การเมืองพัทลุง ดุเดือด โค้งสุดท้าย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นเวทีปราศรัยช่วย สาโรจน์ สามารถ ผู้สมัคร นายก อบจ. พัทลุงคู่แข่ง วิสุทธิ์ ธรรมเพชร เจ้าของเก้าอี้เดิม หาเสียง ระบุตนมาแบบไม่มีตำแหน่งทางการเมือง และไม่ใช่พ่อนายก แต่มาเพื่อพูดคุยกับคนพัทลุงมาเสนอทางเลือกให้กับประชาชนอย่างจริงใจ ส่วนประชาชนจะเลือกใครอยู่ที่ประชาชนตัดสินใจ

เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 มกราคม 2568 ที่สนามโรงเรียนพัทลุง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขึ้นเวทีช่วยนายสาโรจน์ สามารถ ผู้สมัครนายก อบจ พัทลุง หาเสียง โดยระบุว่าสาเหตุที่มาช่วยเพราะเคยทำงานการเมืองร่วมกันมา 20 ปี ทำให้การเมืองท้องถิ่น ของจังหวัดพัทลุง เข้มข้นและมีสีสรรค์ขึ้นบนเวทีมีการสลับสับเปลี่ยนกันปราศรัยของบรรดาแกนนำ และ ผู้สมัคร สอบจ.เขตต่าง ๆ ของจังหวัดพัทลุง ท่ามกลางประชาชนที่ไปร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 7,000 คน

นายอภิสิทธิ์ ฯ กล่าวบนเวทีว่า การมาช่วยนายสาโรจน์ ฯ หาเสียง ของตนไม่ได้ใหญ่โต อะไร เพราะวันนี้ตนคือนายอภิสัทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่มีตำแหน่งทางการเมือง ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่ได้ให้คุณให้โทษกับใคร พ่อนายก ตนก็ไม่ได้เป็น ตนมาคุยกับ พี่น้องประชาชนแต่คนตัดสินใจว่าจะเลือกใคร อยู่ตัวของประชาชนเองตนมาพูดในสิ่งที่ตัวเองรู้ และเคารพการตัดสินใจของประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง

นายอภิสิทธิ์ ฯ บอกด้วยว่าการ ตนมาในวันนี้ ไม่ได้พกความแค้นใครมา เพราะตนไม่มีความแค้นกับใคร และไม่มีอคติใด ๆ กับใครทั้งสิ้น แม้แต่คำว่าบ้านใหญ่ตนจะไม่พูดเรื่องนี้เพราะถือว่าเป็นสิทธิ์ เขาจะมีตระกูลเดียวกัน มีลูกมีหลานทำงานการเมืองทั้งหมด ไม่ใช่เรื่องผิด เพียงแต่ว่า ประชาชนก็มีสิทธิ์เลือก ถ้าเขาทำดี พี่น้องประชาชน มั่นใจ มากกว่าทีมที่ตนมาหาเสียงให้ จะบ้านใหญ่ บ้านเล็ก ประชาชนก็เลือก แต่หากมีอีกทีมมาเสนอตัวกับประชาชน ชวนประชาชนให้มาดูทางเลือกที่ดีกว่า ชวนมาทำการเมืองในแบบใหม่ หากประชาชนเห็นดีด้วยก็เป็นสิทธิ์ของประชาชน

การเลือกตั้งท้องถิ่นในวันนี้ มีคนที่พาดพิงตน พูดเสมือนว่าตนเปลี่ยนแปลงแปรพรรค หรือว่าอะไร ที่จริงตนไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค ตั้งแต่ตนออกมาจากพรรคประชาธิปัตย์ ใครมาชวนตนตั้งพรรค ใครมาชวนย้ายพรรค ตนปฏิเสธ เพราะตนบอกว่า ตนยึดถืออุดมการณ์ประชาธิปัตย์หากวันหนึ่งตนเห็นว่า ประชาธิปัตย์ทำการเมือง ตามอุดมการณ์ที่ตนเชื่อ ตนก็กลับไปอยู่ประชาธิปัตย์ แต่ถ้าแนวคิดไม่ตรงกันไม่อยากขัดแย้งกับใคร ตนก็นอนอยู่บ้าน

ย้ำการเมืองท้องถิ่นไม่ได้มีพรรค เพราะฉะนั้นไม่ต้องมาสงสัยมาการมาของตน วันนี้ตนมาแล้วจะไปสนับสนุนหรือไปเป็นเครื่องมือของพรรคการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น ที่ตนมา เพราะ ความเป็นพี่ ความเป็นนาย เพราะนายสาโรจน์ ฯ เป็นคนทำงานให้ตนตลอดเวลาแม้วันนี้ตนไม่มีตำแหน่งอะไร นายสาโรจน์ ฯ ก็ยังทำให้ตนเหมือนเดิมแต่ช่วงเวลาที่ผ่านมาที่ทำงานด้วยกัน สิ่งหนึ่งที่ตนรู้ตลอด คือ วันหนึ่งเขาจะกลับมางานเพื่อจังหวัดพัทลุง แต่เขาไม่ได้รับโอกาสในวันนั้น และวันนี้ เขามีโอกาส ทำการเมืองในบ้านเกิดหากตนไม่มาขึ้นเวทีให้ จะยังเหลือความเป็นมนุษย์อยู่ไหม

หากวันนี้ นายสาโรจน์ แข่งกับพรรคประชาธิปัตย์ ตนจะไม่มา แต่เท่าที่ดูวันนี้ คนที่แข่งกับสาโรจน์ ไม่ได้สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ แต่เป็นถึงรอง หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่การเมือง ท้องถิ่นวันนี้ เขาไม่ได้มาเรื่องพรรค แต่มาเรื่องการเปลี่ยนแปลงพัทลุง ประชาชนอย่างเปลี่ยน ก็เลือก หากไม่อยากเปลี่ยนแปลงก็เลือกคนเก่าเท่านั้นเอง พรรคอะไรก็ไม่ต้องเดือดร้อน เอาไว้ต่อสู้กัน ในสนามเลือกตั้งใหญ่

อย่างไรก็ดีสำหรับเย็นวันนี้นายวิสุทธิ์ ธรรมเพชร ผู้สมัคร นายก อบจ จะมีการนำทีมผู้บริหารและผู้สมัคร ส.อบจ มาเปิดเวทีปราศรัย์ ใหญ่ในโค้งสุดท้าย ณ จุดเดียวกัน ก่อนจะมีการเลือกตั้งในวันเสาร์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ ที่จะถึงนี้.