หลังมีคำวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกับการไปจัดรายการช่อง TOP NEWS ของ นายจักรภพ เพ็ญแข อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นการโดดไปร่วมงานกับช่องโทรทัศน์ที่มีความเห็นทางการเมืองต่างขั้วอย่างสิ้นเชิง จนหลายฝ่ายจับตาถึงท่าทีของนายจักรภพ ต่อการทำหน้าที่ในครั้งนี้
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2567 นายจักรภพ ได้จัดรายการ ร่วมกับ นายอุดร แสงอรุณ บรรณาธิการบริหาร สำนักข่าวท็อปนิวส์ เป็นเทปแรก โดยนายจักรภพ ได้วิเคราะห์ 3 สถานการณ์ทางการเมืองต่างประเทศที่กำลังอยู่ในความสนใจของคนทั้งโลก ทั้งเรื่องประธานาธิบดีเกาหลีใต้ นายยุน ซ็อกย็อล ประกาศกฎอัยการศึกท่ามกลางความสงสัยของคนทั้งประเทศและทั่วโลกว่าทำไมต้องทำ ทั้งที่สถานการณ์ไม่ได้เอื้ออำนวย
โดยนายจักรภพ ได้วิเคราะห์เจาะลึกถึงสาเหตุเกิดจากความขัดแย้งกันทางการเมืองภายใน ที่คุกรุ่นมาตั้งแต่ช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา จนนำไปสู่การประกาศอัยการศึก ซึ่งเป็นเรื่องเกินจินตนาการของคน และถือเป็นการประเมินการสถานการณ์ผิดพลาดอย่างมากของนายยุน ซ็อก ย็อล ที่ต้องหมดอนาคตทางการเมืองในที่สุด
นายจักรภพ ยังได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์สหรัฐ หลัง นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และรอพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ วันที่ 20 มกราคม 2568 โดยขณะนี้ทรัมป์ ก็กำลังเลือกทีมทำงานอย่างเข้มข้น ท่ามกลางการถูกจับตาว่า เขาตั้งคณะรัฐมนตรี ในตำแหน่งสำคัญจากเงาสะท้อนของตัวเอง ไม่ได้ตั้งคนที่จะมาช่วยคิดที่จะมาเติมเต็มใดๆ โดยเฉพาะเรื่องการแสดงท่าทีต่อจีน และสงครามยูเครน ซึ่งผู้ที่คาดการณ์ว่าจะได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ คือ นายมาร์โก รูบิโอ ซึ่งเป็นคนที่ต่อต้านจีนอย่างหนัก รวมทั้งประกาศกร้าวก่อนหน้านี้ว่าจะยุติสงครามยูเครนอย่างรวดเร็วด้วย อย่างไรก็ตาม ขึ้นอยู่กับสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐฯ จะเป็นผู้ตัดสินชี้อีกครั้งว่าเหมาะสมหรือไม่
นอกจากนี้ นายจักรภพ ยังได้วิเคราะห์ถึงสถานการณ์ในตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นเรื่องมหาอำนาจของมหาอำนาจงัดข้อกันเอง โดยเฉพาะกรณีกบฏซีเรียบุกเข้ายึดเมืองอเลปโป้ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของรัฐบาลซีเรีย เชื่อมโยงกับการช่วยเหลือของรัสเซีย รวมทั้งสถานการณ์ยูเครน ที่ยังไม่สงบ และจะส่งผลกระทบต่อไทยและต่อโลกอย่างแน่นอน หากทรัมป์ตัดความช่วยเหลือทั้งหมด ขณะที่รัสเซียต้องเข้าไปวุ่นวายทั้งสมรภูมิ ยูเครน และซีเรีย นั่นหมายความว่าจีนซึ่งมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของรัสเซีย จะเป็นผู้อำนาจสูงสุดในการจัดระเบียบโลก
"และในฐานะที่ประเทศไทยอยู่ใกล้กับจีน เรายิ่งต้องระวังในเรื่องของดุลยภาพ แน่นอนว่าเราอยากคบกับจีน เพราะจีนมีศักยภาพ ขณะเดียวกันเราก็ต้องการคบ และต้องการค้าขายกับคนอื่นด้วย ดังนั้น ไทยจะต้องมีขีดความสามารถในการเลือกข้าง โดยไม่ให้ใครมาว่าเราได้ว่าเลือกทางนี้ไม่เอาทางโน้น ดังนั้น เราต้องจับตาการตัดสินใจของประธานาธิบดี ปูติน แห่งรัสเซีย ต่อสถานการณ์ซีเรียและยูเครน ซึ่งแน่นอนว่านโยบายต่างประเทศของเราจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก" นายจักรภพ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดรายการมีผู้เข้าชมเป็นจำนวนมาก และมีการแสดงความคิดเห็นกันอย่างกว้างขวาง ส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางบวก ที่มองว่า นายจักรภพ วิเคราะห์ข่าวได้คม เป็นผู้ที่รู้ลึกรู้จริงด้านต่างประเทศเกินความคาดหมาย และการสื่อสารได้ชัดเจน จะช่วยให้คนไทยได้เข้าใจโลกใบนี้ได้มากขึ้น
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี