"ภูมิธรรม"เผย"ผบ.ทบ."รายงานสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยันแค่เตรียมพร้อมซ้อมรบตามวงรอบ มิได้ขยับเขยื้อนอะไร วอนอย่าแชร์คลิปบิดเบือน สร้างความเกลียดชังคน 2 ประเทศ หวั่นบานปลายไปสู่การสู้รบ ไม่ส่งผลดี

เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์กรณีความไม่เรียบร้อยระหว่างประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ขณะนี้ ว่า ตนบอกว่าเรื่องนี้ยังไม่มีอะไร และ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่ให้ตน และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบ ซึ่งทาง ผบ.ทบ.ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการขยับขับเคลื่อนอะไร เป็นเพียงการเตรียมการสำหรับการปกป้องอธิปไตยของตัวเอง ซึ่งถือเป็นการปฎิบัติตามปกติ ซึ่งก็มีการฝึกซ้อมรบ ซึ่งอยู่ในห้วงของกรอบเวลา พร้อมยืนยันว่า พื้นที่ตามแนวชายแดนของทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกัน ขณะที่ในระดับนโยบายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ก็ได้งดกิจกรรมในพื้นที่ที่มีปัญหาอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายจนลามไปสู่ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันและเห็นพ้องว่าไม่อยากให้มีอะไรที่รุนแรง ยืนยันว่าเราปกป้องอธิปไตยของประเทศ แต่มีจุดยืนที่จะไม่สร้างปัญหา และที่ผ่านมาเราก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด เพียงแต่บางครั้งมีสถานการณ์ตนก็อยากขอร้องทุกคน เพราะกองทัพเขาก็รักชาติไม่น้อย แต่เราไม่อยากให้นำไปสู่การสู้รบอะไร คุยได้ก็คุยกัน ไม่อยากให้มีการแสดงออกที่อาจทำให้เกิดปัญหา อย่างเช่นการออกไปทำกิจกรรมต่างๆ และทั้งฝั่งของกัมพูชาและฝั่งไทย รวมถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง ประกาศที่จะไปทำกิจกรรมบนประสาทปราสาทตาเมือนธม ตนยืนยันว่า เราห้ามไม่ให้ไปทำกิจกรรม มิเช่นนั้นหากปล่อยขึ้นไปไทยก็จะเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงเสียเอง"

เมื่อถามว่า มีขบวนการในการปล่อยคลิปบิดเบือนเพื่อปั่นกระแสความเกลียดชังของคนทั้งสองประเทศทั้งฝ่ายไทยและฝั่งกัมพูชาหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนอยากให้สื่อได้ช่วยกัน อย่าเผยแพร่หรือแชร์คลิปที่บิดเบือน เพื่อให้สังคมได้มีสติ เพราะในปัจจุบันไทยและกัมพูชาก็มีความสัมพันธ์ที่เป็นปกติ อะไรที่ก่อให้เกิดปัญหาและกระทบความสัมพันธ์ อยากให้ทั้งสองประเทศช่วยกันไปดู เงื่อนไขที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง เพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลายไปมากกว่านี้ ในส่วนของตนไม่อยากจะตอบประเด็นนี้ แต่หากไม่ตอบก็จะถูกกล่าวหาว่าไม่สนใจ ซึ่งยืนยันว่าเราใส่ใจปัญหานี้มาตั้งแต่ต้น ในขณะที่กองทัพก็เข้าใจสถานการณ์ดีทุกอย่าง เพียงแต่เราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง เพราะมิได้สร้างประโยชน์ให้กับฝ่ายใด แล้วจะยิ่งทำให้ประเทศชาติมีปัญหา เรื่องไหนที่ยังไม่ชัดเจนก็อย่าหยิบพูดขึ้นมาให้เป็นประเด็น แต่จะกลายเป็นปัจจัยปะทุความขัดแย้ง มีอะไรก็ขอมาสอบถามกัน

ทั้งนี้ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ประเทศก็ดี หรือกระบวนการยุติธรรม ไม่อยากให้มีการลงรายละเอียด แต่หากพูดคุยกันในกรอบกว้างๆ ก็สามารถพูดคุยกันได้

- 006