‘สวนดุสิตโพล’ชี้คนไทยไม่เชื่อมั่นรัฐจัดการภัยพิบัติ ‘แจ้งเตือน’ล่าช้า แนะยกเป็นวาระแห่งชาติ

‘สวนดุสิตโพล’ชี้คนไทยไม่เชื่อมั่นรัฐจัดการภัยพิบัติ ‘แจ้งเตือน’ล่าช้า แนะยกเป็นวาระแห่งชาติ

วันอาทิตย์ ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2568, 10.35 น.

‘สวนดุสิตโพล’ชี้คนไทยไม่เชื่อมั่นรัฐจัดการภัยพิบัติ ‘แจ้งเตือน’ล่าช้า แนะยกเป็นวาระแห่งชาติ

6 เมษายน 2568 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “คนไทยกับเหตุการณ์แผ่นดินไหว” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,239 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 1-4 เมษายน 2568 สรุปผลได้ ดังนี้


1. ประชาชนติดตามข่าวเหตุการณ์แผ่นดินไหวจากช่องทางใด

อันดับ 1 โซเชียลมีเดีย เช่น เฟซบุ๊ก เอ๊กซ์ ติ๊กต็อก ยูทูป ไลน์ 89.11%

อันดับ 2 โทรทัศน์ 61.87%

อันดับ 3 เพื่อน ครอบครัว 43.54%

2. ประชาชนมีความกังวลต่อภัยพิบัติประเภทใดมากที่สุด

อันดับ 1 แผ่นดินไหว 84.91%

อันดับ 2 น้ำท่วม 55.85%

อันดับ 3 ฝุ่น PM 2.5 49.80%

3. จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ประชาชนมีความกังวลต่อความปลอดภัยและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต มากน้อยเพียงใด

อันดับ 1 ค่อนข้างกังวล 48.83%

อันดับ 2 กังวลมาก 41.40%

อันดับ 3 ไม่ค่อยกังวล 8.47%

อันดับ 4 ไม่กังวลเลย 1.30%

4. เหตุการณ์แผ่นดินไหวทำให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมอย่างไรบ้าง

อันดับ 1 ติดตามข่าวสารต่างๆมากขึ้น 79.43%

อันดับ 2 เพิ่มความระมัดระวังในการใช้ชีวิตประจำวัน 76.26%

อันดับ 3 วางแผนการรับมือหรือเตรียมอุปกรณ์จำเป็นหากเกิดเหตุฉุกเฉิน 52.36%

5. ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการรับมือกับภัยพิบัติในอนาคต

อันดับ 1 มีระบบติดตาม แจ้งเตือนภัยพิบัติที่รวดเร็ว แม่นยำ 72.18%

อันดับ 2 ยกระดับเรื่องภัยพิบัติเป็นวาระแห่งชาติ 45.10%

อันดับ 3 จัดตั้งหน่วยงานช่วยเหลือป้องกันภัยเฉพาะกิจ มีงบประมาณสนับสนุนเพียงพ  อ 40.45%

อันดับ 4 ให้ความรู้แก่ประชาชนในการรับมือ เอาตัวรอด 28.82%

อันดับ 5 ควรตรวจสอบความปลอดภัยและโครงสร้างของอาคารทุกประเภทอย่างเข้มงวด 21.01%

อื่นๆ เพิ่มค่าตอบแทนให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านภัยพิบัติ  สร้างขวัญกำลังใจ ฯลฯ 6.73%

นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลโพลสะท้อนให้เห็นว่าสังคมไทยตื่นตัวกับภัยธรรมชาติที่ไม่อาจคาดเดาได้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนก็รู้สึกว่า “ข้อมูลจากรัฐ” นั้นล่าช้า สังคมออนไลน์ก็เต็มไปด้วยข่าวปลอมที่แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จึงเรียกร้องให้รัฐบาลจัดลำดับความสำคัญให้กับเรื่องนี้ เร่งพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยที่ “แม่นยำ ฉับไว ไว้ใจได้ และเข้าถึงทุกคน” เพื่อไม่ให้เกิดการถอดบทเรียนซ้ำ ๆ แต่ไม่ได้นำมาปฏิบัติจริง

ด้านอาจารย์มณฑล สุวรรณประภา อาจารย์ประจำหลักสูตรอนามัยสิ่งแวดล้อมและสาธารณภัย คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลการสำรวจสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในการรับรู้ด้านภัยพิบัติของคนไทย โดยเฉพาะแผ่นดินไหวซึ่งไม่เคยเป็นปัญหาหลักของประเทศไทยจนกลายเป็นความกังวลอันดับหนึ่ง ขณะที่พฤติกรรมการรับข้อมูลข่าวสารผ่านโซเชียลมีเดียชี้ให้เห็นว่าภาครัฐยังขาดช่องทางการสื่อสารด้านภัยพิบัติที่น่าเชื่อถือ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ภาครัฐต้องปรับกลยุทธ์การสื่อสารผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นความท้าทายสำคัญที่ภาครัฐต้องสนับสนุนและผลักดันให้ภัยพิบัตินี้เป็นวาระแห่งชาติ โดยบูรณาการการทำงาน ทั้งในระดับนโยบายและปฏิบัติ ตั้งแต่การพัฒนาระบบฐานข้อมูลที่เชื่อมโยงกัน การจัดสรรงบประมาณที่เพียงพอ การสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ทนต่อภัยพิบัติ ไปจนถึงการเสริมสร้างศักยภาพชุมชนในการรับมือภัยด้วยตนเอง เพื่อลดความเปราะบางและเพิ่มความยืดหยุ่นของสังคมไทยต่อภัยพิบัติที่มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นในอนาคต

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top