‘นายกฯ’คุย‘อันวาร์’ แก้ความไม่สงบ จชต. เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า

‘นายกฯ’คุย‘อันวาร์’ แก้ความไม่สงบ จชต. เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า

วันพฤหัสบดี ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2568, 16.30 น.

"นายกฯ"คุย"อันวาร์" แก้ความไม่สงบ จชต. เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า พร้อมสนับสนุนทีมพูดคุยสันติสุขมากขึ้น

เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการหารือทวิภาคีกับ ดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทยเพื่อการเจรจาทำงาน (Working Visit) ว่า เรื่องความสงบในพื้นที่ภาคใต้ได้มีการขอความร่วมมือมาเลเซีย ซึ่งเราไปเน้นเรื่องเศรษฐกิจเป็นส่วนใหญ่ในเรื่องของฮาลาล โครงการนิคมอุตสาหกรรมยางพารา (Rubber City) ซึ่งเป็นสิ่งที่ได้คุยกันและมีความคิดเห็นว่าเราจะเปลี่ยนจากสนามรบมาเป็นสนามการค้า เพื่อให้มีการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน มีความร่วมมือซึ่งกันและกัน


เมื่อถามถึงความคืบหน้าการพูดคุยคณะกรรมการสันติสุขชุดใหม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันในรายละเอียดในเรื่องของทีมงานจะให้สนับสนุนกันมากขึ้นได้อย่างไรบ้าง ซึ่งตรงนี้จะเป็นเรื่องของรายละเอียดต่อไป ส่วนเรื่องการพูดคุยในระดับรัฐมนตรี ระดับนายกรัฐมนตรี ลงไปในทีมทำงานขอให้ราบรื่นและมีความต่อเนื่อง เพราะบางครั้งถ้าเราไม่ได้คุยกันในทุกระดับก็จะมีความท้าทายในการทำงาน ซึ่งเรื่องนี้ได้บอกไปแล้วว่าจะให้ทุกระดับพูดคุยกันให้ชัดเจน เมื่อถามว่า ยังให้มาเลเซียเป็นผู้อำนวยการในการพูดคุยเหมือนเดิมใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ใช่ค่ะ

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top