สส.ปชน.รุมชำแหละ15โครงการ2.7พันล้าน
ถล่มงบปรับปรุงรัฐสภา
ซัดนิติบัญญัติแปรงบเข้าตัวเอง
ขอ100ล.วาดจิตรกรรมฝาผนัง
จ้างออกแบบลานจอดรถเพิ่ม
ปธ.วิปรบ.ติงไม่จำเป็นควรตัด
“ปธ.วิปรบ.” เปิดกรอบเวลาถกงบฯปี’69 “รบ.-ฝ่ายค้าน” ฝ่ายละ 20 ชม. ให้จ้อ 3 วัน ติงของบฯปรับปรุง “รัฐสภา” ชี้อะไรเกินจำเป็นต้องตัด แนะควรไปกระตุ้นศก. แก้เดือดร้อนปชช. พรรคประชาชน นำโดย “พริษฐ์” เปิดคำของบปี’69ของรัฐสภา จับตา 15 โครงการ มูลค่าสูงกว่า 2.7 พันล้าน มี 10 โครงการเฉียดพันล.อยู่ในร่างพ.ร.บ.งบ’69ที่เน้นปรับปรุง-ติดตั้งระบบ-เติมแต่ง อาคารรัฐสภา ทั้งที่เปิดใช้มาแค่ 5 ปี ตั้งคำถามถึงความจำเป็น อาทิ รีโนเวทห้องประชุม 118 ล.โดยที่ยังใช้งานปกติ ขณะที่‘ภัณฑิล’สอนมวย‘นิติบัญญัติ’ไม่ควรแปรงบเข้าตัวเอง ปูดมีของบ 100 ล้านวาดจิตรกรรมฝาผนังหลังบัลลังก์‘ปธ.สภา’แต่ถูกเบรก ส่วน‘พิพิธภัณฑ์รัฐสภา’เสียงบไปร้อยล้าน กลายเป็นสุสานใต้ดิน ไร้คนเข้าใช้ ตกใจหนักสำนักเลขาธิการสภาฯ ทุ่ม 100 ล้านออกแบบลานจอดรถใต้ดิน ทั้งที่ยังหางบสร้างไม่ได้
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ว่า น่าจะเหมือนเดิมคือ แบ่งเวลาให้ฝ่ายค้านและรัฐบาลฝ่ายละ 20 ชั่วโมง ประธานในที่ประชุม 1 ชั่วโมง ครั้งนี้ไม่ใช่การอภิปรายไม่ไว้วางใจ ทุกฝ่ายอภิปรายได้หมด คาดว่าน่าจะใช้เวลาพิจารณาภายใน 3 วัน
ติงงบปรับปรุงสภาเกินจำเป็นต้องตัด
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีพรรคประชาชนเตรียมตัดงบประมาณปรับปรุงอาคารรัฐสภา สืบเนื่องจากมีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางถึงความเหมาะสม กรณีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรเสนอของบประมาณในร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 มูลค่าเกือบพันล้านบาท เพื่อใช้ในโครงการเพื่อปรับปรุงพื้นที่ในรัฐสภาจำนวนหลายโครงการ อาทิ ปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภา 120 ล้านบาท ทำระบบเสียงห้องประชุมสัมมนา ขนาด 1,500 ที่นั่ง มูลค่า 99 ล้านบาท ปรับปรุงห้องประชุม CB406 มูลค่า 118 ล้านบาทท ปรับปรุงไฟห้องสัมมนาชั้น B1 และ B2 มูลค่า 118 ล้านบาท ปรับปรุงห้องสารนิเทศ มูลค่า 180 ล้านบาท ปรับปรุงศาลาแก้ว 123 ล้านบาท ปรับปรุงครัวรัฐสภา 117 ล้านบาทนั้นนายวิสุทธิ์กล่าวว่า อะไรที่จำเป็นก็ต้องทำ ที่ไม่จำเป็นก็ไม่ควรทำ ขณะนี้ควรกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนที่เป็นความเดือดร้อนของประชาชนก็ควรทำ ซึ่งไม่ใช่เฉพาะฝ่ายค้านอย่างเดียว แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ต้องตรวจสอบด้วยว่าอะไรที่เสนอโดยหน่วยงานต่างๆ มาแล้วไม่เป็นประโยชน์ ไม่สร้างกระตุ้นเศรษฐกิจ เราต้องช่วยกันตัด ส่วนการประชุม สส. ของพรรคเพื่อไทยวันที่ 13 พฤษภาคม จะคุยเรื่องการตัดงบประมาณ ต้องดูว่าอะไรไม่จำเป็น หรืออะไรที่จำเป็น สิ่งที่รัฐบาลเขียนมามีอะไรที่เราต้องตรวจสอบ
“อดิศร”หนุนดันงบปรับปรุงพื้นที่สภาฯ
ด้านนายอดิศร เพียงเกษ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ (กมธ.) กิจการสภาผู้แทนราษฎรกล่าวถึงการเสนอของบประมาณเพื่อปรับปรุงพื้นที่รัฐสภา หลังว่าที่ ร.ต.ต.อาพัทธ์ สุขะนันท์ เลขาธิการสภาฯออกมาระบุเสนอให้กมธ.กิจการสภาฯ พิจารณาเห็นชอบว่า ยอมรับมีเจ้าหน้าที่ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯนำรายละเอียดการเสนอของบประมาณเพื่อปรับปรุงให้พวกเราบางคนได้พิจารณา ซึ่งเป็นคนที่สนใจ ซึ่งตนเป็นหนึ่งในคนที่ได้เห็นรายละเอียดเบื้องต้น และตนเห็นว่าควรสนับสนุนให้รัฐสภาพัฒนาในทางที่ดี
“งบประมาณของสภาฯ เพื่อพัฒนาบ้านของฝ่ายนิติบัญญัติให้พัฒนาและรับรองในทุกด้าน ซึ่งผมเชื่อว่าจะทุจริตยากมาก เพราะหากสำลีหล่นยังไม่ถึงพื้น ก็รู้แล้วว่าใครทำ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาฝ่ายนิติบัญญัติได้รับงบประมาณมาน้อยมาก เมื่อเทียบกับฝ่ายบริหารหรือฝ่ายตุลาการ” นายอดิศรกล่าว
ต้องอำนวยความสะดวกปชช.
ถามว่าการเสนอของบปรับปรุงพื้นที่ในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคืองจะเหมาะสมหรือไม่ นายอดิศรกล่าวว่า ควรให้สภาฯตัดสิน ตนมองว่าแนวโน้มที่เสนองบประมาณและมีฝ่ายที่เสนอแนะแล้ว ขอให้ทุกฝ่ายและสื่อมวลชนมองในแง่ดี อย่าขัดขวางงบนิติบัญญัติที่เป็นตัวแทนของทุกฝ่าย ส่วนที่มองว่าควรเอางบไปแก้ปัญหาให้ประชาชนดีกว่าหรือไม่นั้น ในการแก้ปัญหามีกระทรวง มีรัฐบาลทำโครงการชัดเจน ปัญหาที่รัฐบาลแก้ไม่ได้ สามารถมาร้องทุกข์ที่สภาฯหรือกมธ. ดังนั้น สภาฯต้องอำนวยความสะดวกกับประชาชน มีน้ำให้ดื่ม มีห้องให้นั่ง ซึ่งปัจจุบันไม่มีที่รองรับประชาชน นอกจากนั้น เห็นว่ามีอีกหลายส่วนที่ควรปรับปรุง เช่น เครื่องปรับอากาศในห้องแถลงข่าว ที่พบแอร์ไม่ติด อากาศร้อนมาก ทั้งที่ห้องอื่นเย็น ขณะที่ที่จอดรถควรคำนึงถึงการชาร์จแบตเตอร์รี่รถไฟฟ้า เพื่อให้ทันสมัย
ปชน.จับตา15โครงการรีโนเวทสภา
ด้านนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.)โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง เปิดคำของบ 69 ของรัฐสภา: จับตา 15 โครงการมูลค่าสูง ปรับปรุง-ติดตั้งระบบ-เติมแต่ง อาคารรัฐสภาว่า เดือนนี้สภาผู้แทนราษฎรเราเข้าใกล้กระบวนการพิจารณางบประมาณ 2569 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมืองฯพิจารณา เป็นคิวงบประมาณ 2569 ของสภา ประเด็นหลักที่ กมธ. ขอให้หน่วยงานชี้แจงคือ “โครงการใหม่ที่หน่วยงานเห็นว่าสำคัญและใช้งบประมาณวงเงินสูง” ทั้งที่ขอไปและสำนักงบฯอนุมัติ รวมถึงที่ขอไปและสำนักงบฯไม่อนุมัติ ทางหน่วยงานได้ระบุมาทั้งหมด 15 โครงการ
สำหรับ 10 โครงการที่ได้รับการจัดสรรงบฯ 2569 โดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) และอยู่ในร่าง พ.ร.บ. งบฯคือ 1.ก่อสร้างและปรับปรุงพื้นที่พิพิธภัณฑ์รัฐสภา รวมค่าจ้างที่ปรึกษา = 44 ล้านบาท 2.พัฒนาระบบภาพยนตร์ 4D ห้องบรรยายใหญ่ B1-2 = 180 ล้านบาท 3.ปรับปรุงไฟส่องสว่างเพิ่มเติมบริเวณห้องประชุมสัมมนาชั้น B1 และ B2 = 117 ล้านบาท 4.ปรับปรุงศาลาแก้ว 2 หลัง = 123 ล้านบาท 5.ปรับปรุงห้องประชุมงบประมาณ = 118 ล้านบาท 6.ปรับปรุงพื้นที่ครัวของอาคารรัฐสภา = 117 ล้านบาท 7.ติดตั้งภาพและเสียงประจำห้องจัดเลี้ยง ชั้น B2 = 99 ล้านบาท 8.จัดซื้อจอ LED Display = 72 ล้านบาท 9.พัฒนาปรับปรุงพื้นที่ส่วนภูมิทัศน์และผลิตปุ๋ยอินทรีย์ = 43 ล้านบาท 10.ปรับปรุงห้องจัดเลี้ยง ชั้น 1 โซน C = 43 ล้านบาท รวมเป็นงบฯ 956 ล้านบาท
โดยมีอีก 5 โครงการที่หน่วยงานทำคำขอ แต่ยังไม่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ 2569โดย ครม. คือ 1. ก่อสร้างอาคารจอดรถรัฐสภาเพิ่มเติม รวมค่าควบคุมงานและค่าจ้างที่ปรึกษา1,529 ล้านบาท 2.ออกแบบและตกแต่งฉากหลังบัลลังก์ประธานสภาฯในห้องประชุมสุริยัน 133 ล้านบาท 3.จัดซื้อเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัย = 74 ล้านบาท 4.ระบบป้องกันฝุ่นพิษ PM2.5 และเสริมสร้างคุณภาพอากาศ = 50 ล้านบาท 5.จ้างงานซ่อมแซมปรับปรุงเสาไม้สัก 31 ล้านบาท รวมเป็นเงิน 1,817 ล้านบาท
ชี้ตลกร้ายขอ118ล.ปรับปรุงห้องถกงบฯ
นายพริษฐ์ตั้งข้อสังเกตว่า ถึงแม้โครงการดังล่าวยังไม่มีข้อมูลรายละเอียดมาชี้แจง แต่ที่สะดุดใจคือ
1. โครงการส่วนใหญ่เน้นก่อสร้าง-เติมแต่ง-ติดตั้งระบบของอาคารรัฐสภา ทั้งที่สภาเพิ่งถูกสร้างด้วยงบฯ22,987 ล้านบาท เพิ่งเปิดใช้มาแค่ 5 ปี แต่ตนเห็นว่าตรงนี้ยิ่งทำให้เราต้องตรวจสอบโดยละเอียดว่าสิ่งที่ขอให้เพิ่มเติมนั้น จำเป็นต่อการใช้งานและการทำหน้าที่ของสภาฯจริงๆหรือไม่ 2.บางโครงการน่าตั้งคำถามถึงความจำเป็น เช่น การปรับปรุงห้องประชุมงบประมาณ 118 ล้านบาท ทั้งที่ใช้งานได้ปกติ และทำไมต้องใช้งบฯขนาดนี้ ตลกร้ายคือห้องนี้เป็นห้องที่ กมธ. วิสามัญ งบประมาณ ใช้ทุกปี เพื่อตรวจสอบความคุ้มค่าของงบฯของทุกหน่วยงานในประเทศ เช่น การออกแบบและตกแต่งฉากหลังบัลลังก์ประธานสภาผู้แทนราษฎรในห้องประชุมสุริยัน 132 ล้านบาท ซึ่งดูเป็นการตกแต่งที่ฟุ่มเฟือยและไม่เกี่ยวกับการทำให้การประชุมสภามีประสิทธิภาพขึ้น
“การที่ กมธ.พัฒนาฯการเมืองบรรจุวาระเพื่อตรวจสอบงบฯสภาฯ เพราะ ในฐานะที่สภาฯเป็นองค์กรที่อนุมัติและชี้ขาดว่างบฯจากภาษีประชาชนแต่ละปี จะถูกจัดสรรไปที่หน่วยงาน-โครงการอะไร ถ้างบฯถูกใช้ไม่สมเหตุสมผล สภาฯอาจสูญเสียความชอบธรรมในการตรวจสอบงบประมาณของหน่วยงานอื่น ทำให้ประชาชนเชื่อมั่นในสภาน้อยลง ส่งผลต่อสุขภาพของประชาธิปไตยเรา”นายพริษฐ์กล่าว
ฝ่ายค้านงงชี้พิรุธแปรงบเข้าตัวเอง
ขณะที่นายภัณฑิล น่วมเจิม สส. กทม. พรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีการของบฯของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ และสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา โดยเฉพาะงบปรับปรุงพื้นที่รัฐสภาหลายรายการมูลค่าเกือบ 1,000 ล้านบาทว่า จากการตรวจสอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 เรามีข้อสงสัยการของบของหน่วยงานหลายจุดมาก ซึ่งตนยังไม่ได้แถลงทั้งหมด เพราะมีเวลาจำกัด งบก่อสร้างใหม่ขนาดใหญ่ที่เป็นหลัก 100 ล้าน ซึ่งสาธยายยังไม่ครบ และยังไม่รวมพวกปลีกย่อยที่พยายามแตกย่อยออกอีก ความจริงเจตนาเขียนโครงการแต่ละอย่างก็ดูไม่ค่อยดี พูดภาษาชาวบ้านคือ การแปรงบเข้าตัวเอง ความจริงฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถหยิบงบประมาณได้เพราะเป็นการแทรกแซง แต่มันก็มีการแปรงบเข้าอำนาจฝ่ายนิติบัญญัติค่อนข้างเยอะ
แฉใช้ร้อยล.ทำจิตรกรรมฝาผนังหลังบัลลังก์
นายภัณฑิลกล่าวต่อว่า แม้บางเรื่องเป็นเพียงแค่คำขอแต่เราก็ต้องดักขอไว้ก่อน เช่น เขาจะทำจิตรกรรมฝาผนังตรงหลังบัลลังก์ประธานสภา ซึ่งตอนนี้มันยังโล่งๆ อยู่ เขาจะทำใช้งบเป็นหลัก 100 ล้านบาท แต่โชคดีไม่ได้รับการจัดสรรเหมือนกัน นอกจากนั้น ยังมีระบบไอทีต่างๆ เช่น แชทบอต มีระบบเยอะมากและซ้ำซ้อน มีระบบการเรียนรู้ต่างๆ ตนเป็น สส.ก็ไม่เคยใช้ระบบเหล่านี้ไม่เข้าใจว่าเขาทำอะไรกันบ้าง
อย่างไรก็ตาม ต้องให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ด้วย
ตกใจจ้างออกแบบที่จอดรถใหม่ร้อยล้าน
“ส่วนเรื่องพิพิธภัณฑ์รัฐสภาที่ผมพูดไปแล้วงบ 120 ล้านนั้น เป็นภาพรวมทั้งหมด แต่จริงๆ มีการทำไว้แล้วบางส่วนและยังไม่เสร็จ แต่ก็ยังจะมาขอเพิ่ม คำถามคือ แล้วที่ทำไป ไม่รู้ใช้เงินไปเท่าไร แต่ยังไม่เสร็จและไม่มีคนใช้เลย มันเป็นสุสาน อยู่ใต้สภา ไม่มีคนไปใช้ แล้วเราจะถมเงินเข้าไปเพิ่ม คิดว่ามันจะเวิร์คเหรอ ถ้าเรายังทำแบบเดิม แต่คาดหวังผลใหม่ เป็นไปไม่ได้ เสียเงินไปเป็น 100 ล้านบาทแล้ว”นายภัณฑิล กล่าว และว่า ส่วนที่จอดรถมีดำริสร้างเพิ่มบริเวณใต้ดิน สนามหญ้าหน้าอาคารรัฐสภา ซึ่งผ่านมติ ครม.ไปแล้วงบประมาณ 4,000 ล้านบาท แต่ระงับไว้อยู่ โดยเป็นการเจาะใต้ดินใหม่ ทราบว่ามีการประกวด TOR เพื่อออกแบบก่อสร้างแล้ว ซึ่งค่าออกแบบก่อสร้างใช้งบเป็น 100 ล้านบาท ก็น่าตกใจคือ งบยังไม่ถูกอนุมัติแต่จะเอางบจากเงินตกเบิก หรือเขาเรียบงบกลางฝ่ายนิติบัญญัติของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ มาออกแบบ ซึ่งเป็นงบที่ไม่ต้องผ่านสภา
“สุดท้ายแล้ว คุณออกแบบเสร็จ ก็ยังไม่ได้ทำ เป็นการผลาญเงินทิ้ง ทั้งที่ต้องสรุปให้ได้ว่าจะทำหรือไม่ทำ ตามกระบวนการ เพราะเป็นเงินเราเอง เราสร้างบ้านเราเอง ถ้ายังสรุปไม่ได้ ยังไม่มีงบสร้าง จะไปเสียเงินออกแบบทำไม เป็นเรื่องประหลาด อีกทั้ง อนาคตจะมีรถไฟฟ้ามาจ่ออยู่ข้างหน้า อยากให้ส่งเสริมใช้ขนส่งสาธารณะมากขึ้น หรือขอความร่วมมือใช้พื้นที่จอดรถหน่วยงานข้างๆก็แก้ปัญหาบางส่วนได้ แต่ไม่ทำ เลือกที่จะสร้าง เอะอะก็สร้างเพิ่ม และกระบวนการตรงนี้ก็ไม่ค่อยชอบมาพากลเท่าไร” นายภัณฑิล กล่าว
ปูดสำนักฯวุฒิชง2.3ล.ให้สว.เรียนภาษาจีน
และเผยต่อว่า ส่วนกรณีสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาที่ตนระบุว่าของบประมาณให้สว.เรียนภาษาจีนเพิ่มเติม 2.3 ล้านบาทนั้น ยังเป็นเพียงคำของบ แต่ไม่ผ่านและไม่ได้รับการจัดสรร แต่มันก็แปลกที่กล้าขอ ซึ่งบางทีต้องรู้อยู่แล้วว่าไม่ควรขอ แต่เราดักทางไว้ว่างบแบบนี้ในอนาคตไม่ควรผ่าน ถ้าเป็นการขอให้เจ้าหน้าที่สภาไปเรียนยังพอเข้าใจได้ เพราะต้องใช้ในการประสานงานเป็นล่ามหรืออะไรต่างๆ แต่การให้ สว.ไปเรียน มันไม่ใช่ภารกิจของสว. ซึ่งเรื่องนี้เป็นคำงบประมาณในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 69 ซึ่งน่าจะไม่ได้รับการจัดสรร
รองปธ.สภาคนที่2แจงยิบปมของบอื้อซ่า
นายภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สองให้สัมภาษณ์ชี้แจงผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand กรณีสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ในส่วนของสภาฯ เพื่อปรับปรุงอาคารและสถานที่ภายในสภาฯ เป็นงบฯจำนวนใกล้หลักพันล้านว่า เมื่อปี 2567 สภาฯเพิ่งรับมอบการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ยังมีบางส่วนที่ยังไม่มีตามแบบแปลนเดิม จึงต้องดำเนินการเพิ่มเติม และเป็นส่วนที่สภาฯต้องใช้ประโยชน์ ดังนั้น ถือว่าจำเป็นต้องดำเนินการบางส่วน ซึ่งนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่1 เคยให้สัมภาษณ์ต้องการให้สภาฯเป็นสภาฯของประชาชน ประชาชนต้องสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ หรือเครื่องยอดชั้น11ของรัฐสภาที่เมื่อก่อนไม่ได้เปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้ารับชม
ส่วนรายละเอียดโครงการปรับปรุงรีโนเวทอาคารสถานที่ของสภาฯที่เป็นดำริของนายพิเชษฐ์ อาทิ การถมสระมรกตในสภาฯใช้งบฯ 150 ล้านบาท ยังเป็นเพียงแนวคิดของนายพิเชษฐ์ ยังไม่ได้จัดทำคำของบฯปี 69 แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพื้นที่สาธารณะประโยชน์ประมาณ 1,000 - 2,000 ตาราง ไม่ใช่นำมาโชว์ประดับเฉยๆ ควรนำอาคารเบาไปใส่เพื่อทำห้องสมุด จากเดิมห้องสมุดอยู่ชั้น9 ก็จะย้ายลงมายังบริเวณดังกล่าวให้ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย เป็นลักษณะห้องสมุด Co - Working Space อยู่ระหว่างประสานกรมโยธาธิการและผังเมือง ตรวจแบบว่าจะรองรับอาคารเบาได้หรือไม่ เพราะแปลนเดิมไม่ได้เตรียมไว้เพื่อรองรับสิ่งเหล่านี้ นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดเพิ่มพื้นที่ลานจอดรถในอนาคต รวมถึงบางโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯที่ผ่านมา อาทิ ขยายห้องตอบกระทู้แยกเฉพาะ เปิดร้านกาแฟร้านสะดวกซื้อ ที่อยู่ระหว่างดำเนินการคือ ปรับปรุงห้องร้องทุกข์ของประชาชน
รับดูแค่2โครงการปรับลดงบลงแล้ว
รองประธานสภาฯ คนที่ 2 กล่าวอีกว่า การทำคำของบฯปี 69 ของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ เพื่อปรับปรุงรีโนเวทอาคารสถานที่ภายในสภาฯ 7 โครงการ งบรวม 875 ล้านบาทนั้น ตนรับผิดชอบ 3 สำนักงานภายในที่เกี่ยวข้องกับ 2 โครงการจาก 7 โครงการดังกล่าว ได้แก่ 1.โครงการปรับปรุงพิพิธภัณฑ์รัฐสภางบฯ 120 ล้านบาท 2.โครงการปรับปรุงระบบเสียงห้องประชุม 1,500 ที่นั่ง งบฯ 99 ล้านบาท ตามแบบแปลนเดิม ระบบเสียง-ภาพไม่มี เป็นห้องโล่ง จึงจะปรับให้เป็นห้องสัมมนาขนาดใหญ่จุคนได้1,500 ที่นั่ง ไม่ต้องไปเช่าโรงแรมเพื่อจัดสัมมนา ทั้งนี้ ก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่งรองประธานสภาฯ โครงการดังกล่าวตั้งงบฯไว้ก่อนแล้ว และมีจำนวนงบฯสูงกว่านี้ พอตนมาเข้ารับตำแหน่งได้ขอดูแบบ และปรับลดงบฯลงมาเท่าที่จำเป็น
ชี้ถ้าสังคมครหาหนักสส.ตัดลดงบได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงงบฯปรับปรุงศาลาแก้วในรัฐสภา 123 ล้านบาท แบบแปลนแรกเริ่มจะให้ใช้ประโยชน์อะไร นายภราดรกล่วว่า ถ้าให้ตนจินตนาการ จะเหมือนเรือนไทย เหมือนเป็นมุกหน้าบ้าน ผู้ออกแบบคงจะออกแบบมาแบบนั้น แต่ในทางปฏิบัติแล้ว ยอมรับว่าศาลาแก้วไม่ค่อยได้ถูกนำไปใช้งาน เพราะภายในร้อนมาก ตนเคยไปอยู่ที่ศาลาแก้ว รู้ว่าอยู่ไม่ได้ เพราะอากาศร้อนมาก สำนักงานเลขาฯสภาฯจึงต้องการปรับปรุง โดยติดแอร์เพิ่มหรือไม่ตนยังไม่ทราบ
ถามว่าโครงการปรับปรุงต่างฯของสภาฯคุ้มค่าหรือไม่ นายภราดรกล่าวว่า ยังอยู่ระหว่างจัดทำคำขอเพื่อตั้งงบฯปี 2569 ตนเชื่อว่าหากสังคมวิพากษ์วิจารณ์ หรือแสดงมุมมองต่างๆออกไป มันจะเข้าสู่การพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี69ในสภาฯ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ เมื่อสส. ได้รับฟังคำวิจารณ์ดังกล่าวแล้ว เขามีอำนาจตัดลดงบฯชั้นกมธ.วิสามัญฯ ก็คงต้องไปพูดคุยในกมธ.ฯต่อไปว่า ส่วนไหนสำคัญมากน้อยเพียงใด ยังไม่สิ้นสุด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี