รอคำสั่งส่วนกลาง! ทหารเมียนมายังไม่ปล่อยตัว‘4 ลูกเรือไทย’
6 ธันวาคม 2567 ความคืบหน้ากรณีเรือรบเมียนมา ยิงเรือประมงไทย 3 ลำ มีลูกเรือไทยกระโดดหนีลงทะเลจมน้ำเสียชีวิต 1 ราย ทางเรือรบเมียนมาได้ควบเรือประมงไทย 1 ลำ พร้อมลูกเรือชาวไทย 4 คน ลูกเรือเมียนมา 27 คน ไปควบคุมไว้ที่ฐานทัพเรือเมียนมาเกาะย่านเชือก ต่อมามีการประสานงานกันระหว่าง TBC ไทยกับ TBC เมียนมา เพื่อของส่งกลับ 4 ลูกเรือประมงไทยพร้อมเรือประมง จนวันที่ 5 ธันวาคม 67 ฐานทัพเรือเกาะย่ายเชือกได้ย้าย 31 ลูกเรือพร้อมเรือประมงมาไว้ที่จังหวัดเกาะสอง พร้อมมอบลูกประมงทั้งชาวไทยและชาวเมียนมาไปควบคุมตัวที่ สภ.เกาะสองประเทศเมียน พร้อมเรือประมง เพื่อรอการดำเนินการในส่งตัวกลับ โดยมีข่าวเรือว่าจะส่งกลับภายในวันนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 12.15 น.วันนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยังหน่วยงานความมั่นคงในจังหวัดระนอง ถึงเรื่องดังกล่าวว่าจะมีการส่งตัวกลับมาหรือไม่ ได้รับคำตอบอย่างไม่เป็นทางการว่า TBC ไทยได้ประสานงานไปยัง TBC เมียนมาเพื่อขอรับทราบความคืบหน้าล่าสุดเพื่อเตรียมการรอรับลูกเรือทั้งหมด พร้อมเรือประมง คำตอบที่ได้มาอย่างไม่เป็นทางการคือทางการเกาะสองยังไม่สามารถส่งกลับลูกเรือทั้งคนไทยและลูกเรือชาวเมียนมารวม 31 คน พร้อมเรือประมงได้ เนื่องจากยังไม่คำสั่งสั่งโดยตรงจากหน่วยเหนือที่กรุงเนปิดอร์ ผู้มีอำนาจสั่งการว่าจะให้ปล่อยเมื่อไหร่พูดง่ายๆไม่มีกำหนดระยะเวลาที่จะปล่อยต้องรอคำสั่งโดยตรงอย่างเดียวเกาะสองไม่มีอำนาจสั่งปล่อยตัว
ทั้งนี้ หากว่าทางหน่วยเหนือที่กรุงเนปิดอร์จะมีคำสั่งปล่อยทั้งลูกเรือทั้ง 31 คน หรือจะปล่อยเพียงเฉพาะ 4 ลูกเรือคนไทย หรือปล่อยเรือประมง ทางการเกาะสองก็ยังคงต้องมีขั้นตอนอีกหลายอย่าง ทั้งเรื่องการสอบสวน การส่งตัวไปยังศาลจังหวัดเกาะสอง เพื่อพิจารณ์คดี ว่าจะดำเนินคดีอะไร เช่นหลบหนีเข้าเมือง ลักลอบทำการประมงในน่านน้ำพม่าโดยไม่ได้รับอนุญาตและยังมีคดีปลีกย่อยที่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ จากนั้นต้องผ่านขั้นตอนทางตำรวจคนเข้าเมืองจังหวัดเกาะให้เป็นที่เรียบร้อย จึงจะสามารถชี้ชัดว่าจะประสานทางการไทยในการส่งตัว ซึ่งระยะเวลายังไม่สามารถบอกได้ต้องรอคำสั่งจากหน่วยเหนือที่กรุงเนปิดอร์ ซึ่งมีอำนาจสูงสุดมรการตัดสินใจ
จากนี้ยังทราบอย่างไม่เป็นทางการว่า ได้มีญาติของ 4 คนไทยได้นั่งเรือเดินทางจากจังหวัดระนอง ไปยังจังหวัดเกาะสอง เพื่อขอเข้าเยี่ยมลูกเรือ 4 คนเพื่อขอดูความเป็นอยู่ของญาติพี่น้องที่ถูกจับ ซึ่งทราบว่าลูกเรือทั้ง 31 คนทั้งคนไทยและคนเมียนมาได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากทางการเมียนมา ซึ่งถูกควบคุมตัวไว้ที่ สภ.เกาะสอง ไม่มีการทำร้ายร่างกายทุกคนมีสุขร่างกายที่แข็งแรง มีอาหารการกินเป็นปกติตามสภาพ ดังนั้นทางการไทยทำได้แต่เพียงแต่รอทางการจังหวัดเกาะสองประสานมาตามช่องทางต่าง ๆที่รวดเร็ว ว่าจะได้รับคำอนุมัติจากกรุงแนปิดอร์เมื่อไหน ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายเมียนมาเสร็จสิ้นจึงจะประสานทางการไทยให้มารับตัวกลับ เพื่อดำเนินขั้นตอนการดูแลเรื่องสุขภาพและขั้นตอนตามกฎหมายไทย
รายงานข่าว ระบุว่า ทาง พล.ร.ต.กนกพล พิมพ์ทอง ผู้บัญชาการฐานทัพเรือพังงา เป็นผู้แทนกองทัพเรือ เดินทางไปยัง จ.ระนอง ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ในการเตรียมรับตัว 4 ประมงไทยกลับมา หลังจากทางทัพเรือภาคที่ 3 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ได้มีการประสานงานกับกองทัพเรือเมียนมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทราบว่าปัจจุบัน เรือ ส.เจริญชัย 8 จอดเรือที่บริเวณท่าเทียบเรือบุเรงนอง (ที่ 2 ) ลูกเรือทั้งหมด จำนวน 31 คน จะถูกปล่อยหลังจากได้ดำเนินการทางการตรวจคนเข้าเมืองของเมียนมาร์ เรียบร้อย และยังคงปลอดภัยดีทุกค
ทว่าล่าสุดยังไม่มีวี่แววว่าจะมีการปล่อยตัวแต่อย่างใด เมื่อประสานไปยังคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่นไทย-เมียนมา(TBC) ทราบว่ากำลังรอคำสั่งปล่อยตัวจากทางส่วนกลางคือรัฐบาลเมียนมา
ก่อนหน้านี้ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยเมื่อเวลา 11.00 น. ว่า จากการรายงานจากส่วนหน้าพื้นที่ จ.ระนอง แจ้งว่า คาดว่าจะเป็นช่วงบ่ายวันนี้ที่จะส่งคนไทยมายัง จ.ระนอง บริเวณท่าเรือประภาคาร ขณะนี้อยู่ระหว่างการทำรายละเอียดของคณะกรรมการส่วนชายแดนท้องถิ่นหรือ TBC ของทั้งสองประเทศอยู่ โดยทราบกำหนดการเบื้องต้นแล้วว่า คณะลูกเรือชาวไทยทั้ง 4 คนจะออกเดินทางจากเกาะสอง เมียนมา ในเวลา 12.30 น. โดยสารทางเรือสปีดโบ๊ท ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึงฝั่งระนอง ที่ท่าเรือประภาคาร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี