยระหว่างบุตรสาวกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ผ่านแอพพลิเคชั่นไลน์ ซึ่งมีเนื้อหาการรายงานความเคลื่อนไหวของบุตรสาวอยู่ตลอดและมีการข่มขู่ พร้อมกล่าวว่า ตนยังมีความโชคดีที่บุตรสาวตัดสินใจบอกตนเองและแจ้งความดำเนินคดี เรื่องเหล่านี้ถ้าเราไม่จริงจังในการแก้ไข ตนไม่ทราบว่าคนไทยจะต้องสังเวยกับเรื่องแบบนี้อีกนับเท่าไหร่ และบัญชีม้าทั้ง 3 บัญชี บุตรสาวได้ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว เพื่อเช็คเส้นทางทางการเงิน ว่าหลังจากโอนเข้าแล้วเส้นทางการเงินนี้ไปที่ไหน ซึ่งบัญชีม้าเหล่านี้ก็ต้องรับผิดชอบด้วย เพราะรับเงินกว่า 600,000 บาท เห็นแค่ค่าจ้างหมื่นสองหมื่น ดังนั้น ต้องฝากผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการถึงตัวการใหญ่ให้ได้ แล้วเบอร์โทรศัพท์ที่โทรเข้ามาโทรกลับก็ไม่ติด ส่วนห้องไลน์เมื่อบุตรสาวดึงตนเองเข้าไปในกลุ่มผู้ที่แอบอ้างเป็น DSI ก็ได้ออกจากไลน์ไปทันที และติดต่อไม่ได้อีกเลย

"ขอเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่เร่งรัดปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง และขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับ สตช.ต้องมีนโยบายปราบปรามเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะไม่ใช่แค่ลูกสาวตนคนเดียวที่ถูกกระทำ เหยื่อทุกคน ก็ต้องได้รับความเป็นธรรมในคดีเหล่านี้ ผมในฐานะเป็นประธานคณะกรรมการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎรก็จะนำเรื่องนี้ เข้าสู่ระเบียบวาระการประชุมเพราะที่ผ่านมาตนก็ยังพิจารณาเรื่องแบบนี้อยู่มาก สุดท้ายไม่คิดว่าสิ่งที่เราดำเนินการช่วยเหลือสังคมอยู่และปราบปรามอยู่วันนี้จะมาเกิดขึ้นกับลูกสาวของตน เพราะกระทบกระทั่งจิตใจลูกสาวร้องไห้ หลังจากนี้ก็ต้องช่วยกันดูแลสภาพจิตใจ และผมขอประณามพฤติกรรมคนเหล่านี้ว่าเลวทรามมากขอฝากเป็นอุทาหรณ์ มีคดีจริงๆ หากท่านมีคดีจริงๆ ขอให้ไปที่โรงพักสถานีตำรวจหรือหน่วยงานราชการอย่าไปหลงเชื่อกับคำพูดทางโทรศัพท์อย่าโอนเงินให้เขา เพราะข้อเท็จจริงไม่มีแบบนี้แน่นอน รวมถึงการลงทุนก็ขออย่าไปหลงเชื่ออย่าไปเกิดความโลภ ขอวิงวอนประชาชนเรื่องเหล่านี้อย่าหลงเชื่อ" นายชัยชนะ กล่าว

นายชัยชนะ กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางการแก้ไข ตนแนะนำว่า กสทช.จะต้องตัดเบอร์ทั้งหมด ที่ไม่ได้ลงทะเบียนซิมบ๊อก และต้องกำหนดว่าต่างด้าวสามารถใช้ได้คนละไม่เกินกี่เบอร์ รวมถึงบุคคลที่มีเงินเข้าเกินต้องไปตรวจสอบภาษีดูว่า มีการลงทะเบียนธุรกิจหรือมีรายได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องอายัดบัญชีเหล่านี้ ถ้าไม่เริ่มตัดไฟตั้งแต่ต้นลมก็ปราบปรามไม่ได้ รวมถึงกลุ่มคนจีนทั้งหลายที่กระทำเรื่องเหล่านี้ ทั้งที่มีคนไทยร่วมด้วยตนบอกไว้เลยว่าควรหยุดพฤติกรรมหลอกลวงเพื่อนมนุษย์ ฆ่าเพื่อนมนุษย์ เป็นบาปเป็นกำสิ่งที่คุณสร้างไว้มันหนีไม่พ้น อาจจะมีความสุขในวันนี้แต่ถ้าวันหนึ่งเกิดขึ้นกับครอบครัว ญาติของคุณจะรู้สึกอย่างไร อย่างไรก็ตาม นอกจากพฤติการณ์หลอกโอนเงิน สิ่งหนึ่งที่กลุ่มนี้ก็ทำคือแก๊งคอลเซ็นเตอร์คุยกับบุตรสาวของตนและขู่นำภาพที่คุยไปเผยแพร่ซึ่งถ้า มีภาพเหล่านี้เผยแพร่ออกไป ตนก็จะแจ้งความกับผู้ที่แชร์ภาพและเผยแพร่

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘วัชระ’ย้อนเกล็ด‘นิพนธ์’ บอก‘ปชป.’หมดสิ้น แล้วทำไม‘ลูกชาย’ยังสังกัดอยู่ ‘วัชระ’ย้อนเกล็ด‘นิพนธ์’ บอก‘ปชป.’หมดสิ้น แล้วทำไม‘ลูกชาย’ยังสังกัดอยู่
  • ​‘โฆษก ภท.’โต้เดือด! ตัดไฟ‘แก๊งคอลฯ’ ‘สมช.’ล่าช้า ไม่ใช่‘มท.’ ​‘โฆษก ภท.’โต้เดือด! ตัดไฟ‘แก๊งคอลฯ’ ‘สมช.’ล่าช้า ไม่ใช่‘มท.’
  • \'อดีตแม่ยก ปชป.\'ลิสต์ 5 ข้อ พรรคที่ ปชช. อยากเลือก ลั่น\'หัวหน้าต้องมีสัจจะ-ไม่เอาพรรคเป็นสาขาใคร\' 'อดีตแม่ยก ปชป.'ลิสต์ 5 ข้อ พรรคที่ ปชช. อยากเลือก ลั่น'หัวหน้าต้องมีสัจจะ-ไม่เอาพรรคเป็นสาขาใคร'
  • 79 ปีหมดสิ้นแล้ว! \'นิพนธ์\'ลั่นความเป็นสถาบันทางการเมือง ของประชาธิปัตย์ไม่เหลือแล้ว 79 ปีหมดสิ้นแล้ว! 'นิพนธ์'ลั่นความเป็นสถาบันทางการเมือง ของประชาธิปัตย์ไม่เหลือแล้ว
  • \'สส.ปชป.\'เอกฉันท์ชง\'สุณัฐชา\'นั่งประธานกมธ.ตำรวจแทน\'ชัยชนะ\' 'สส.ปชป.'เอกฉันท์ชง'สุณัฐชา'นั่งประธานกมธ.ตำรวจแทน'ชัยชนะ'
  • \'ทวี\'ลั่นต้องจัดการผู้อยู่เบื้องหลัง ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ปัดพุ่งเป้า\'ก๊ก อาน\' คนสนิท\'ฮุนเซน\' 'ทวี'ลั่นต้องจัดการผู้อยู่เบื้องหลัง ขบวนการคอลเซ็นเตอร์ ปัดพุ่งเป้า'ก๊ก อาน' คนสนิท'ฮุนเซน'
  •  

Breaking News

(คลิป) อย่ามัวแต่นั่ง 'หนักแผ่นดิน' ช่วยแก้ปัญหาประชาชนบ้าง!

‘วัชระ’ย้อนเกล็ด‘นิพนธ์’ บอก‘ปชป.’หมดสิ้น แล้วทำไม‘ลูกชาย’ยังสังกัดอยู่

โลเคชั่นปัง! 'นนกุล'ประกาศขายที่ดินย่านพระราม 3

หนุ่มใหญ่หลอนยา! อีโต้ฟันยาย80ปีดับ โดนรุมประชาทัณฑ์อ่วม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved