‘ดิเรก’ ขุด 4 ปม

ผ่า ‘MOU44’

เป็นเรื่องน่าเศร้า

พท.ปัดขายชาติ

อดีต สว.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรมเผยความจริง 4 ข้อเรื่องMOU44 ได้พิสูจน์ให้คนไทยเห็นความจริงที่น่าเศร้า ด้าน”ทักษิณ”พร้อมแจงรายละเอียด13 ธ.ค.’เพื่อไทย’ลุกโต้ปัดขายชาติ

เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2567 ดร.ดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม ประธานสถาบันสุจริตไทย และอดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “เรื่อง MOU 2544 ได้พิสูจน์ให้คนไทยเห็นความจริงที่น่าเศร้า”1.ความจริงที่นายกรัฐมนตรีไม่เข้าใจสาระสำคัญ แต่ไปแถลงต่อสาธารณะต่อทั่วโลกยอมรับการเสียดินแดนทางทะเลอย่างภาคภูมิใจ (ยอมรับเส้นอาณาเขตรอบเกาะกูดที่กัมพูชาขีดตามใจชอบ )หรือดีใจที่กัมพูชาขีดเส้นดังกล่าวโดยขีดอ้อม เว้นเกาะกูดไว้ให้เรา 2.ความจริงที่ นรม.มุ่งใช้อำนาจหน้าที่ของตนไปตามคำสั่งของพ่อผู้ครอบครอง หรือตามที่พ่อครอบงำพรรคหรือรัฐบาลผ่านการแสดงวิสัยทัศน์ของพ่อที่NationTV เมื่อ 22 ส.ค.67 (ก่อนนำมาเป็นนโยบายรัฐบาล) 3.ความจริงที่รัฐบาลนี้กำลังนำพาประเทศไปรักษาประโยชน์ให้กัมพูชามากกว่าประเทศของเราเอง ตามที่คนบางคนไปลงนามใน MOU ผูกพันประเทศชาติ โดยไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาไทย 4.ความจริงที่จะพิสูจน์ว่ารัฐบาลบริหารประเทศโดยสุจริต ซื่อสัตย์ต่อชาติและเคารพกฎหมาย หรือไม่ เพื่อให้ใครได้ประโยชน์แต่ประเทศชาติเสียประโยชน์หรือไม่? และการกระทำของ นรม.จะเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมตามที่รธน.กำหนดไว้หรือไม่

นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ที่จ.อุบลราชธานี เมื่อวานนี้ ถึงกรณีนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ประกาศจะลงถนนหากรัฐบาลเดินหน้าเรื่อง MOU 44 ว่า ไม่เป็นอะไร อธิบายกันได้และวันที่ 13 ธ.ค. นี้ ในฐานะที่ MOU 44 เกิดขึ้นในสมัยตน ตนจะได้อธิบายให้ฟัง

ผู้สื่อข่าวถามว่านายสนธิ บอกว่าท่านเป็นต้นตอของปัญหานี้ นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไรและที่จริงพูดกันรู้เรื่อง ต้องรับฟังซึ่งกันและกัน ระบบการเมืองตลอด 9 ปีที่ผ่านมา สื่อเองรวมไปถึงโซเชียลมีเดีย ยอมรับความเป็นรัฐบาลของทหาร พอวันนี้ทหารไปและทุกคนยอมรับว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยก็เลยซัดกันเต็มที่ ก็เป็นเรื่องที่ต้องทำให้ทุกฝ่ายพูดคุยกัน และหาข้อยุติร่วมกัน เมื่อถามว่าคุยกับนายสนธิได้ใช่หรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า คุยทุกคนได้หมด คนไทยถ้าพูดภาษาไทยได้ก็คุยรู้เรื่องได้หมด แต่อย่าเอาเสือมาพูดกับตน เพราะกลัวมันกิน ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า กังวลหรือไม่กับการประกาศลงถนนของนายสนธิ นายทักษิณ กล่าวว่า “การทำอย่างเดิม ก็ไม่จำเป็นต้องเหมือนเดิมนะครับ “

นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ว่า สส.เพื่อไทย สส.มีการพูดคุยกัน เราสนับสนุนการทำงานของรัฐบาลอย่างเต็มที่ในเรื่องเอ็มโอยู44และในทุกรัฐบาลที่ผ่านมามีการใช้เอ็มโอยู44 เป็นกรอบเจรจาพื้นที่อ้างสิทธิ์ไหล่ทวีปทับซ้อน ไทย-กัมพูชา หรือพื้นที่โอซีเอ ซึ่งรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อเดือนธ.ค.2557 ใช้กรอบเอ็มโอยู 44 ในการเดินหน้าเจรจา รวมถึงรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกฯ โดยนายกษิต ภิรมย์ อดีตรมว.ต่างประเทศ ก็ออกมายืนยันชัดเจนว่า เอ็มโอยู 44 ในเนื้อหาไม่มีอะไรเลย และไม่มีเรื่องกระทบสิทธิด้านเขตแดน ส่วนประเด็นที่มีการยื่นหนังสือให้รัฐบาลพิจารณานั้น พรรคเพื่อไทยก็ติดตามอยู่ และเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถตอบข้อห่วงใยของคนที่ยื่นหนังสือได้ทุกประเด็นในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งเราไม่ได้มองกลุ่มพันธมิตรใหม่หรือกลุ่มของนายสนธิว่าเป็นศัตรู แต่เรามองว่าเป็นคนไทยที่มีความห่วงใยเหมือนกันและพร้อมรับฟัง แต่สิ่งหนึ่งที่เรายอมรับไม่ได้ คือ เรื่องการใช้ความเท็จเพื่อขับเคลื่อนกระบวนการที่จะกระทบถึงเสถียรภาพของรัฐบาล และเคยเป็นประสบการณ์ที่เจ็บปวดที่ประเทศเคยเผชิญมาในปี 2551 “ผมเป็นเหยื่อของการใช้ความเท็จ ในการที่จะปลุกเร้ากระแสชาตินิยมหรือกระแสเสียดินแดนกล่าวหาว่า นพดลขายชาติ พอคราวนี้ก็มาเอ็มโอยูขายชาติอีกแล้ว มันเป็นแผนประทุษกรรมเดิมๆ ซึ่งประเทศไทยไม่มีเวลาสำหรับการถูกกล่าวหาเท็จ และประเทศไทยจะเสียผลประโยชน์อย่างยิ่ง” นายนพดล กล่าว