'นายกฯ'คอนเฟอเรนซ์ผู้ว่าฯ 12 จว.ใต้ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม อ้างยังไม่ลงเพราะในพื้นที่ยังวุ่นวาย บอกลงแน่ช่วงฟื้นฟู พร้อมติดตามไทม์ไลน์มอบเงินเยียวยาปชช. 

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 9 ธ.ค.2567 ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้เพื่อรับรายงานความเสียหาย และการเตรียมการเยียวยาช่วยเหลือผู้ประสบภัย ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์กับผู้ว่าราชการจังหวัด และรองผู้ว่าฯ ภาคใต้ 12 จังหวัด ประกอบด้วย จ.นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง สตูล ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และพัทลุง โดยมี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายกฯ กล่าวช่วงต้นการประชุมว่า วันนี้ตั้งใจมาติดตามในพื้นที่ภาคใต้ทั้งหมดว่าเป็นอย่างไร และวันนี้ 12 จังหวัดที่จะได้คุยกัน ดีใจมากๆ ที่ได้พบกันผ่านระบบซูม ตอนนี้ถ้าไปในจังหวัดคงจะวุ่นวายกันอยู่ แต่ที่จะไปแน่นอนเรื่องของการฟื้นฟู และยังมีนโยบายที่ลงไป และขอติดตามไทม์ไลน์ที่จะสามารถมอบเงินให้ชาวบ้านได้วันไหนอย่างไร แบ่งอย่างไร ขอติดตามเรื่องนี้ และในฐานะที่นายอนุทิน เป็นประธานคณะกรรมการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (กปภ.ช.) ร่วมกับทางศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัยและดินโคลนถล่ม (ศปช.) ด้วย มีนายภูมิธรรม เป็นที่ปรึกษา คิดว่าการลงไปพื้นที่ต่างๆ อยากให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ทันท่วงที และก่อนหน้านี้ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม ก็ลงไป หากแต่ละจังหวัดมีอะไรขอให้แจ้งมาได้เลย ยินดีพร้อมที่จะดูแลประชาชนทุกท่าน 

นายกฯ กล่าวอีกว่า ได้ฟีดแบ็คจากหลายจังหวัดเยอะมากขึ้น อุ่นใจมากขึ้น น้ำเริ่มลดลงแล้ว สถานการณ์ที่ไหนยังมีน้ำมากอยู่ขอให้แจ้งมา โดยเฉพาะในเรื่องของส่วนกลางต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นถนน น้ำ ว่าที่ไหนติดปัญหาอย่างไรขอให้แจ้งให้ชัดเจน จะได้ส่งความช่วยเหลือได้ถูกต้อง อยากให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตปกติอย่างรวดเร็ว ล่าสุดที่ไปดูที่ จ.เชียงราย เริ่มกลับมาหมดแล้ว เหลือบำรุงความสวยงามให้ต่อเนื่อง ซึ่งจริงๆ ก็พร้อมเที่ยวหมดแล้ว ซึ่งในส่วนของพื้นที่ภาคใต้เรามีบทเรียน มีเคสตัวอย่างจากทางภาคเหนือ ภาคอีสานมา ฉะนั้นจึงสามารถที่จะลงไปช่วยเหลือภาคใต้ได้อย่างรวดเร็ว ถือว่ายังมีข้อดีในสถานการณ์น้ำท่วมอยู่บ้าง