รายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ในตอนที่เผยแพร่วันที่ 24 เม.ย. 2568 ชวนจับตาสถานการณ์ประเทศไทยในมุมของโหราศาสตร์และอดีตผู้สื่อข่าวสายการเมือง โดย โหรฟองสนาน จามรจันทร์ เริ่มไล่เรียงสถานการณ์ตั้งแต่เดือน พ.ค. 2568 ที่จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยในวันที่ 5 พ.ค. 2568 เป็นวันที่ราหูย้ายและจะอยู่ในราศีกุมภ์ไปนานถึง 22 เดือน โดยราหูจะย้ายเข้าภพลาภะ หมายถึงเพื่อนดวงเมือง ซึ่งอาจตีความให้หมายถึงพรรคร่วมรัฐบาลก็ได้ หรือมีการเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล
ขณะที่ดาวพฤหัสก็ย้ายเข้าราศีเมถุน ในช่วงวันที่ 5 พ.ค. – 2 ต.ค. 2568 เมืองคงได้กินบุญเก่ามาก แต่ที่สำคัญคือดาวเสาร์ก็ย้าย ช่วงวันที่ 19 พ.ค. – 23 ส.ค. 2568 อาจส่งผลกระทบเชิงลบอย่างมากต่อเศรษฐกิจ แต่ในมุมบวกก็ยังมี เช่น เสียอะไรไปอาจยังได้กลับมา ซึ่งเกณฑ์นี้จะอยู่ไปถึงวันที่ 14 ก.พ. 2569 มีตัวอย่างเหตุการณ์เมื่อดวงเมืองเข้าจุดนี้ เช่น การกลับสู่ประเทศไทยของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หรือสมัยรัฐบาลนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่สามารถคลี่คลายวิกฤตของการบินไทยได้สำเร็จ เป็นต้น
และเมื่อเทียบกับดวงชะตาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ปัจจุบันยังอยู่ในต่างประเทศ ให้จับตาตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. 2568 – 22 พ.ย. 2569 รวม 18 เดือน ราหูซึ่งเป็นตัวแทนของทรัพย์สินและชีวิตบั้นปลายเดินเข้าบ้านตนเอง จึงมีความเป็นไปได้ที่อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ จะได้เดินทางกลับประเทศไทย แต่ก็ไม่ใช่การกลับมาอย่างสบายๆ เพราะราหูเข้าภพที่ 4 หมายถึงดวงแตก จะมีความหงุดหงิดร้อนใจ แต่หากเป็นเรื่องดวงเมือง นับไปจนถึงวันที่ 14 ก.พ. 2569 ระหว่างนี้อาจได้บางอย่างกลับมา แต่บอกไม่ได้ว่าคืออะไร
“เมืองเราเตรียมรับความผันผวน นักข่าวการเมืองแทบไม่ได้หลับได้นอนตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป มันจะเกิดแผ่นดินไหว – ภูเขาไฟระเบิดในเรื่องของพรรคร่วมรัฐบาลและอื่นๆ อีกเยอะเลยทีเดียวที่เคยทำนายครั้งที่แล้วก่อตัวมาเรื่อยๆ และช่วงพฤษภานี้เป็นต้นไป ช่วงที่ทางการเมืองจะเป็นเรื่องสำคัญมาก ตั้งแต่พฤษภาเป็นต้นไป แล้วก็ไม่ว่าเปลี่ยนแปลงระดับไหน รัฐบาลใหม่จะได้บริหารประเทศจริงๆ เชื่อว่าจะเป็นกลางพฤศจิกา เพราะฉะนั้นยุบสภาหรือเปล่า? มันมีอะไรให้ยุบ?”
โหรฟองสนาน ระบุว่า ขอให้จับตาเรื่องของรัฐบาล มีเรื่องก่อตัวเขม็งเกลียวมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ 2 – 3 เดือนก่อน และจะเริ่มระเบิดในเดือน พ.ค. 2568 ซึ่งระดับน่าจะสูงกว่าการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เช่น มีการเปลี่ยนพรรคร่วมรัฐบาล มีบุคคลต้องคำพิพากษาศาล หรือมีบุคคลลาออก จนถึงการยุบสภาหรือแม้แต่การปฏิวัติรัฐประหาร แต่อย่าให้เกิดการปฏิวัติเลยเพราะเชย ส่วนการปฏิวัติประชาชนที่บอกว่าเริ่มก่อตัว รัฐบาลก็ไม่ควรสุมไฟแต่ควรดับไฟ เช่น ถอนร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่อนุญาตให้มีกาสิโนออกเสีย
ขณะที่ดวงชะตาของอดีตนายกฯ ทักษิณ ก็มีช่วงที่ต้องตีฝ่า ตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. – 23 ส.ค. 2568 เพราะแม้ท่านจะมีเพื่อนเยอะแต่ก็ต้องระวังเพื่อนหาลงเหว ด้วยความที่ดาวเสาร์กับราหูตรึงกัน สื่อความหมายถึงมิตรที่ไม่น่าไว้ใจ ตนเคยเห็นบุคคลที่ดาวตรึงกันแบบนี้แล้วถึงขั้นติดคุก ดังนั้นดวงชะตาของนายทักษิณดูเหมือนจะต้องรับหนักและโดยเฉพาะอาจเกี่ยวข้องกับลูกของท่านด้วย เพราะดาวเสาร์เป็นตัวแทนของลูกท่าน ช่วงเวลาข้างต้นจึงเป็นช่วงที่นายทักษิณต้องต่อสู้อย่างหนัก
ส่วนดวงชะตาของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ คนปัจจุบัน ซึ่งตนไม่รู้ลัคนาและเวลาเกิด แต่สิ่งที่ต้องจับตาคือนายกฯ แพทองธาร ถูกกระทบกระเทือนตำแหน่งมาโดยตลอด เช่น ถูกล้อเลียนหรือถูกมองว่าไม่ใช่นายกฯ ตัวจริง โดยจะมีปรากฏการณ์สำคัญเกิดขึ้นในชีวิต อยากให้ระมัดระวัง ในคราวแรกต้องประคองตัวไปให้ถึงวันคล้ายกันเกิดในปี 2568 นี้ได้ให้ก่อน โดยดวงชะตาของ น.ส.แพทองธาร ราหูทับจันทร์และเล็งอาทิตย์ หมายถึงมีศัตรู และมีโศลกกล่าวว่า “สับสนจนคับคั่ง ถูกโทษทั้งจากฐานา” ต้องระวังหลุดจากตำแหน่ง
“ตั้งแต่ 5 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป ราหูทับจันทร์ มันมะรุมมะตุ้มพฤษภาเห็นไหม? แล้วราหูจะทับจันทร์ท่านอยู่ถึง 22 พ.ย. 2569 ฉะนั้นท่านนายกฯ ตัวรอดรอบแรกต้องเอาให้พ้นวันเกิด 21 สิงหาไปก่อน แต่ 21 สิงหาไปแล้วก็ไม่น่าพิสมัย ฉะนั้นตั้งแต่ 5 พฤษภาเป็นต้นไปจนถึงวันเกิดของท่าน สับสนจนคับคั่ง ถูกโทษทั้งจากฐานา ฉะนั้นดูดวงคุณพ่อกับดวงลูกแล้วดูจะหนัก ออกแนวลบทั้งคู่ที่อาจกระทบกระเทือน ก็อยู่ที่การบริหารจัดการ เพราะจริงๆ แล้ว 50% เป็นเรื่องของดวง อีก 50% เป็นเรื่องของการกระทำ
อย่างครั้งที่แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) ถอนร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ใช้ได้เลย แต่ตอนนี้ไม่รู้จะอะไร เพราะว่าเรื่องที่จะเข้ามาเป็นส่วนประกอบที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายของคุณอุ๊งอิ๊งค์ก็คือเรื่องนี้ คือพวกหมอ พวกผู้ทรงศีล กระบวนการยุติธรรม นักศึกษา พวกเกี่ยวกับพฤหัสมันส่องแสงถึง หวังว่าท่านคงจะบริหารจัดการออกมาได้ แต่ว่าถ้าถาม..เข้าข่ายว่ามันพลิกผัน พอดูดวงเมืองแล้วก็เลือกทางเอา เพราะว่าตั้งแต่ 5 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป คุณอุ๊งอิ๊งค์ต้องเลือกระหว่างทาง 2 ทาง”
โดยสรุปแล้วดวงชะตาของ น.ส.แพทองธาร ในระยะนี้ นับตั้งแต่วันที่ 5 พ.ค. – 21 ส.ค. 2568 จะมีเพียง 2 ทางให้เลือก ซึ่งตนก็หวังว่าจะเลือกทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ตนนั้นพูดในทุกรายการว่าการเป็นนายกฯ แม้เป็นเพียงวันเดียวก็ถือว่าเป็นแล้ว แต่ น.ส.แพทองธาร อายุยังน้อยมีโอกาสทำอะไรได้อีกมาก ที่สำคัญคือเป็นนายกฯ ของคนทั้งประเทศไม่ใช่เฉพาะของตระกูลชินวัตรหรือพรรคเพื่อไทย ดังนั้นเกียรติภูมิและศักดิ์ศรีของนายกฯ สามารถเรียกกลับมาได้หากสู้และทำในสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชน์กับประเทศชาติและประชาชนมากที่สุด แต่ยกเว้นเรื่องแจกเงินที่ตนไม่ค่อยเห็นด้วย อยากให้คิดดีๆ เพราะวิกฤตเศรษฐกิจกำลังรออยู่
จากบุคคลในพรรคแกนนำรัฐบาลย่าง น.ส.แพทองธาร และนายทักษิณ โหรฟองสนาน ยังกล่าวถึงบุคคลสำคัญทางการเมืองอีกหลายท่าน อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยดวงชะตาของนายอนุทิน หากไม่ได้มาเป็นนายกฯ ช่วงวันที่ 5 พ.ค. 2568 – 14 ก.พ. 2569 ก็แนะนำให้วางมือทางการเมือง เพราะท่านมีเงินเยอะแล้วก็ไปใช้เงินดีกว่า
ส่วนคำถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมีโอกาสกลับมาเป็นนายกฯ อีกหรือไม่ ตนเคยไปพูดในรายการหนึ่ง บอกว่านับจากวันคล้ายวันเกิดของ พล.อ.ประยุทธ์ ในปีนี้ (21 มี.ค. 2568) ถึงปีหน้า (21 มี.ค. 2569) มีเกณฑ์เป็นดวงได้สถาปนา คนธรรมดาจะได้เป็นพระยาพานทอง ตนก็บอกว่าขอให้ดูว่าอะไรที่ท่านยังไม่ได้เป็น และบอกพิธีกรไปว่าอย่าไปยุ่งว่าท่านจะได้เป็นอะไร แต่วันเกิดเมืองเป็นอย่างนั้น
สำหรับดวงชะตาของ พล.อ.ประยุทธ์ ในระยะนี้ อยากให้จับตาช่วงวันที่ 19 พ.ค. – 23 ส.ค. 2568 จะเอาชนะอุปสรรคได้ หรือเสียอะไรไปก็จะได้กลับคืนมา แต่สิ่งที่ท่านเสียไปอาจเป็นอย่างอื่นที่ไม่ใช่ตำแหน่งนายกฯ ก็ได้ ซึ่งก็มีสื่อที่ไปตั้งพาดหัว บอกโหรฟองสนานชี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมา แต่ในความเห็นของตน แนะนำว่า พล.อ.ประยุทธ์ อย่ากลับมา เป็นอย่างที่เป็นตอนนี้ก็โก้อยู่แล้ว และตอนลงจากตำแหน่งก็ลงได้สวยแล้วแม้จะพ่ายแพ้อย่างยับเยิน คุณงามความดีของท่านคนยังจำได้ ยกเว้นหากไม่ไหวจริงๆ ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ก็ไม่เห็นด้วยหากท่านจะกลับมาทุกข์อีกครั้ง เพราะสถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่ไหว
ขณะที่ดวงชะตาของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งปัจจุบันเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน วันคล้ายวันเกิดปีนี้ถึงปีหน้า (21 ก.พ. 2568 – 21 ก.พ. 2569) จะมีเรื่องกระทบกระเทือนสถานะตำแหน่ง แต่ตนพูดแบบนี้ก็วอนแฟนคลับนายพีระพันธุ์ หากจะเถียงกันก็ให้มาเถียงด้วยหลักทักษา อนึ่ง ตนจะพูดในทุกรายการที่ไปว่านายพีระพันธุ์เล่นการเมืองเพื่อเกียรติของวงศ์ตระกูล และท่านมีฐานะร่ำรวยคงไม่เดือดร้อนอะไร แฟนคลับก็อย่าไปเดือดร้อนแทนท่านเลยเพราะท่านไม่เล่นการเมืองก็อาจไม่ถูกด่า
“ไม่ว่าการเมืองจะเป็นอย่างไร เป็นนักข่าวการเมืองมา 20 กว่าปี ตายด้านแล้ว มองเป็นเรื่องธรรมดามาก เขาก็เถลือกไถลของเขาไป เพราะว่านักการเมือง ด้วยความเคารพไม่มีใครประกาศตัวว่าเป็นโสดาบันแล้วมาเล่นการเมือง ทุกคนยังมีกิเลสตัณหาราคะเหมือนกันด้วยกันทั้งนั้น แล้วการเมืองในที่สุดมันก็เห็นอย่างที่เราเห็น มีคนว่าอย่างโน้นอย่างนี้ ไม่มีมิตรแท้ - ศัตรูถาวร แต่การเมืองที่ไหนก็เป็นอย่างนี้ แม้กระทั่งสหรัฐฯ เห็นไหม? ก็เป็นอย่างนี้ ในที่สุดใครมาก็ไม่รู้มาปั่นป่วนทั่วโลก แต่ว่าประเด็นคือประเทศเราต้องอยู่ไม่ว่าการเมืองจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ปัญหากลังวันเกิดดวงเมือง ที่ร้ายแรงที่สุดไม่ใช่เรื่องการเมือง การเมืองถ้าจะเปลี่ยนอย่างไรควรจะเปลี่ยนเพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ต้องได้มือเศรษฐกิจชั้นเยี่ยมมาแก้ไขเพราะว่าเมืองจะเข้าเคราะห์ทางเศรษฐกิจ 1 ปี เริ่มตั้งแต่ 21 เม.ย. 2568 – 21 เม.ย. 2569 น้องๆ ต้มยำกุ้ง (วิกฤตเศรษฐกิจปี 2540) หรือร้ายแรงกว่า เริ่มแล้ว! คุณเห็นไหมล่ะ? ตลาดหุ้นมุดหัว คุณดูอยู่ๆ ก่อนถึงวันที่ 21 เม.ย. 2568 วันที่ 2 เมษา คุณทรัมป์ (โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา) กดสงครามนิวเคลียร์เรื่องเศรษฐกิจมาเลย แล้วเราจะตีฝ่าอย่างไร?”
โหรฟองสนาน อธิบายความเสี่ยงของเศรษฐกิจไทยจากปัจจัยต่างๆ ที่ก่อตัว ทั้งปัจจัยภายนอกอย่างสงครามเศรษฐกิจ และปัจจัยภายในอย่างเศรษฐกิจไทยเองที่เติบโตไม่สูงพอ แต่ปัจจัยที่จะทำให้เกิดปรากฏการณ์ใหญ่อย่างที่เรียกว่าฟางเส้นสุดท้ายยังเป็นคำถามว่าจะเกิดขึ้นในช่วงใด เรื่องนี้ขอให้จับตาระหว่างวันที่ 19 พ.ค. – 23 ส.ค. 2568 แต่ไม่น่าไว้วางใจสำหรับประชาชนทั่วไป กล่าวคือการเมืองจะเป็นอย่างไรก็ช่างแต่ขอให้ไม่ตกงานหรือมีหนี้สิน ต้องเอาตัวเองให้รอดและทำให้ประเทศชาติเข้มแข็ง จะหวังกับนักการเมืองไม่ได้
ทั้งนี้ ตนอยากฝากถึง น.ส.แพทองธาร ในฐานะนายกฯ ว่า ไม่จำเป็นต้องเก่งมากแต่ขอให้เชื่อที่ปรึกษาที่ดีพอ อย่างในช่วงสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในยุครัฐบาลนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ประชาชนตื่นตระหนก วัคซีนก็ไม่มี ตกใจกันทั้งโลก แต่สิ่งที่ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ รอดและคนไทยมีกำลังใจสู้เพราะทีมแพทย์ระดับหัวกะทิของประเทศที่มาอยู่รอบข้าง ดังนั้นเวลานี้ที่ประเทศกำลังเข้าสู่วิกฤต ทีมที่ปรึกษาของนายกฯ แพทองธาร ก็ควรเป็นบุคคลระดับหัวกะทิด้านเศรษฐกิจ และนายกฯ ก็ต้องตัดสินใจให้ดี เพราะนักเศรษฐศาสตร์คุยกันก็มีทางเลือกให้หลายทาง
ส่วนคำถามว่า การที่ น.ส.แพทองธาร ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะต้องฟังอดีตนายกฯ ทักษิณ ที่เป็นบิดาหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ของคนไทยทั้งประเทศ ไม่ใช่นายกฯ ของนายทักษิณหรือพรรคเพื่อไทย หาก น.ส.แพทองธาร ทำได้ดีเกียรติยศชื่อเสียงก็จะไปลงกับตระกูลชินวัตรนั่นเอง เหมือนกับที่อดีตนายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ ตอนนี้ไปไหนก็ไม่อายใคร ตนยังจำได้กับภาพที่ทีมแพทย์ระดับหัวกะทิไปช่วย พล.อ.ประยุทธ์ รับมือโควิด แสดงให้เห็นว่านายกฯ ไม่ดื้อและฟังความเห็นของแพทย์ เป็นภาพที่เห็นแล้วมีกำลังใจขึ้นมาได้ทันที
จากเรื่องภายในประเทศไทย โหรฟองสนาน ยังตอบคำถามเรื่อง “สงครามโลกครั้งที่ 3” ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นหรือไม่ โดยย้ำว่า ในทุกรายการที่ตนให้สัมภาษณ์ ย้ำเสมอว่า “ในห้วงระยะเวลาตั้งแต่เดือน ก.ค. 2565 – ก.ค. 2572 เป็นเรื่องของสงครามเศรษฐกิจ ยังไม่ถึงขั้นสงครามโลกแม้การใช้อาวุธจะมีเป็นระยะๆ รบกันเป็นเพียงจุดๆ ก็ตาม” แต่ในส่วนเรื่องทางเศรษฐกิจ จะต้องมีการปฏิวัติทางเศรษฐกิจทั้งระดับโลกและของประเทศไทยเอง โดยในเดือน ก.ค. 2572 เราจะกลับมาย้อนถามตนเองว่าเศรษฐกิจไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร
“ถ้าเมืองทำได้ดี เราจะประสบความสำเร็จอย่างล้ำเลิศ หลุดจากกับดักประเทศรายได้ปานกลางไปสูง แต่ถ้าเมืองทำไม่ดีเราจะล้มลุกคลุกคลาน ยังติดกับดักประเทศรายได้ปานกลางอยู่ ฉะนั้นหวังว่าช่วงนี้ซึ่งใน 7 ปี ต้องปฏิวัติทางเศรษฐกิจใหญ่ของประเทศไทยมาตั้งแต่ ก.ค. 2565 - ก.ค. 2572 จุดเป้าหมายของเรา หวังว่าคงจะได้มาสัมภาษณ์ที่นี่ ก.ค. 2572 ไปสัมภาษณ์กันข้างกำแพงเมืองก็ได้
จุดวิกฤตที่เมืองต้องตีฝ่าเรื่องเศรษฐกิจคือ 21 เมษาปีนี้ (2568) ไปถึง 21 เมษาปีหน้า (2569) นี่คือช่วงวิกฤตที่สุด พอ 21 เมษาปีหน้าก็ไม่ใช่ว่าจะไม่วิกฤต แต่มันจะมีเชิงบวกออกมาให้เห็น แต่ที่หนักที่สุดที่คุณอุ๊งอิ๊งค์จะต้องได้ทีมเศรษฐกิจที่ดีมาช่วย ไม่เช่นนั้นดูไม่จืด คุณจำได้ไหมตอนเกิดต้มยำกุ้ง? เปลี่ยนรัฐบาลด้วยนะ แล้วก็ประเทศพังด้วยนะ ไม่รู้ว่าอะไรมันจะเกิดระหว่างวันที่ 21 เม.ย. 2568 – 21 เม.ย. 2569 แต่การเมืองพลิกผันไปจนถึง 17 พ.ย. 2568 และเศรษฐกิจหนักที่สุดคือช่วงนี้ คือ 21 เม.ย. 2568 – 21 เม.ย. 2569 ที่จะต้องได้ทีมเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมมารับมือ”
หมายเหตุ : สามารถรับชมรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ดำเนินรายการโดย บุญระดม จิตรดอน ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 11.00-12.00 น. โดยประมาณ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี