เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 รศ.ดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ได้แสดงความคิดเห็นในรายการ เข้มข่าวค่ำ ออกอากาศทาง PPTVHD36 ในประเด็นเศรษฐกิจของรัฐบาล โดยเฉพาะช่วงนี้ที่มีแนวคิดศึกษาการปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ VAT จาก 7% เป็น 10-15% ซึ่งหลายฝ่ายก็มีข้อกังวลโดยเฉพาะประชาชน แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามเรื่องนี้กับนายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้คำตอบกลับมา

โดย รศ.ดร.เจิมศักดิ์ มองในประเด็นนี้ว่า การที่นายกฯไม่ค่อยคำถามเรื่องนโยบายเศรษฐกิจมากนักนั้น เรื่องนี้มองได้ 2 ประเด็น คือ นายกฯมีความรู้เรื่องมาตรการภาษีเป็นอย่างดี แต่ลำบากใจที่จะพูดหรือเปล่า เพราะไม่เห็นด้วยกับนโยบายนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องที่นายทักษิณ ชินวัตร และนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง เป็นคนพูดนโยบายนี้ออกมา แต่หากมองในอีกมุมก็คือ นายกฯ อาจจะไม่มีความมั่นใจเพราะไม่มีความรู้เกี่ยวกับภาษีมากพอ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อ เนื่องจากนายทักษิณและนายพิชัย พูดไปหมดแล้ว

"การที่นายกฯไม่พูดน่าจะเป็นเรื่องจะดีกว่า แม้ว่าล่าสุดนายกฯจะมีการเขียนชี้แจงเรื่องภาษีแวตว่าจะไม่มีการปรับขึ้น 15% ผ่านโซเซียลไปแล้วก็ตาม เพราะฉะนั้นก็เลยไม่พูดดีกว่า ก็วิ่งหนี แล้วมาเขียนใน X ว่าได้ประชุมกับที่ปรึกษาแล้ว เรื่องที่จะขึ้นภาษีนั้น คงไม่ขึ้น เป็นการใช้วิธีสื่อทางเดียว ไม่ให้สื่อซักถาม เพราะกลัวว่าจะตอบไม่ได้  แต่ถ้าถามผม เชื่อว่าเธอไม่มั่นใจในตัวเองมากกว่าที่จะพูด เพราะฉะนั้นก็ใช้วิธีหนีก็แล้วกัน ผมก็เห็นใจไปหมดเลยที่ผู้นำประเทศเป็นอย่างนี้"รศ.ดร.เจิมศักดิ์ กล่าว

เมื่อถามว่า นายกฯควรจะชี้แจงนโยบายนด้านเศรษฐกิจไปในทิศทางไหน รศ.ดร.เจิมศักดิ์ กล่าวว่า นายกฯควรชี้แจงเหตุผลและรายละเอียดการศึกษาแนวคิดการปรับขึ้นเแวต 15%แบบชัดเจนเลยเพื่อให้ประชาชนรับรู้  บอกเหตุผลที่แท้จริงว่า เมื่อขึ้นแวตแล้วจะเอาเงินไปทำอะไร จะเป็นประโยชน์อะไรให้กับประเทศได้บ้าง โดยที่สัญญาว่าจะไม่นำเงินไปแจกให้สูญเปล่าก็เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ

ถามอีกว่า การที่นายกฯเลี่ยงตอบคำถามเรื่องเศรษฐกิจกับสื่อแบบนี้ เป็นการสะท้อนว่านโยบายส่วนใหญ่มาจากนายทักษิณหรือไม่ รศ.ดร.เจิมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็สังเกตได้เพราะนายทักษิณไปพูดเรื่องการปรับขึ้นภาษีแวต รวมถึงเรื่องอื่นๆที่สำนักข่าวแห่งหนึ่ง หลังจากนั้นเรื่องทุกอย่างก็เป็นไปตามที่นายทักษิณพูดไว้ สะท้อนให้เห็นว่านายทักษิณชี้นำนโยบายต่างๆให้รัฐบาลหรือไม่ ทำให้ประชาชนไม่ไว้วางใจ และถือเป็นความลำบากในการบริหารราชการแผ่นดินเพราะไม่ว่ารัฐบาลจะออกนโยบา่ยอะไรออกมาก็จะถูกตั้งข้อสังเกตและไม่ไว้วางใจ ก็จะส่งผลเสียต่อการบริหารประเทศอย่างแน่นอน  

ขอบคุณข้อมูล PPTVHD36