วันอังคาร ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
อดีตสว.ถล่มแผนเปิด‘กาสิโน’  อัดรบ.แสร้งโง่  มอมเมาคนไทย-เงินไหลเข้าใคร

อดีตสว.ถล่มแผนเปิด‘กาสิโน’ อัดรบ.แสร้งโง่ มอมเมาคนไทย-เงินไหลเข้าใคร

วันจันทร์ ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag :
  •  

อดีตสว.ถล่มแผนเปิด‘กาสิโน’

อัดรบ.แสร้งโง่

มอมเมาคนไทย-เงินไหลเข้าใคร

‘สังศิต’จับตาใบอนุญาตแสนล.

แหล่งทุนพรรคการเมืองฝ่ายรบ.

“สังศิต” หวั่นรายได้จากการขายใบอนุญาตกาสิโน 1 แสนล้านบาท ในกองทุนของสถานบันเทิงครบวงจร เปิดช่อง ถูกนำไปใช้ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการเมือง กลายเป็นแหล่งเงินทุนพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล

เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) นักวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมาย ธุรกิจใต้ดิน มาหลายสิบปีตั้งแต่สมัยเป็นผอ.ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ และทำวิจัยเรื่องการเปิดกาสิโนในประเทศไทย โพสต์ข้อความเรื่อง “กาสิโนใต้เงามืด” เนื้อหาระบุว่า สรรพสิ่งทั้งหลายในโลก ทั้งคน พืช สัตว์ สิ่งของและคาสิโน ล้วนแล้วแต่มีด้านที่เป็นประโยชน์ และด้านที่เป็นโทษอยู่ในตัวทั้งสิ้น สุดแต่ว่าสิ่งนั้นจะถูกนำไปใช้เพื่ออะไร เพื่อใคร และสิ่งนั้นจะแสดงบทบาทด้านบวกหรือด้านลบออกมาอย่างไรขึ้นอยู่กับว่าสิ่งนั้นจะถูกนำมาใช้ภายใต้ปัจจัยและเงื่อนไขอะไร คาสิโนเฉกเช่นเดียวกับสรรพสิ่งในโลกนี้ ที่มีทั้งด้านที่เป็นประโยชน์และด้านที่เป็นโทษต่อสังคม ภายใต้สถานการณ์ที่เหมาะสม คาสิโนอาจช่วยเหลือเศรษฐกิจของประเทศได้ ในทางตรงกันข้าม ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่เหมาะสม หากนำมาใช้ มันสามารถทำลายเศรษฐกิจของประเทศให้ล่มจม ได้เช่นเดียวกัน คาสิโนจะเป็นพลังด้านบวกและเป็นประโยชน์ต่อประเทศได้ก็ต่อเมื่อมันอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่ระบบการเมือง และระบบราชการดี รัฐบาลไม่มุ่งหาผลประโยชน์ส่วนตัวจากคาสิโน แต่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศมากกว่า ดังเช่นคาสิโนที่เกิดขึ้นในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ เป็นต้น


แต่ถ้าคาสิโนเกิดขึ้นภายใต้เงื่อนไขของระบบการเมืองและระบบราชการที่ขาดธรรมาภิบาลอย่างร้ายแรง นักการเมือง มุ่งแสวงหาผลประโยชน์จากคาสิโนให้แก่ตัวเองและพวกพ้อง คาสิโนสามารถจะแสดง บทบาทด้านลบออกมาได้เช่นเดียวกัน ดังที่เกิดขึ้นแล้วในประเทศอาเซียนรอบๆ ประเทศไทย

นโยบายการสร้างคาสิโนของรัฐบาลทุกประเทศเท่าที่ผ่านมา รวมทั้งของรัฐบาลไทยในขณะนี้ มีวัตถุประสงค์เหมือนกันหมด คือต้องการเม็ดเงินลงทุนจากธุรกิจภาคเอกชน ไม่ว่าจะมาจากทุนต่างประเทศหรือในประเทศก็ตาม เพื่อให้เศรษฐกิจในประเทศมีการเจริญเติบโตมากขึ้น นี่เป็นตรรกะของเศรษฐกิจตลาดหรือเศรษฐกิจทุนนิยม ที่ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็คิดคล้ายๆ กัน

การทำให้เศรษฐกิจภายในประเทศมีการเจริญเติบโตขึ้นเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ แต่สิ่งที่ผู้นำของรัฐบาลที่มีจิตใจแบบชาตินิยมที่ต้องการเห็นประเทศของตนเองเจริญรุ่งเรืองแบบยั่งยืน จำเป็นต้องตระหนักตั้งแต่เริ่มต้นก็คือ การดำเนินนโยบายทางด้านเศรษฐกิจที่ยึดถือหลักคุณธรรม และการยึดถือผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้งมากยิ่งกว่าผลประโยชน์ของตนเอง หากรัฐบาลยึดถือหลักคุณธรรมทางด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องแสดงให้เห็นถึงความซื่อสัตย์สุจริตในการแสดงออก และการกระทำว่าสิ่งที่รัฐบาลดำเนินการอยู่นั้นเป็นไปอย่างเปิดเผย โปร่งใส เชื่อถือได้ ไม่มีสิ่งใดที่รัฐบาลปิดบังซ่อนเร้นประชาชนไว้

ดังนั้นประการแรก หากรัฐบาลต้องการทำคาสิโนหรือการพนันที่ถูกกฎหมาย รัฐบาลควรออกเป็น “พระราชบัญญัติคาสิโน“ ไม่ใช่”พระราชบัญญัติสถานบันเทิงครบวงจร“ เพราะ การกระทำดังกล่าวของรัฐบาล เป็นการบิดเบือนและซ่อนเร้น ความต้องการที่แท้จริงของรัฐบาลเอาไว้ ถึงแม้รัฐบาลจะกล่าวอ้างว่าพื้นที่ของสถานคาสิโนมีไม่เกิน10%ของพื้นที่ทั้งหมด แต่ความเป็นจริงแล้วคาสิโนเป็นที่มาของรายได้ราว 70% ของรายได้ทั้งหมดของสถานบันเทิงครบวงจร กิจกรรมบันเทิงอื่นๆที่เหลือทั้งหมด ที่ใช้พื้นที่ราว 95% สามารถสร้างรายได้ราว 30%เท่านั้น ประการที่สอง การกำหนดให้มีคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และมีนักการเมืองเป็นกรรมการอีก จำนวนหนึ่งมี “อำนาจ” การออกใบอนุญาต ใบละหนึ่งหมื่นล้านบาท จำนวนอย่างน้อย 10 แห่ง และกฎหมายยังเปิดช่องให้ ออกใบอนุญาตได้มากกว่านั้นอีกในอนาคต การให้อำนาจในการใช้ดุลยพินิจอย่างเลยเถิด โดยขาดหลักธรรมาภิบาลแก่ คณะกรรมการฯในกรณีนี้จะสร้างปัญหาความวุ่นวาย ทางการเมืองให้กับประเทศไทย เป็นอย่างมากในอนาคต หากเราใช้ประสบการณ์ของประเทศสิงคโปร์ จะพบว่า จำนวนคาสิโนถูกกำหนดไว้ในกฎหมาย ซึ่งทำให้ไม่มีบุคคลใดสามารถใช้ดุลยพินิจอนุมัติการสร้างคาสิโนเพิ่มเติมได้อีก

การกำหนดให้เงินรายได้จากการขายใบอนุญาตคาสิโน ซึ่งคาดว่าจะมีอย่างน้อยที่สุด 100,000 ล้านบาท เข้าไปที่กองทุนของสถานบันเทิงครบวงจร อาจทำให้การใช้จ่ายเงินของกองทุนนี้เป็นไปโดยไม่สุจริต และถูกนำไปใช้ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับ การเมือง กลายเป็นแหล่งเงินทุนของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ทำให้ระบบการเมือง และราชการเสื่อมทรามเลวร้ายลงมากกว่าเดิม สิงคโปร์แก้ปัญหาภาพรวมของการพนันโดยการตั้งคณะกรรมการการพนันระดับชาติ ซึ่งทำหน้าที่ดูแลปัญหาภาพรวมของประเทศ แต่คณะกรรมการชุดนี้ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ เกี่ยวข้องเลย ซึ่งแตกต่างจากคณะกรรมการนโยบายสถานบันเทิงวงจรของไทย

ประการที่สาม การกำหนดให้มีสถานบันเทิงครบวงจรถึง 10 แห่งทั่วทุกภาคของประเทศ น่าจะมีจำนวนมากจนเกินไป จนเกินกว่าศักยภาพของหน่วยงานภาครัฐจะบังคับใช้กฎหมายในการตรวจสอบการฟอกเงินจากยาเสพติด การค้ามนุษย์และการคอรัปชั่นในสถานคาสิโนได้ หากภาครัฐไม่สามารถตรวจสอบและควบคุมเงินผิดกฎหมายในคาสิโนทั้ง 10แห่ง ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล คาสิโนจะเป็นตัว ทำลายความน่าเชื่อถือของประเทศอย่างร้ายแรงที่สุด ซึ่งจะส่งผลต่อต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศจนยากที่จะแก้ไขได้

นอกจากนี้ การที่รัฐบาลกำลังจะอนุญาตเปิดให้มีการเล่นการพนันทางออนไลน์ได้อย่างถูกต้องตามกฏหมาย รัฐบาลควรตระหนักถึงเยาวชนของชาติในอนาคตที่จะถูกดึงเข้าสู่ตลาดการพนันได้ง่าย การที่ภาครัฐยังไม่มีการปฏิรูประบบการทำงาน ของหน่วยงานการบังคับใช้กฎหมายในเรื่องนี้ให้มีความโปร่งใสและสุจริต รัฐบาลจะสามารถให้ความมั่นใจแก่สังคมได้อย่างไรว่า จะไม่ให้มีเงินสีเทาหรือเงินสีดำเข้ามาเกี่ยวข้องกับตลาดการพนันออนไลน์

ประเทศจะเจริญได้อย่างมั่นคงในระยะยาว นอกจากรัฐบาลจะต้องคำนึงถึงการสร้างเศรษฐกิจที่เจริญรุ่งเรือง โดยมีหลักศีลธรรมกำกับเอาไว้แล้ว ที่สำคัญ อีกประการหนึ่งคือรัฐบาลต้องคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศเป็นที่ตั้ง ประเทศที่เข้มแข็ง ต้องมีประชาชนที่มีจิตใจที่เจริญเช่นเดียวกัน ดังนั้นรัฐบาลจึงต้องส่งเสริมให้ประชาชนมีศีลธรรม มีการประพฤติปฏิบัติที่ดีงาม มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพการงาน หากรัฐบาลสนใจแต่ส่งเสริมทางด้านเศรษฐกิจให้เจริญรุ่งเรือง โดยไม่ใส่ใจต่อความเจริญรุ่งเรืองทางจิตใจของประชาชนแล้ว ในท้ายที่สุดเศรษฐกิจของไทยจะกลายเป็นเศรษฐกิจของต่างชาติที่คนไทยเป็นเพียงผู้อยู่อาศัยเท่านั้นเอง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เทหน้าตัก!‘ทักษิณ’ส่งสัญญาณคุมเสียงพรรคร่วมฯ การันตีไปรอด ‘รัฐบาลหน้า’จับมือกันอีก เทหน้าตัก!‘ทักษิณ’ส่งสัญญาณคุมเสียงพรรคร่วมฯ การันตีไปรอด ‘รัฐบาลหน้า’จับมือกันอีก
  • ‘อิ๊งค์’มั่นใจเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อได้โอกาสกลับมารับใช้ประชาชนอีกครั้ง ‘อิ๊งค์’มั่นใจเสถียรภาพพรรคร่วมรัฐบาล เชื่อได้โอกาสกลับมารับใช้ประชาชนอีกครั้ง
  • ‘มท.3’ปัดกลั่นแกล้ง‘อธิบดีที่ดิน’ปมตั้งทีมตรวจสอบคำสั่งไม่เพิกถอน‘เขากระโดง’ ‘มท.3’ปัดกลั่นแกล้ง‘อธิบดีที่ดิน’ปมตั้งทีมตรวจสอบคำสั่งไม่เพิกถอน‘เขากระโดง’
  • ‘ทักษิณ’โปรยยาหอมพรรคร่วมรัฐบาล แข็งแรงกว่าครั้งที่แล้วเพราะสามัคคี ‘ทักษิณ’โปรยยาหอมพรรคร่วมรัฐบาล แข็งแรงกว่าครั้งที่แล้วเพราะสามัคคี
  • สถิติฟ้องชัด! \'ผู้พันเบิร์ด\'เปิดปมในใจกัมพูชา แพ้ไทยมาตลอด สถิติฟ้องชัด! 'ผู้พันเบิร์ด'เปิดปมในใจกัมพูชา แพ้ไทยมาตลอด
  • ‘นิพนธ์’รับมีคุยย้ายข้ามขั้ว ‘อนุทิน’ส่งตัวแทนมอบกระเช้าอวยพรวันเกิด ‘นิพนธ์’รับมีคุยย้ายข้ามขั้ว ‘อนุทิน’ส่งตัวแทนมอบกระเช้าอวยพรวันเกิด
  •  

Breaking News

‘ผู้การสระบุรี’นำตำรวจ-ประชาชนจิตอาสา ร่วมบริจาคโลหิตถวายเป็นพระราชกุศล

'ท่าวังผา'เตรียมรับมวลน้ำรอบใหม่ โซนร้อนวิภาเคลื่อนสู่ภาคเหนือ หวั่นซ้ำรอยปี49

เทหน้าตัก!‘ทักษิณ’ส่งสัญญาณคุมเสียงพรรคร่วมฯ การันตีไปรอด ‘รัฐบาลหน้า’จับมือกันอีก

‘สืบภาค 1’ลุยค้น 3 จุด ทลายรังแก๊งขาย SEX TOY ของกลางเพียบ

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved