เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 8 เมษายน 2568 ที่ทำการพรรคเพื่อไทย (พท.) ถนนวิภาวดีรังสิต กทม.ได้มีประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 โดยมีกรรมการบริหารพรรค สมาชิกพรรค รวมถึงสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (สก.) พรรคเพื่อไทย เดินทางมาร่วมประชุมอย่างคึกคัก อาทิ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี , นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะประธาน สส.พรรค ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล , นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองหัวหน้าพรรค และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรค , นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง และจะมี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่พรรคเพื่อไทยด้วย โดยหลังประชุมฯ จะเปิดโอกาสให้ สส.พรรคได้รดน้ำดำหัวให้นายทักษิณ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์ด้วย

โดย นายจุลพันธ์ กล่าวก่อนเข้าประชุม ว่า ในการประชุมนภาฯ วันที่ 9 เม.ย.นี้ มีสถานการณ์เฉพาะหน้าทั้งเรื่องที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศขึ้นภาษี และเรื่องแผ่นดินไหว ซึ่งรัฐบาลมีภาระกิจที่ต้องทำพอสมควรในเรื่องการเยียวยา เพราะฉะนั้นจึงต้องเรียงลำดับความสำคัญ ดังนั้น เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงมีข้อสรุปว่าคงต้องพูดคุยกันในแต่ละพรรค เพราะเป็นสิทธิ์ของสมาชิกในการที่จะพิจารณา จึงมีการปรับเปลี่ยน โดยในการประชุมสภาฯ วันพุธที่ 9 เม.ย.นี้ จะเป็นการหารือเรื่องภาษีทรัมป์ก่อน และวันที่ 9 เม.ย.นี้ เป็นวันสุดท้ายของการพิจารณากฎหมาย เพราะฉะนั้น เรื่องเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จึงเข้าไม่ทันสมัยประชุมนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร พรรครวมทุกพรรคเพื่อยืนยันตรงกันว่าทุกพรรคให้การสนับสนุนอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นการดีอย่างหนึ่ง โดยท่านนายกฯ ได้มอบหมายให้รัฐมนตรีทุกคนช่วยกันว่าระยะเวลาจากนี้จนเปิดสมัยประชุมหน้า คงมีเวลาไปทำความเข้าใจชี้แจงกับประชาชน ถึงในประเด็นที่ยังความสับสน เพราะมีกลุ่มหนึ่งที่มองว่าเป็นเรื่องของการพนัน หรือ กาสิโน อย่างเดียว ซึ่งมันไม่ใช่ แต่เป็นเรื่องของเม็ดเงินที่จะมาลงทุนขนาดใหญ่ที่จะเข้ามาพัฒนาประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตรงนี้จะมีทำประชามติอีกหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เป็นขั้นตอนที่เราดำเนินการลำบาก เพราะเป็นขั้นตอนกฎหมาย ซึ่งกฎหมายนี้เรามีทั้งการทำประชาพิจารณ์มา 4 รอบ แล้วก็ยอมรับ ไม่ใช่ไม่เคยทำอะไรเลย เฉลี่ย 80% ที่เห็นชอบ เพราะฉะนั้นก็จะมาแล้วหรอ ให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมายดีกว่า ส่วนใครจะไปดำเนินการในเรื่องให้มีช่องทางอื่น ช่องทางกฎหมายก็มีอยู่แล้วก็ให้ดำเนินการตามนั้น ไม่ใช่เป็นการพับกฎหมาย เพราะอยู่ในระเบียบวาระ เปิดสมัยประชุมใหม่คงจะมาถกกัน หวังว่าในตอนนั้นการทำความเข้าใจจะอยู่ในระดับที่สูงกว่านี้

หลังสมัยประชุมนี้ก็จะให้ทุกภาคส่วนไปทำความเข้าใจกับประชาชนในเรื่องนี้ เป็นการชี้แจงความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็น เป็นการรับฟังความคิดเห็นสองทางแล้ว และรัฐบาลก็ชี้แจงกับประชาชนผู้ที่ยังมีข้อสงสัย ขณะเดียวกันเราก็รับฟังประเด็นที่เขายังมีความห่วงใย ส่วนการแก้ถึงเวลาเข้าสู่การพิจารณาในสภาฯ ตรงนั้นก็ไปแก้แล้วว่ากัน สามารถแก้ไขได้อยู่แล้ว

ถามว่า สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขู่คัดค้านและจะนำเรื่องฟ้อง ป.ป.ช.ด้วย นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ยังไม่มีประเด็นเรื่อง ป.ป.ช.หรือประเด็นเรื่องใด เพราะเป็นขั้นตอนของสภาที่มีอำนาจออกกฎหมาย แต่อย่างไรก็ตาม ข้อห่วงใยของ สว.หากมีโอกาสก็ต้องไปคุยกัน

- 006