เลือกตั้ง อบจ. “เพื่อไทย” พ่ายแล้ว 6 จังหวัด “ทักษิณ” สิ้นมนต์ขลังในถิ่นน้ำเงิน"ศรีสะเกษ-บึงกาฬ-อำนาจเจริญ" ส่วน “พรรคส้ม” ซดแห้วเหลือลุ้นแค่ 2 จังหวัด หลายพื้นที่บ้านใหญ่ยังหนังเหนียว

เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ปิดหีบนับคะแนนเลือกตั้งนายก และสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) การเมืองสนามเล็กที่ยึดโยงเป็นฐานให้กับพรรคการเมืองกันไปแล้ว ซึ่งปีนี้มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด อาทิ สงขลา ศรีสะเกษ จังหวัดนครปฐม ระยอง นครพนม เชียงราย เชียงใหม่ สมุทรปราการ ปราจีนบุรี นครนายก  มหาสารคาม นครราชสีมา สมุทรสาคร หนองคาย ภูเก็ต  ฯลฯ มีผู้ช่วยหาเสียงเป็นระดับบิ๊กๆ ขึ้นชื่อทั้งที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีที่ เพิ่งกลับเข้าประเทศพ้นโทษออกมา ยังไม่ทันได้เลี้ยงหลานก็เดินสายหาเสียงเหนือ ใต้ไม่ว่างเว้น หรือผู้สมัครจากพรรคภูมิใจไทย ของ"เสี่ยหนู"นายอนุทิน ชาญวีระกูล  แถมยังมี“พรรคประชาชน” ก็ส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้ทุกพื้นที่เช่นกัน  โดยมีอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า และนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค

สำหรับการเลือกตั้งวันนี้  มี 47 จังหวัดที่จะต้องเลือกทั้งนายก อบจ. และเลือก ส.อบจ. และอีก 29 จังหวัดที่เลือกเฉพาะนายกอบจ. ที่น่าจับตามีหลายพื้นที่ ซึ่งต้องรอทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ประกาศรับรองผลอย่างเป็นทางการ โดยกรณีพื้นที่ที่จัดการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม จะประกาศรับรองผลภายใน 30 วัน ส่วนจังหวัดที่อาจจะต้องมีการตรวจสอบเพิ่มเติมว่าการเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรมหรือไม่ ก็จะใช้เวลาตรวจสอบและประกาศผลภายใน 60 วัน

แต่ ณ เวลา 21.00 น. ผลการเลือกนายกอบจ.บางส่วน ที่มีผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการค่อนข้างนิ่งแล้ว มีดังนี้

1.จังหวัดสงขลา ปรากฎว่า นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ประชาธิปัตย์ มีคะแนนนำ 203,520 คะแนน ตามมาด้วยนายประสงค์ บริรักษ์ ภูมิใจไทย ได้ 94,568 คะแนน และนายนิรันดร์ จินดานาค พรรคประชาชน 67,092  คะแนน

2.จังหวัดศรีสะเกษ นายวิชิต ไตรสรณกุล ภูมิใจไทย นำเป็นอันดับหนึ่งได้ 265,786 คะแนน อันดับสอง นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ พรรคเพื่อไทย ได้ 174,504 คะแนน และอันดับ 3 คือนางรัตน์ดาวัลย์ พรหมทา ได้ 8,934 คะแนน

3.จังหวัดเชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร พรรคเพื่อไทย ได้ 231,087 คะแนน ตามด้วยนายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ พรรคประชาชนได้ 217,684 คะแนน และพล.ต.พนม ศรีเผือด 16,751 คะแนน

4.จังหวัดระยอง อันดับหนึ่งคือนายปิยะ ปิตุเตชะ พรรคประชาธิปัตย์ ได้ 132,856 คะแนน อันดับ 2 คือ นายทรงธรรม สุขสว่าง พรรคประชาชนได้ 79,077 คะแนน และนายสุวิท เหล่าฤทธิไกร อดีตนักการเมืองท้องถิ่น ได้ 24,098 คะแนน

5.จังหวัดนครพนม อันดับหนึ่งนายอนุชิต หงษาดี พรรคเพื่อไทย 141,621 คะแนน ได้น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ แชมป์เก่า ได้ 118,352 คะแนน
 
6.จังหวัดสุราษฎร์ธานี นางโสภา กาญจน ด้วยคะแนน 120,646 คะแนน อันดับ2 นายพงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตนายกอบจ.ได้ 81,601 คะแนน และนพ.จิรชาติ เรืองวัชรินทร์ จากพรรคประชาชน ได้ 63,547 คะแนน
 
7.จังหวัดเชียงราย อันดับหนึ่งคือ นาง อทิตาธร วันไชยธนวงศ์ ผู้สมัครอิสระ แต่มีเครือญาติกับบุคคลในพรรคภูมิใจไทย ได้ 210,590 คะแนน ส่วนเพื่อไทยคือนางสลักจฤฎดิ์ ติยะไพรัช จากพรรคเพื่อไทย 198,720 คะแนน
 
8.จังหวัดปราจีนบุรี อันดับ 1  คือน.ส.ณภาภัช อัญชสาณิชมน จากพรรคเพื่อไทยได้ 93,750 คะแนน ตามด้วยนายจำรูญ สวยดี พรรคประชาชน ได้ 42,995 คะแนน และนายอำไพ กองมณี ได้ 24,671 คะแนน
 
9.จังหวัดจันทบุรี อันดับหนึ่งนายธนภณ กิจการ แชมป์เก่า ได้ 111,739 คะแนน นายมานะ ชนะสิทธิ์ พรรคประชาชนได้ 63,568 คะแนน

10.จังหวัดนครราชสีมา อันดับหนึ่งคือ นางยลดา หวังศุภกิจโกศล ได้ 184,391  คะแนน นายมารุต ชุ่มขุนทด 60,076 คะแนน
 
11.จังหวัดบึงกาฬ นางแว่นฟ้า ทองศร อดีตนายกอบจ.ได้ 79,957 คะแนน รองลงมาคือว่าที่ร.ต.ภูมิพันธ์ บุญมาตุ่น จากพรรคเพื่อไทน 57,677 คะแนน 
 
12.จังหวัดหนองคาย อันดับหนึ่งนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก จากพรรคเพื่อไทย ได้ 54,776 คะแนน ตามมาด้วยนายยุทธนา ศรีตะบุตร จากกลุ่มรักหนองคาย ได้ 52,032 คะแนน และนายณรงค์ไชย หล้าวงษา จากพรรคประชาชนได้ 7,394  คะแนน 
 
13.จังหวัดภูเก็ต อันดับหนึ่งคือ นายเรวัต อารีรอบ ได้ 80,674  คะแนน อันดับ 2 คือ นายเลอศักดิ์ ลีนะนิธิกุล จากพรรคประชาชน ได้ 42,097 คะแนน
 
14.จังหวัดน่าน อันดับหนึ่งคือนพรัตน์ ถาวงศ์ พรรคเพื่อไทย 103,583 คะแนนนายสันติภาพ อินทรพัฒน์ 31,144 คะแนน

15.จังหวัดแพร่ นายอนุวัธ วงศ์วรรณ พรรคเพื่อไทยได้ 64,633 คะแนน นายประสงค์ ชุ่มเชย ได้ 40,545 คะแนน
 
16.จังหวัดมหาสารคาม อันดับ 1 นายพลพัฒน์ จรัสเสถียร พรรคเพื่อไทย ได้ 264,211 คะแนน นางคมคาย อุดรพิมพ์ อดีตนายกอบจ.2 สมัย ได้ 92,273 คะแนน

17.จังหวัดมุกดาหาร บ้านใหญ่ นายวีระพงษ์ ทองผา ได้ 50,993 คะแนน ส่วนนายบุญฐิน ประทุมลี จากเพื่อไทยได้ 28,592 คะแนน
 
18.จังหวัดลำปาง นางตวงรัตน์ โล่สุนทร เพื่อไทย ได้ 111,032  คะแนน ส่วนนายดาชัย เอกปฐพี ได้ 58,922 คะแนน

19.จังหวัดสกลนคร นางนฤมล สัพโส จากเพื่อไทย ได้ 97,856 คะแนน ตามด้วยนายชูพงษ์ คำจวง อดีตนายกอบจ. 42,857 คะแนน และนางอนุรักษ์ บุญศล ผู้สมัครนามอิสระ ได้ 40,644 คะแนน

20.จังหวัดอำนาจเจริญ นายพนัส พันธุ์วรรณ จากภูมิใจไทย ได้ 79,916 คะแนน นายดะนัย มะหิพันธ์ เพื่อไทยได้ 43,031คะแนน และนายไมตรี แก้วมงคล พรรคประชาชน ได้ 26,215 คะแนน 
 
21.จังหวัดสมุทรปราการ นายสุนทร ปานแสงทอง บ้านใหญ่อัศวเหม ได้ 95,546  คะแนน ตามมาด้วยนายนพดล สมยานนทนากุล จากพรรคประชาชน 81,849 คะแนน และอันดับ 3 คือ นายประเสริฐ ชัยกิจเด่นนภาลัย 28,820  คะแนน

22.จังหวัดนครปฐม อันดับหนึ่งนายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ จากกลุ่มชาวบ้าน ได้ 137,251 คะแนน นายสมพร ภพักตร์จันทร์ จากกลุ่มอิสระ ได้ 76,035 คะแนน

23.จังหวัดยะลา อันดับหนึ่ง คือนายมุขตาร์ มะทา 82,417 คะแนน อันดับ 2 นายอับดุลราเตะ ยากัด ได้ 20,590  คะแนน
 
24.จังหวัดปัตตานี อันดับ 1 นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี 140,756  นายอับดุลบาซิม อาบู ได้ 35,920 คะแนน และนายชารีฟุดดีน สารีมิง ได้ 20,031 คะแนน   
 
25.จังหวัดนราธิวาส อันดับหนึ่งนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน จากบ้านใหญ่นราธิวาส ได้ 77,316 คะแนนนายอับดุลลักษณ์ สะอิ ผู้สมัครอิสระ 76,085 คะแนน
 
26.จังหวัดลำพูน นายวีระเดช ภู่พิสิฐ พรรคประชาชน 99,388 คะแนนนายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ จากเพื่อไทย และอดีตนายกอบจ.ได้ 93,359 คะแนน  
 
27.จังหวัดนครนายก นางนิดา ขนายงาม ผู้สมัครอิสระ ได้ 25,055 คะแนน และนายจักรพันธ์ จินตนาภากานนท์ จากพรรคประชาชน ได้ 32,043 คะแนน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทย ซึ่งได้ส่งผู้สมัครในนามพรรครวม 16 จังหวัด มีรายงานผลอย่างไม่เป็นทางการ ซึ่งได้คะแนนนำเป็นอันดับ 1 แล้ว 10 จังหวัด ขณะที่พรรคประชาชนซึ่งส่งผู้สมัครรวม 17 จังหวัด ผลการนับคะแนนตามหลังเกือบทุกจังหวัด ล่าสุดมีคะแนนนำใน 2 จังหวัดคือ นครนายก และลำพูน ขณะที่พื้นที่แข่งขันสูงของบ้านใหญ่ยังคงรักษาแชมป์ไว้ได้ เช่น นครปฐม ชลบุรี ศรีสะเกษ ระยอง ภูเก็ต สมุทรสาคร รวมถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็เป็นแชมป์เก่าที่ยังมีคะแนนนำเป็นอันดับหนึ่ง