‘วิโรจน์’ แฉ ‘กรมสรรพกร’ ยังไม่ตั้งคณะกรรมการวินิจฉัย ‘ภาษีอากร’ ปม ‘ตั๋วPN นายกฯ’ เหตุองค์คณะไม่ครบ ยังขาด ‘ผู้ทรงคุณวุฒิ’ เตรียมร่อนหนังสือ 3 ฉบับ ถึง ‘รมว.คลัง-อธิบดีสรรพากร-ผู้ว่าฯ สตง.’ บี้เร่งดำเนินการ ขู่หากยังนิ่ง ฟ้อง ‘ป.ป.ช.’ ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่แน่ ย้ำต้องยึดกฎหมายทัดเทียม ยกเคส ‘หลุย เบญจา’ ชี้โทษให้เห็น
วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เวลา 12.00 น. ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้ยื่นเรื่องให้กรรมการตรวจสอบเรื่องข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงการทำธุรกรรม และการชำระภาษีเกี่ยวกับการซื้อหุ้นมูลค่า 4,434.5 ล้านบาทของน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเข้าให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาเศรษฐกิจ ที่มีการเชิญ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน และอธิบดีกรมสรรพากร เข้าให้ข้อมูลด้วยว่า ประเด็นสำคัญคือการส่งเรื่องให้ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร วินิจฉัยกรณีของน.ส.แพรทองธาร ที่ใช้ตั๋ว PN ไม่มีดอกเบี้ย และกำหนดการชำระเงิน สร้างรูปแบบการซื้อหุ้นจากบุคคลในครอบครัว
ว่าเข้าข่ายการหลีกเลี่ยงหรือทำนิติกรรมอำพราง ภาษีการรับให้หรือไม่ ซึ่งตนได้ย้ำไปกับทางผู้แทนกรมสรรพากร ผู้อำนวยการกองตรวจสอบภาษีกลาง ถามในเรื่องภาษีการรับให้ ไม่ใช่เรื่องรายได้ของบุคคลธรรมดา แต่ก็ต้องตกใจ เพราะปรากฎว่าคณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรยังมีองค์คณะไม่ครบ ยังขาดผู้ทรงคุณวุฒิอยู่ 3 คน ซึ่งต้องแต่งตั้ง โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง หมายความว่าหากองค์คณะกรรมการชุดนี้ไม่ครบ ก็จะวินิจฉัยกรณีของนางสาวแพทองธารไม่ได้ ซึ่งนายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะประธานกมธ.ฯ จะเร่งทำหนังสือไปถึงนายพิชัย เพื่อเร่งการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ครบองค์คณะอย่างเร่งด่วน และขอทราบถึงระยะเวลาการแต่งตั้ง และเข้าใจว่าคณะนี้มีวาระ 3 ปี แต่ไม่มีกำหนดว่าจะต้องตั้งเมื่อไหร่
"ผมกังวลว่าถ้ามีการเตะถ่วง ไม่แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน ทางนายพิชัย จะเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ได้" นายวิโรจน์กล่าว
เมื่อถามว่าการแต่งตั้งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนไหน นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทางกมธ.ฯ ก็ได้สอบถามไป ผู้อำนวยการกองตรวจสอบภาษีกลางก็ตอบว่า อยู่ในช่วงรวบรวมข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถตอบได้ว่าจะใช้เวลานานที่สุดเท่าไหร่ และพยายามขอไม่ตอบ เรื่องกรอบระยะเวลา
นายวิโรจน์ กล่าวต่อว่า ตนได้ตั้งคำถามระหว่างนี้หากมีประชาชนทั่วไปต้องการจะโอนหุ้นให้กับลูกที่มีมูลค่าเกินกว่า 20 ล้านบาทต่อปี ส่วนที่เกิน 20 ล้านต้องเสียภาษีการรับให้ และดำเนินการตามรูปแบบ ของนางสาวแพทองธาร คือการใช้ตั๋ว PN มาแลก ทางสรรพกร จะเข้าไปจัดเก็บภาษีการรับให้หรือไม่ ก็ไม่ได้คำตอบ ตอบแค่ว่าอยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริง ยังไม่ได้เข้าสู่กระบวนการวินิจฉัย ซึ่งเรื่องนี้ประชาชนจะเสียประโยชน์อย่างมาก คนที่ต้องการโอนหุ้นให้ลูกต้องเสียภาษี 5% ไปก่อนใช่หรือไม่ เมื่อถึงเวลาหากมีการวินิจฉัยว่ากรณีของนางสาว แพทองธาร ทำได้ สรรพากรจะไม่คืนส่วนนั้นให้กับประชาชนใช่หรือไม่ ตนจึงเสนอว่าสามารถออกระเบียบหรือออกประกาศ ว่าระหว่างดำเนินการ จะไม่เข้าไปเรียกตรวจ ส่วนกรณีที่เข้าไปเรียกตรวจประชาชนก็สามารถอ้างได้ว่า ขอให้รอคำวินิจฉัยกรณี กรณีของน.ส.แพทองธารก่อน ทางผู้แทนของกรมสรรพากรก็ตอบกรรมาธิการว่า ไม่ชอบเรื่องสมมุติ เอาข้อเท็จจริง กรรมาธิการจึงถามต่อว่า ไม่ต้องสมมุติเพราะข้อเท็จจริงมีคนโอนหุ้นให้ลูกตลอด แต่ไม่ได้คำตอบ
นายวิโรจน์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้กมธ.การพัฒนาเศรษฐกิจ จะทำหนังสือ 3 ฉบับคือ 1. จะทำหนังสือถึงนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการใช้อำนาจแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรให้ครบองค์คณะ ซึ่งหากทำไม่ได้ก็จะนำไปสู่หลักฐานที่ชี้ว่าละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ ร้องต่อ ป.ป.ช.ได้ 2.นายปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร ถึงกรอบเวลาในการรวบรวมข้อเท็จจริง และจะส่งให้คณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากรเมื่อไหร่ เช่นกรอบเวลาอย่างช้าที่สุด ที่จะนำไปร้องต่อ ป.ป.ช.ได้ และถามว่า หากประชาชนใช้โมเดลของนายกรัฐมนตรี กรมสรรพากรจะไม่ไปกล่าวหาว่าประชาชนทำความผิดใช่หรือไม่ เพื่อการบังคับใช้กฎหมายอย่างเสมอภาค และ 3. นายมณเฑียร เจริญผล ผู้ว่าการการตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้ใช้อำนาจทางกฎหมาย ทำหนังสือ เพราะปัจจุบันกรมสรรพากรยังไม่มีระเบียบในการทำงานเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษี กรณีใช้ตั๋วสัญญาใช้เงิน หรือใช้เครื่องมือทางการเงินอื่นใด หากปล่อยไปเช่นนี้ก็จะเกิดความเสียหายต่อการจัดเก็บภาษีเสียหายต่อราชการ เสียหายต่อประชาชน ซึ่งหากพบว่ามีการละเว้นหรือเตะถ่วงในหน่วยงานใด มีการยกกรณีคุณหญิงเบญจา หลุยเจริญ มาชี้เห็น ถึงโทษอาญาและจำคุกที่จะตามมา
“เพราะการลักลั่นในการบังคับใช้กฎหมาย หรืออย่างน้อยสุญญากาศของกฎหมาย ประชาชนไม่รู้ว่าถ้าทำตามนายกฯแพทองธาร จะได้รับการปฏิบัติในการดึงระยะเวลา เหมือนกับที่นายกฯ ได้รับจากกรมสรรพากรหรือไม่” นายวิโรจน์กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี