เพื่อไทยโวประชาชนเข้าใจ‘กาสิโน’
เปิดสภาลยทันที
จ่อเคลียร์พรรคร่วมดันอีก
ถ้าไม่ทำไทยจะเสียโอกาส
ช่วยสร้างงานเพียบ2หมื่นคน
กระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ
เพื่อไทย ส่งสส.ลงพื้นที่ตีปี๊บ ร่าง พ.ร.บ.การประกอบ ธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร อ้างเสียงตอบรับดีขึ้น เพราะรู้ว่า 90% คือศูนย์ประชุม-สวนสนุก-คอนเสิร์ตฮอลล์ กาสิโนแค่ 10% คุมเข้มตามกฎหมาย แย้มแต่ละจุดสร้างงานได้ถึง 2 หมื่นตำแหน่ง “สรวงศ์” ย้ำเปิดสภาเดินหน้าทันที
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.)กล่าวถึงกรณี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ สส.ลงพื้นที่ในช่วงปิดสมัยประชุม เพื่อเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ว่า เสียงตอบรับจากประชาชนในแต่ละพื้นที่ มีสัญญาณตอบรับที่ดีอย่างชัดเจน หลังมีการลงพื้นที่เข้าไปอธิบายในเนื้อหาของร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่เป็นการสร้างเม็ดเงินใหม่ สร้างรายได้ใหม่เข้าประเทศ สร้างเศรษฐกิจและการจ้างงานมหาศาล สัดส่วนการใช้พื้นที่ 90% เป็นศูนย์การประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ สวนสนุกระดับโลก สนามกีฬา คอนเสิร์ตฮอลล์ขนาดใหญ่
ส่วนกาสิโนที่มีบางกลุ่มตั้งธงคัดค้านนั้น มีสัดส่วนเล็กน้อยเพียง 10% จาก 100% และยังสามารถออกแบบกฎหมายให้อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐตามมาตรฐานสากลได้ หลายประเทศทำจนประสบความสำเร็จ บางประเทศถกเถียงกันมากว่า 20 ปี วันนี้ก็เร่งรัดผลักดัน เดินหน้าทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไปแล้ว ถ้าเราไม่ทำจะเสียโอกาส เพราะจะไม่มีโครงสร้างพื้นฐานด้านบันเทิงที่ครบวงจรเพียงพอ
อย่างกรณีเทย์เลอร์ สวิฟต์ ไม่เลือกมาไทย เพราะเรายังไม่มีคอนเสิร์ตฮอลล์ขนาดใหญ่ระดับโลก หากมีเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ จะสามารถดึงดูดอีเวนต์ใหญ่ระดับสากล สามารถเป็น Concert hub ของอาเซียนเพื่อกระตุ้นให้เกิด Music tourism สร้างรายได้และสร้างงานกว่า 20,000 ตำแหน่งต่อจุด เงินเดือนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 25,000 บาทต่อเดือน วันนี้เสียงตอบรับจากประชาชนดีขึ้นโดยลำดับ เมื่อได้รับข้อมูลข้อเท็จจริงว่า โครงการนี้ไม่ใช่บ่อน ไม่ใด้เป็นการมอมเมาประชาชน แต่คือแนวทางการสร้างรายได้ใหม่เข้าประเทศ เอกชนทั้งในและต่างประเทศ จะกล้ามาลงทุนระดับแสนล้านได้ ต้องมีกติกา มีแรงจูงใจชัดเจน และรัฐต้องวางกติกาที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ประชาชนเปิดใจ เพราะเห็นประโยชน์ที่จับต้องได้ และยังสามารถออกกฎหมายควบคุมไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสังคมได้
เช่น จะห้ามคนมีเงินฝากไม่ถึง 50 ล้านบาทเข้า ห้ามข้าราชการ ห้ามเจ้าหน้าที่รัฐ ห้ามเยาวชนเข้า สมาชิกในครอบครัวถ้ามีเงินฝากเกิน 50 ล้านบาท จะเข้าได้ต้องได้รับการอนุมัติจากคนในครอบครัว ที่ตั้งต้องอยู่ห่างไกลจากศาสนสถาน ห่างไกลจากสถานศึกษา ก็สามารถออกกฎหมายควบคุมผลกระทบได้ในทุกมิติ
“เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ เป็นนโยบายและเป็นโอกาสในการสร้างเศรษฐกิจ สร้างรายได้ใหม่ สร้างอนาคต สร้างโอกาส ที่จับต้องได้ให้กับประเทศ” นายอนุสรณ์ กล่าว
เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มอบหมายให้ ส.ส.ลงพื้นที่ชี้แจง ทำความเข้าใจร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่า จากการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลงพื้นที่เสียงที่สะท้อนกลับมาประชาชนไม่ได้คัดค้าน เพราะเราได้ชี้แจงชัดเจนว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไม่ใช่กาสิโนเหมือนที่มีบางกลุ่มพยายามโจมตี แต่เป็นแหล่งรายได้ใหม่ที่จะดึงนักลงทุนต่างประเทศเข้ามากฎหมายที่เราทำ คือการเปิดโอกาสให้นักลงทุนที่สนใจมาลงทุนในประเทศ
“เราไม่ได้เอาเรื่องนี้เข้าสภาฯ เพื่อจะสร้างกาสิโน แต่ยืนยันว่า เป็นการออกกฎหมายเพื่อดึงดูดนักลงทุน และประชาชนไม่ได้คิดที่จะเข้าไปในกาสิโนอยู่แล้ว เพราะทราบดีว่า มีเงื่อนไขรัดกุมอยู่เยอะ และประชาชนยังทราบถึงแง่ดีว่าหากเรื่องนี้เกิดก็จะมีการพัฒนาตามมา เพราะรัฐจะได้ภาษีจำนวนมาก สิ่งเหล่านี้ส.ส.ก็ได้สะท้อนกลับมา เมื่อเปิดสมัยประชุมก็จะเดินหน้าเรื่องนี้ต่อ เพราะกฎหมายรอการพิจารณาอยู่แล้ว โดยก่อนเปิดสมัยประชุม นายกฯคงเชิญพรรคร่วมมาพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้กันอีกครั้ง” นายสรวงศ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี