วันเสาร์ ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
"กองทัพ"ไม่เล่นด้วย งัดข้อ"ปู" เบรกใช้พรก.ฉุกเฉิน

"กองทัพ"ไม่เล่นด้วย งัดข้อ"ปู" เบรกใช้พรก.ฉุกเฉิน

วันศุกร์ ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2557, 06.00 น.
Tag :
  •  

“กองทัพ”ไม่เล่นด้วย

งัดข้อ”ปู”

เบรกใช้พรก.ฉุกเฉิน

ผบ.ทบ.รู้ทันไม่อยากเป็นเหยื่อ

แฉนายกฯดิ้นดึงทหารลุยให้ได้

เทือกเปิดแผน”ชัตดาวน์”กทม.

ปิดทุกแยก-ตัดน้ำ-ไฟบ้านรมต.

เวลา 10.00 น.วันที่ 2  มกราคม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางเข้าร่วมประชุมศูนย์รักษาความสงบเรียบร้อย(ศอ.รส.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข (กปปส.) โดยมีรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.)  แถลงภายหลังการประชุมศอ.รส.ว่า ในการประชุมศอ.รส.เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งมีน.ส.ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร รักษาการนายกฯ เป็นประธานนั้น ได้มีการประเมินสถานการณ์การประกาศชุมนุมชัตดาวน์กรุงเทพฯวันที่ 13 มกราคมนี้เป็นต้นไปของกลุ่มกปปส.ด้วย


อ้างส่อรุนแรงดันใช้พรก.ฉุกเฉิน

“โดยที่ประชุมประเมินว่า อาจมีความจำเป็นที่จะต้องมีการยกระดับการบังคับใช้กฏหมายเป็นการประกาศใช้ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อขอให้ทหารเข้ามามีส่วนร่วมบริหารสถานการณ์ที่เข้มข้นขึ้น และถือเป็นกติกาในการเข้าระงับยับยั้งสถานการณ์ “พล.ท.ภราดร กล่าว

ล็อบบี้กองทัพแต่ทหารยังนิ่ง

ทั้งนี้ยังอยู่ในระหว่างหารือกับทางเหล่าทัพ ยังไม่ได้ข้อสรุป ยังต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เพราะเริ่มมีการระดมคนจากต่างจังหวัดเข้ามาแล้ว และดูว่าวันที่ 5 ม.ค.มีความเป็นไปตามที่แกนนำประกาศไว้หรือไม่ ถ้าเป็นไปตามนั้นก็เข้าเงื่อนไขการยกระดับการใช้กฎหมาย ต้องดูข้อเท็จจริงด้วย ผบ.ตร.ประสานกับทางกองทัพอยู่ แต่ยังไม่ได้คำตอบ ทางนายกฯ เองก็รับทราบแล้ว ถือเป็นภาระฝ่ายประจำที่จะดำเนินการ ให้ฝ่ายมั่นคงประเมินกันอีกครั้ง

นายกฯมีอำนาจสั่งใช้ได้3วัน

พล.ท.ภราดรกล่าวว่า การประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เป็นอำนาจของนายกฯ ที่สามารถประกาศใช้ได้เลย แต่จะมีกำหนดระยะเวลาการประกาศใช้ในเวลา 3 วัน หากจะลากยาวต่ออายุการประกาศใช้ต้องให้ครม.เป็นผู้พิจารณา

ผู้นำเหล่าทัพเรียกประชุมด่วน

ขณะเดียวกันเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.)          ได้เชิญ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เข้าประชุมหารือเพื่อประเมินสถานการณ์ทางการเมือง โดยใช้เวลาหารือ 3 ชั่วโมง

สมช.อ้างม็อบส่อใช้ความรุนแรง

ทั้งนี้ที่ประชุมผู้นำเหล่าทัพได้เชิญ พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสมช.เข้าชี้แจงข้อมูลด้านการข่าวและประเมินสถานการณ์ชุมนุม”ชัตดาวน์”ปิดกรุงเทพฯ ของกปปส.ในวันที่ 13 มกราคมรวมถึงแนวทางการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉิน โดยพล.ท.ภราดร อ้างว่าสถานการณ์ชุมนุมส่อเค้ารุนแรงและเสี่ยงต่อปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก รวมทั้งเพื่อยับยั้งมวลชนบุกยึดสถานที่ราชการ รื้อทำลายสาธารณูปโภคของรัฐตามที่ได้ประกาศตัดน้ำประปา และ กระแสไฟฟ้า

แฉ”ปู”ล็อบบี้ทหารใช้ฉุกเฉิน

แหล่งข่าวกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร รักษาการนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ยังได้นำข้อเสนอแนะการประกาศใช้พรก.ฉุกเฉินดังกล่าวหารือกับปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.สส.และผบ.เหล่าทัพ ที่สโมสรกองทัพบกเทเวศร์ เมื่อวันที่ 1มกราคมที่ผ่านมา หลังเข้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี  แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป

กองทัพหวั่นซ้ำรอยเหตุการณ์ปี53

“ในการหารือวันนั้น ผบ.เหล่าทัพเห็นว่าการประกาศใช้  พรก.ฉุกเฉิน และให้ทหารเป็นเจ้าพนักงานหลักในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยนั้น อาจซ้ำรอยเหตุการณ์เมื่อปี 2553 ที่ทหารจะต้องเผชิญหน้ากับประชาชน อีกทั้งทหารไม่ได้มีหน้าที่หลักในการควบคุมฝูงชน และเห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องประกาศใช้ในตอนนี้ทำให้น.ส.ยิ่งลักษณ์ได้แจ้งว่าจะให้ พล.ท.ภราดร  เข้าชี้แจงกับผบ.สส.และผบ.เหล่าทัพอีกครั้งในวันที่2 ม.ค.นี้”แหล่งข่าวระบุ

แฉผบ.เหล่าทัพไม่เล่นด้วย

แหล่งข่าวนระบุอย่างไรก็ตามหลังจากที่ เลขาฯ สมช.ได้ชี้แจงแล้วปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.สส.และ ผบ.เหล่าทัพ ได้แสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง และ เห็นร่วมกันว่ายังไม่จำเป็นต้องประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ในขณะนี้ เพราะยิ่งเป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ให้ดูรุนแรงมากขึ้น ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศ กระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและตลาดหุ้นที่มีความอ่อนไหวอยู่แล้ว  

“ผบ.เหล่าทัพเห็นว่าการใช้ พรบ.ความมั่นคงในราชอาณาจักร  โดยใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นหลักน่าจะเพียงพอ   โดยให้ทหารเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงาน สนับสนุนภารกิจการดูแลสถานที่ราชการ และสถานที่สำคัญ ตามที่ ศอ.รส. ร้องขอ น่าจะเหมาะสมอยู่แล้ว”  

เชื่อสถานการณ์ไม่รุนแรง

อย่างไรก็ตามที่ประชุมได้ขอให้หน่วยข่าวของกองทัพติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประเมินผลการเดินสายของ กปปส.ในช่วงของการระดมมวลชนระหว่างวันที่ 5 - 8 มกรารคมนี้ว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมมากเหมือนครั้งก่อนหน้าหรือไม่ แต่เชื่อว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นแต่อย่างไร ทั้งนี้ หากมีสถานการณ์แทรกซ้อน หรือ เกิดเหตุรุนแรงขึ้น รัฐบาลก็สามารถที่จะประกาศ พรก.ฉุกเฉินฯได้ทัน

“ปู”ถกนอกรอบจ่อใช้ฉุกเฉิน

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ประชุมหารือนอกรอบร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงอีกครั้งเพื่อประเมินสถานการณ์อีกรอบว่า ในการชุมนุมวันที่ 13 มกราคม หากมีผู้ชุมนุมจำนวนมาก และสถานการณ์รุนแรงรัฐบาลจำเป็นจะต้องประกาศประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่

ชี้5มค.กำนันเทือกเช็คเร็ตติ้ง

โดยที่ประชุมประเมินแบ่งเป็น 2 ประเด็นคือ มองว่าการเลื่อนการชุมนุมจากวันที่ 5 ม.ค.ไปเป็นวันที่ 13 ม.ค.เนื่องจากนายสุเทพไม่สามารถระดมคนได้แล้ว และเป็นการเดินแบบไม่มีจุดหมาย ทำให้คนบางส่วนไม่มาร่วม และจากการเดินของนายสุเทพ 2 - 3 ครั้งที่ผ่านมามีคนมาชุมนุมมาก แต่ยังไม่สามารถล้มรัฐบาลได้ ทหารก็ยังไม่ปฏิวัติ และวันที่ 5 ม.ค.เชื่อว่าเป็นการหยั่งเชิงของนายสุเทพว่าคนกรุงเทพฯเอาด้วยหรือไม่

บิ๊กตู่หวั่นเป็นจำเลยเบรกฉุกเฉิน

แหล่งข่าวระบุด้วยว่า ส่วนประเด็นที่หากกระแสคนภาคใต้มาชุมนุมแน่นอน ดูจากการจองรถ จำเป็นต้องประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่และต้องใช้กำลังเท่าไร และขณะที่ ผบ.ทบ.ไม่ต้องการให้รัฐบาลประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินเพราะกลัวว่าจะตกเป็นจำเลยสังคมอีก เหมือนเหตุการณ์ในปี 53 เมื่อมีการปะทะและมีผู้เสียชีวิต 

อ้างผบ.สส.ยอมนั่งผอ.ศอฉ.

“ผบ.ทบ.ยืนยันแล้วไม่รับตำแหน่งผอ.ศอฉ.แล้วใครจะเป็นคนสั่งการ เพราะคนที่สั่งการได้มีแค่ผบ.สส.และผบ.ทบ.เท่านั้น ซึ่งได้มีการแจ้งที่ประชุมว่า ทางผบ.สส.ได้พูดคุยกับนายกฯแล้วว่าหากต้องประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินจริงๆ ไม่มีใครนั่งเป็นผอ.ศอฉ.ก็จะเป็นผู้ดำเนินการตรงนี้เอง แต่ต้องขอดูวิธีการปฎิบัติด้วย”แหล่งข่าวกล่าว

สมช.รอดู3วันประเมินใช้ฉุกเฉิน

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิสมช.กล่าวว่า ณ เวลานี้ ในชั้นต้นประเมินแล้วยังใช้พ.ร.บ.ความมั่นคงฯได้ โดยจะเพิ่มความเข้มข้นอย่างเต็มที่ตำรวจและทหารวางแผนร่วมกันอยู่ในจุดที่ต้องออกปฎิบัติการร่วม ออกคำสั่งห้ามเป็นจุดๆไป โดยคำสั่งศอ.รส. และหากจำเป็นต้องใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯก็จะประเมินสถานการณ์อีกครั้งนี้จากนี้ไป 3 วัน โดยการตั้งหัวหน้าผู้รับผิดชอบอยู่ที่นายกฯพิจารณา โดยมีรองนายกฯด้านความมั่นคงเป็นผู้กำกับ

“ปู”ไม่ตอบใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

เวลา15.00 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจะขอกำลังกองทัพมาช่วยเหลือตำรวจดูแลสถานการณ์ว่า ขอให้ทีมความมั่นคงหารือก่อน เมื่อถามต่อว่ามีแนวโน้มจะออก พ.ร.ก.ฉุกเฉินหรือไม่ นายกฯ ไม่ตอบและเดินขึ้นรถทันที ส่วนความคืบหน้าตั้งสภาปฏิรูปนั้น นายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังรอฟังจากภาคเอกชนและจากทุกหน่วยงาน ซึ่งอยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลความคิดเห็น คงต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง   

ไปร่วมงานศพดต.ที่เสียชีวิต

เวลา 15.20 น.นายกฯเดินทางมาวัดตรีทศเทพวรวิหาร เพื่อร่วมงานพระราชพิธีพระราชทานเพลิงศพ ด.ต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ ผบ.หมู่งานจราจร สน.ตลาดพูล ที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ในเหตุปะทะกับกลุ่มชุมนุม กปปส. ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง     ทั้งนี้นายกฯได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวด.ณรงค์ด้วยน้ำเสียงสั่นเคลือและมีน้ำตาคลอเบ้าว่า  ความสูญเสียมันไม่มีอะไรมาทดแทนได้ จากนั้นนายกฯได้เดินทักทายเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในงาน

“มาร์ค”ไปรดน้ำศพการ์ดคปท.

ส่วนที่ศาลา 3 วัดพระศรีมหาธาตุวรวิหาร แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ดร.อโณทัย คล้ามไพบูลย์ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นางทิพอาภา สุฉันทบุตร (มารดา) ญาติ เพื่อนสนิท และประชาชนจำนวนมาก ร่วมรดน้ำศพนายวสุ ท่ามกลางบรรยากาศที่เศร้าสลด โดยจะมีพิธีสวดอภิธรรมศพ ตั้งแต่วันที่ 2-6 ม.ค. และประชุมเพลิงในวันที่ 7 ม.ค. เวลา 16 .00 น.

บิ๊กอู๋รับตร.ทุบรถ-อยู่บนตึก

ขณะที่พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.กล่าวถึงกรณี นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.ประกาศขีดเส้น 7 วันให้หาตัวกลุ่มบุคคลที่แต่งกายชุดตำรวจทุบรถของประชาชนบริเวณสนามไทย-ญี่ปุ่นดินแดง และชายชุดดำที่อยู่บนตึกกระทรวงแรงงานว่า ตนยอมรับว่าเป็นตำรวจจริง ซึ่งอะไรที่เป็นจริงก็ต้องยอมรับ ทั้งนี้จะต้องมีการตรวจสอบเรื่องวินัยต่อไป

อ้างตร.ก็บาดเจ็บ-เสียชีวิตด้วย       

“แต่สถานการณ์ในขณะนั้นมีความรุนแรงเกิดขึ้นโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องถอยไปจุดตั้งรับ และมีผู้ชุมนุมเข้าไปยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากและเสียชีวิตหนึ่งราย ทั้งนี้ผมจะชี้แจงรายละเอียดทั้งหมดแต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งจะใช้เวลาไม่นาน ส่วนคนบนตึกกระทรวงแรงงานเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทางผู้บัญชาการเหตุการณ์เป็นคนส่งขึ้นไป  ส่วนคนที่ทุบรถก็ทราบแล้วว่าเป็นใคร ”

จนมุมรับตร.อยู่บนตึกแรงงานฯ

เวลา 13.00 น.พล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี ที่ปรึกษา สบ10 และพล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงศ์ ผบ.ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ร่วมชี้แจงกรณีกลุ่มชายชุดดำที่ขึ้นไปบนตึกดาดฟ้ากระทรวงแรงงาน ในวันที่ 26 ธันวาคม ที่เกิดเหตุการณ์ปะทะระหว่างผู้ชุมนุม และเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นตำรวจจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของดต.ณรงค์ ปิติสิทธิ์ สังกัด สน.ตลาดพลู และนายวสุ สุฉัทบุตร ที่เป็นผู้ชุมนุม

ยันอยู่บนตึกไม่มีอาวุธปืนจริง

พร้อมกันนี้พล.ต.อ.จรัมพรยังได้แสดงแผนที่ ภาพถ่าย กระทรวงแรงงาน และบริเวณใกล้เคียง รวมถึงการตรวจพยานหลักฐานของชุดพิสูจน์หลักฐานเพื่อยืนยันว่า ความสูงของตึกดังกล่าวมีความสูงเพียง 12 เมตร และมีตึกที่สูงกว่าบังอยู่โดยรอบ ทำให้ไม่สามารถที่จะยิงจากจุดนี้ได้อีกทั้งเจ้าหน้าที่บนตึกมีเพียงปืนที่ใช้ยิงแก๊สน้ำตา ปืนลูกซองยิงกระสุนยาง ไม่มีอาวุธปืนจริง

อ้างทุบรถเข้าใจผิดคิดว่าคนร้าย

สำหรับกรณีปรากฏคลิปเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจทุบรถนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นการไลล่าติดตามตัวคนร้ายที่ยิงเจ้าหน้าที่ ซึ่งอาจเป็นความเข้าใจผิด โดยจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งภายหลังการแถลงข่าวพลตำรวจเอก จรัมพร ได้นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่กระทรวงแรงงาน ทั้งจุดที่มีเจ้าหน้าประจำบนดาดฟ้า รวมถึงจุดที่ดาบตำรวจณรงค์และนายวสุถูกยิง

เผยขึ้นดาดฟ้าไปยิงแก๊สน้ำตา 

ขณะที่ พ.ต.อ.ณัฐพล โกมินทรชาติ ผกก.อคฝ.กล่าวว่า ระหว่างเกิดเหตุปะทะ ได้รับการขอกำลังสนับสนุน 2 หมู่ โดยได้ขึ้นดาดฟ้าของตึกกระทรวงแรงงาน 3 ครั้ง ในการยิงแก๊สน้ำตาต้านมวลชนที่บุกเข้ามา โดยยืนยันระหว่างปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ใช้กระสุนจริงมีเพียงกระสุนยางและแก๊สน้ำตาเท่านั้น ซึ่งขณะปฏิบัติหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่นั้นถูกมวลชนทำร้ายเช่นกันด้วยก้อนหินและการยิงหัวน๊อต

มท.1ลั่นไม่ยอมให้ตัดน้ำ-ไฟ

ส่วนนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่กลุ่ม กปปส. ประกาศปิด กทม. ในวันที่ 13 ม.ค.ว่านายกฯเป็นห่วงเรื่องนี้ โดยได้โทรศัพท์มาสั่งการตนให้ทำความเข้าใจกับผู้ว่าการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ผู้ว่าการประปานครหลวง (กปน.) และผู้ว่าการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ให้ควบคุมเจ้าหน้าที่ให้ดี ไม่ให้มีการตัดน้ำ ตัดไฟ ซึ่งได้ยืนยันว่า จะดูแลเจ้าหน้าที่ไม่ให้มีการตัดน้ำ ตัดไฟบ้านรัฐมนตรี

ร่อนหนังสือบี้กทม.เป็นกลาง

มีรายงานว่า นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รักษาการรมว.มหาดไทย ได้ส่งหนังสือถึง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่ากทม.โดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 123 แห่ง พรบ.ระเบียบบริหารราชการ กทม.ออกคำสั่งให้กรุงเทพฯ สนับสนุนการทำหน้าที่ของ ศอ.รส.ในการควบคุมการชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่ประกาศปิดกรุงเทพฯ ในวันที่ 13 ม.ค.นี้

นอกจากนี้ยังสั่งให้กทม. มีความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ ตรวจสอบและติดตั้งกล้องวงจรปิดในพื้นชุมนุม ดูแลเรื่องการจราจรและขนส่ง โดยให้รายงานกระทรวงมหาดไทยเป็นระยะจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ ขณะที่นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รมว.คมนาคม ได้สั่งตั้งวอร์รูมโดยมอบหมายให้นายสมชัย ศิริวัฒนโชค ปลัดคมนาคมเป็นประธานวอร์รูมเพื่อรับมือวันปิดกรุง ทั้งนี้ในวันที่ 3 มกราคมจะเชิญ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯกทม.มาหารือร่วมกัน

โฆษกผู้ว่าฯพร้อมรับปิดกรุง

ส่วนนายวสันต์ มีวงษ์ โฆษกประจำตัวผู้ว่าฯกทม.กล่าวว่า ในส่วนของ กทม.เตรียมแผนพร้อมรับมือมาอย่างต่อเนื่อง และประเมินสถานการณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุมทุกวันอยู่แล้ว ทั้งให้สำรวจกล้องวงจรปิด แต่งานด้านจราจรที่หลายฝ่ายแสดงความกังวลนั้น ยอมรับว่าหน้าที่หลักๆ ไม่ได้อยู่ที่กทม.แต่อยู่ที่ตำรวจจราจรทั้งอำนาจและหน้าที่ ส่วนการดูแลทั้งระบบก็เป็นหน้าที่ของรัฐมนตรี

เทือกโพสต์แจงแผนปิดกทม.

เวลา 20.00 น.นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการกปปส.ได้โพสต์เฟชบุ๊คส่วนตัวระบุแผนการ”ชัตดาวน์”กรุงเทพฯในวันที่ 13 มกราคมเพื่อทำให้ รัฐบาลเป็น "รัฐบาลล้มเหลว" บริหารราชการไม่ได้อีกต่อไป โดยมวลมหาประชาชน พร้อมใจกันออกมาปิดถนนในกรุงเทพฯ ให้กลายเป็นถนนคนเดิน จะมีการตั้งเวทีต่อต้านรัฐบาล ทุกสามแยก สี่แยก ข้าราชการไปทำงานไม่ได้

ย้ำตัดน้ำ-ไฟบ้านนายกฯ-รมต.

นอกจากนี้ประชาชนจะนำรถยนต์ของตนจอดขวางถนนทุกแยก ตัดน้ำ-ตัดไฟ สถานที่ราชการ ทุกแห่ง รวมทั้งบ้านนายกและคณะรัฐมนตรี แต่ไม่มีการตัดน้ำ ตัดไฟ บ้านเรือนของประชาชนทั่วไป เพราะไม่ต้องการให้ประชาชนเดือดร้อน รถเมล์ รถไฟ รถไฟฟ้า BTS รถไฟฟ้าใต้ดิน เรือเมล์ ยังเปิดบริการปกติ ทุกถนน ยังคงเว้นช่องทางเดินของรถเมล์ และ เผื่อสำหรับรถพยาบาล หรือ คนที่จะไปโรงพยาบาลด้วย

ทั่วประเทศลุกฮือ13มกราคม

ทั้งนี้เริ่มปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ วันจันทร์ที่ 13 มกราคม เวลา 09.00น.เป็นต้นไปและฏิบัติการต่อเนื่องทุกวัน จนกว่าชัยชนะจะเป็นของปวงชนชาวไทย ในขณะเดียวกัน ประชาชนในต่างจังหวัด จะรวมตัวกันลุกฮือ ขึ้นปิดสถานที่ราชการทุกแห่ง แสดงอารยะขัดขืน พร้อมๆกับการปฏิบัติการปิดกรุงเทพฯ

ขึ้นเวทีอัด”เหลิม-วรพงษ์”

จากนั้นเวลา 20.00 น. นายสุเทพ  ได้ขึ้นปราศรัยบนเวทีราชดำเนินอีกครั้ง โดยตอกย้ำกรณีผบ.ตร.ออกมายอมรับว่าชายชุดดำบนหลังคาตึกกระทรวงแรงงานนั้นเป็นตำรวจจริง แต่กลับไม่ยอมบอกว่าใครสั่งการ แต่เรื่องนี้ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง และพล.ต.อ.วรพงษ์ ชิวปรีชา รอง ผบ.ตร. ต้องรับผิดชอบว่าใช้อำนาจอะไรสั่งตำรวจขึ้นไปบนตึกเพราะไม่มีใครคิดทำร้ายตำรวจอย่างที่อ้าง

ลั่นไม่ใช่ดาบยิ้มไม่กลัว“เหลิม”

นายสุเทพยังกล่าวตอบโต้ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวหาผู้ชุมนุมเป็นพวกวิปริต และข่มขู่ตนจะประสบเหตุเหมือนสนธิ ลิ้มทองกุลถูกยิงเป็นร้อยนัดว่า ร.ต.อ.เฉลิมนั่นแหละเป็นตัววิปริตของประเทศนี้ และขอบอกว่ากำนันสุเทพไม่กลัวเฉลิม และไม่กลัวจะยิงกี่ร้อยนัด และขอท้าให้ร.ต.อ.เฉลิมสั่งลูกน้องมายิงตน จะได้รู้ว่าตระกูลเฉลิมจะอยู่ในประเทศได้หรือไม่  และขอบอกว่าสุเทพไม่ใช่ดาบยิ้ม

แนวร่วมพร้อมชัตดาวน์ทุกสี่แยก

นายสุเทพ ยังซักซ้อมแผน”ชัตดาวน์”กทม.ในวันที่ 13 มกราคมโดยย้ำตามแผนที่ประกาศไว้ในเฟชบุ๊กส่วนตัว พร้อมกับระบุว่า ขณะนี้มีแนวร่วมกลุ่มองค์กรแสดงความจำนงมาแล้วที่ร่วมเคลื่อนไหวใหญ่อีกครั้งวันที่ 13 มกราคม ได้แก่ 1.ชาวจุฬาขออาสาจัดเวทีที่สี่แยกปทุมวัน 2.นักธุรกิจสีลม นักธุรกิจเพื่อประชาธิปไตยอาสารับผิดชอบเวทีสวนลุมพินี 3.สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) จะรวมกับประชาชนดูแลเวทีที่อโศก 

เกษตรฯยึดห้าแยกลาดพร้าว

4.คณาจารย์นิสิตมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะจับมือกับประชาชนจากหลายจังหวัดภาคอิสานรับผิดชอบเวทีบริเวณห้าแยกลาดพร้าว 5.ดร.เสรี วงศ์มณฑา จะร่วมกับศิลปินดารานักแสดง รับผิดชอบ เวทีราชประสงค์ ทั้งวันทั้งคืนทุกวันจนกว่าจะชนะ  ยืนยันจะปิดกรุงเทพฯตั้งแต่วันที่ 13 มกราคม จนกว่าระบอบทักษิณจะพ้นประเทศไทย ถึงจะเลิก ส่วนต่างจังหวัด กปปส.จังหวัดจะร่วมกับประชาชนทุกสาขาอาชีพ ปิดสถานที่ราชการทุกแห่งในจังหวัด คู่ขนานกับกปปส.ในกทม.

นอกจากนี้ นายสุเทพยังเรียกร้องสื่อโทรทัศน์อย่าตกเป็นเครื่องมือของรัฐบาลและขอให้เชิญนักวิชการจากกปปส.ไปออกรายการชี้แจงบ้าง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก ‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก
  • ‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’ ‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’
  • ‘พล.อ.ณัฐพล’รับเงื่อนไขกัมพูชา ให้‘สหรัฐ-จีน’ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุมจีบีซีเฉพาะ 7 ส.ค. ‘พล.อ.ณัฐพล’รับเงื่อนไขกัมพูชา ให้‘สหรัฐ-จีน’ส่งผู้สังเกตการณ์ประชุมจีบีซีเฉพาะ 7 ส.ค.
  • มวลชนรวมพลังแผ่นดิน เกาะติดแกนนำปราศรัย ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ (ประมวลภาพ) มวลชนรวมพลังแผ่นดิน เกาะติดแกนนำปราศรัย ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ (ประมวลภาพ)
  • \'สมศักดิ์\'  สั่งการ สธ. ให้เกาะติดน้ำท่วม \'สุโขทัย\' เผยน้ำมีแนวโน้มลดลง 'สมศักดิ์' สั่งการ สธ. ให้เกาะติดน้ำท่วม 'สุโขทัย' เผยน้ำมีแนวโน้มลดลง
  • รัฐบาลจัดไว้อาลัย ปชช.ผู้บริสุทธิ์ เหตุเขมรยิงBM-21 เข้าใส่พลเมืองไทย รัฐบาลจัดไว้อาลัย ปชช.ผู้บริสุทธิ์ เหตุเขมรยิงBM-21 เข้าใส่พลเมืองไทย
  •  

Breaking News

‘ยิปซีพยากรณ์’ดวงรายวัน วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2568

‘สว.ตัวตึง’โวยงบช่วยเหลือภัยสงคราม 100 ล้าน มีแต่‘หนังสือสั่งการ’ไร้ตัวเงิน ‘อบจ.’ใกล้ถังแตก

ตร.เชียงรายดักรวบ! ‘คู่หูไทย-ลาว’ ขนเฮโรอีน60กิโลกรัม-คารถทัวร์มุ่งหน้าเข้ากรุง

‘กกต.’ยกคำร้อง‘สว.ระดับประเทศ’ ให้ช่วยหาคะแนน แลกเก้าอี้‘ผู้เชี่ยวชาญ’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved