รัฐบาลเล็งจัดเวทีสาธารณะ
ถกเปิดกาสิโน
ขอคนกลางเป็นเจ้าภาพ
รับฟังความเห็นทุกฝ่าย
พท.โวกลุ่มต้านไม่ถึง10%
‘เทพไท’เตือนระวังรบ.พัง
“สรวงศ์” ตีปี๊บ! สส.เพื่อไทย ลงพื้นที่แจง เปิดเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ โวประชาชนเข้าใจดี ไม่มีปัญหา เย้ยกลุ่มต้าน มีไม่ถึง 10 เปอร์เซ็นต์ จ่อเปิดเวทีให้คนกลางเป็นเจ้าภาพ รัฐบาลพร้อมแลกเปลี่ยนฟังความเห็นกลุ่มต้าน ‘เทพไท’ถาม ตอบ 7 ข้อ!ฉะ‘อิ๊งค์’ดื้อตาใส ดัน กม.กาสิโน ระวังหนักกว่า‘นิรโทษกรรม’สุดซอย
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงความคืบหน้าการให้ สส.ลงพื้นที่ทำความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ. สถานบันเทิงครบวงจร หรือเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ว่าจากการลงพื้นที่ของ สส. ส่วนมากประชาชน ไม่ได้มีปัญหาอะไร โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ไม่มีอะไรที่ไม่เข้าใจ
“สิ่งหนึ่งที่น่าจะทำ คือ มีเวทีหรือว่าอะไรต่างๆให้มีการทำความเข้าใจให้มากขึ้นให้คนที่เขาคิดอีกอย่างหนึ่งกับรัฐบาลเข้ามาพูดคุยกันทำความเข้าใจกันว่า ทำไมถึงต้องมีกฎหมายนี้ เพื่อเปิดโอกาสดึงดูดนักลงทุนเข้ามา ไม่ใช่ว่ารัฐบาลจะทำบ่อนกาสิโน ต้องทำความเข้าใจร่วมกันก่อน แต่ที่ต้องมีในนั้นเพียงแค่ 10%เพื่อดึงดูดนักลงทุน ไม่ใช่ทุกคนจะเข้าไปได้ มีมาตรการป้องกันหากครอบครัวไหน ไม่อยากให้คนในครอบครัวเข้าไปเล่นสามารถยื่นโนติสได้ และมีมาตรการป้องกันการฟอกเงินที่เป็นสากลรองรับ”นายสรวงค์ กล่าว
นายสรวงค์กล่าวอีกว่า สำหรับพื้นที่ส่วนใหญ่จะมีอีเวนต์ฮอลล์ต่างๆศูนย์ประชุม ห้างสรรพสินค้า โรงแรมต่างๆ พื้นที่โดยรอบ จะได้ประโยชน์ไปด้วย เวทีที่เราอยากเห็นคือ การพูดถึงข้อดีข้อเสีย พูดคุยกันด้วยเหตุและผล ไม่ใช่ว่าฝั่งหนึ่งมีธง อีกฝั่งมีธงมาชนกัน มันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดคุย ถ้าคิดดูดีๆ สำหรับประเทศไทยเสียโอกาสไปกับเรื่องแบบนี้เยอะมาก
“อย่าปิดกั้นโอกาสของประเทศไทยอีกเลยเพราะว่าเราสู้เขาไม่ได้แล้วประเทศเพื่อนบ้านประเทศ แม้กระทั่งประเทศที่เป็นศาสนาอิสลามเขาก็มีกัน แต่เขาก็ห้ามคนของเขาเข้า เราก็ห้ามคนของเราเข้าได้ ไม่มีปัญหา” นายสรวงศ์ ระบุ
เมื่อถามว่า เวทีที่จะจัดเจ้าภาพจะเป็นภาควิชาการ หรือรัฐบาล นายสรวงศ์ กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลเป็นเจ้าภาพจะถูกมองว่าเรามีธง จึงอยากให้คนกลางจัดหรือให้นักวิชาการจัดก็ได้ รัฐบาลมีคนที่พร้อมร่วมเวทีเข้าไปชี้แจง แต่ต้องมีนักวิชาการที่เป็นกลางไม่ใช่ไบแอสไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง เพราะอยากที่จะให้แลกเปลี่ยนกันจริงๆไม่ใช่แต่ละคนมีธงมาแล้วไม่ยอม ซึ่งกันและกัน ไม่เอาแบบนั้น รัฐบาลเองก็อยากที่จะฟังเหมือนกันว่า ความคิดของพวกท่านคืออะไร ทำไมถึงไม่อยากให้มี ทำไมถึงมีไม่ได้แล้วได้ฟังหรือยังว่าข้อกำหนด หรือว่ารายละเอียดของกฎหมายมันคืออะไร ตนรับประกันได้คนที่ออกมาต่อต้าน ตนว่ามีไม่ถึง 10% ที่ได้อ่านกฎหมาย ร่างกฎหมายตัวนี้ นักวิชาการและก็แกนนำก็น่าจะได้อ่านอยู่.
ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง“โต้แย้งความเห็นของอุ๊งอิ๊ง เรื่อง กาสิโน”ระบุว่า ผมได้ติดตาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จัดรายการ“โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร”ตอนพิเศษ สร้างโอกาสในวิกฤต สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน และนักลงทุน ได้พูดถึงโครงการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร(Entertainment Complex ) ในหลายประเด็น ดูเหมือนนางสาวแพทองธาร จะมุ่งมั่นต้องการผลักดันให้เกิดผลสำเร็จให้ได้ โดยมีการพูดถึงข้อดีของสถานบันเทิงครบวงจรมากมาย
นายเทพไทระบุว่า ผมจะขออนุญาตให้คำตอบ และ โต้แย้งความเห็นของนางสาวแพทองธาร ดังนี้
1.นางสาวแพทองธาร กล่าวถึงประเด็นการจัดทำสถานที่ท่องเที่ยวขนาดใหญ่ที่ไม่ต้องสนใจเรื่องโลว์ซีซันนั้น ว่า โครงการสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เงินที่เข้ามาลงทุนในโครงการนี้ ไม่ใช่เงินรัฐบาลหรือภาษีของประชาชน
คำตอบ : เพราะรัฐบาลได้ให้สัมปทานกับเอกชน มาลงทุนในธุรกิจที่เป็นแหล่งอบายมุขเพื่อหวังผลกำไร ซึ่งใครๆก็อยากลงทุน ไม่จำเป็นต้องใช้เงินของรัฐ
2.การอ้างว่าเป็นเงินทุนจากภาคเอกชนและนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งการลงทุนเหล่านี้จะทำให้รัฐสามารถเก็บภาษีได้เพิ่ม โดยรายได้จากภาษีจะมาจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นภายในโครงการ รวมถึงการใช้บริการในกาสิโนด้วย
คำตอบ : รัฐบาลหวังผลรายได้จากการเก็บภาษีเข้ารัฐ โดยไม่สนใจปัญหาทางสังคมที่จะเกิดขึ้นตามมา เมื่อประเมินผลแล้ว ไม่คุ้มกับความเสียหายทางสังคมที่เกิดขึ้นต่อคนในชาติ
3.การสร้าง Entertainment Complex รัฐบาลจะทำตามโมเดลของสิงคโปร์ ซึ่งเป็นแนวทางที่ประเทศอย่างญี่ปุ่นและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ก็ได้นำรูปแบบไปปรับใช้เช่นกัน รัฐบาลไม่ต้องการให้โครงการนี้ถูกมองว่าเป็นเพียงกาสิโนเท่านั้น
คำตอบ : ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด มีความโปร่งใสสูงสุดในเอเซีย ซึ่งต่างกับประเทศไทย ที่มีปัญหาการบังคับใช้กฎหมาย และปัญหาทุจริตคอรัปชั่นมากที่สุด
4.ต้องการพัฒนาให้เป็นพื้นที่สำหรับจัดงานอีเวนต์ สถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่ม (Indoor) และโรงแรม เพราะปัจจุบันประเทศไทยยังขาดสถานที่จัดคอนเสิร์ตในร่มที่มีคุณภาพและสามารถรองรับผู้ชมจำนวนมากได้
คำตอบ : ถ้าหากภาคเอกชนไม่ลงทุนรัฐบาลก็สามารถลงทุนได้ เมื่อลงทุนแล้วเปิดให้ภาคเอกชนเข้ามาบริหาร เหมือนกับโครงการรถไฟฟ้าและทางด่วน
5.การเปิดบ่อนกาสิโน จะดำเนินการภายใต้มาตรฐานสากล ต้องเป็น ‘การพนันอย่างมีความรับผิดชอบ’ (Responsible Gambling) ซึ่งจะมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน ระบบตรวจสอบประวัติผู้เล่นอย่างเข้มงวด รวมถึงตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
คำตอบ : การพนันอย่างมีความรับผิดชอบ สามารถเกิดขึ้นได้ในหมู่คนไทยหรือไม่เพราะพื้นฐานของคนไทยขาดระเบียบวินัย และขาดความรับผิดชอบต่อสังคม ใช้ระบบเส้นสายจนไม่สามารถตรวจสอบประวัติได้
6.Entertainment Complex สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชนในประเทศ “ประเทศที่พัฒนาในหลายประเทศ ได้ปรับตัวเข้าสู่เทรนด์การสร้าง ‘Man-made Destination’ เช่น งาน World Expo จัดขึ้นที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งหลังจบงานก็จะถูกพัฒนาให้กลายเป็น Entertainment Complex ในอนาคต หากประเทศไทยมีโครงการลักษณะนี้ ก็จะเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับประชาชนในประเทศ และช่วยผลักดันเศรษฐกิจให้ขับเคลื่อนได้ตลอดทั้งปี”
คำตอบ : รัฐบาลสามารถสร้างโครงการทางเศรษฐกิจแบบเม็กกะโปรเจ็คได้ เป็นการสร้างงานให้ประชาชนได้เช่นเดียวกัน โดยไม่จำเป็นต้องมีเรื่องการเปิดบ่อนกาสิโนมาเกี่ยวข้อง
7.นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ถ้าโครงการสร้างสถานบันเทิงครบวงจร ที่มีบ่อนกาสิโนรวมอยู่ด้วย ไม่สามารถผลักดันให้เป็นผลสำเร็จได้ ไม่อยากจะมานั่งเสียดายทีหลังว่า ประเทศไทยช้าไปแล้ว
คำตอบ : ประเทศไทยเป็นของคนไทยทุกคนไม่ใช่เป็นของตระกูลชินวัตรเพียงตระกูลเดียวการกำหนดอนาคตของประเทศไทยในเรื่องเปิดบอลคาสิโนต้องเป็นความเห็นพ้องของคนไทยทั้งประเทศถ้ารัฐบาลต้องการคำตอบที่แท้จริงก็ควรจะจัดทำประชามติในเรื่องนี้
“ผมเห็นว่าทั้งนางสาวแพทองธารและนายทักษิณ ต้องการที่จะผลักดันโครงการเอนเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ให้สำเร็จให้ได้ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านจากประชาชนทั่วประเทศ และพรรคร่วมรัฐบาลบางพรรค แต่ด้วยความเป็นคนที่มีอีโก้สูง ดื้อตาใส จึงไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆ ให้รอดูว่าพลังต่อต้านการเปิดบ่อนกาสิโน จะมากกว่าการต่อต้านพรบ.นิรโทษกรรมสุดซอยเสียอีก”นายเทพไท ย้ำทิ้งท้าย
วันเดียวกัน นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรอง ผอ.สำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า สติปัญญามีแค่นี้ ในขณะที่ประเทศเผชิญปัญหาเศรษฐกิจ ตลาดเงียบสนิท มีแต่คนขาย ไม่มีคนซื้อ จีดีพีของไทยต่ำเตี้ยติดดิน ต่ำกว่าลาว ไหนจะเจอกำแพงภาษีจากสหรัฐ แจกเงินหมื่นไม่เกิดพายุหมุน
“แทนที่จะคิดแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้เดินหน้า นายกรัฐมนตรีคิดได้อย่างเดียว แผ่นเสียงตกร่อง กาสิโน เป็นประโยชน์ยิ่งของประเทศ หรือของใครก็ไม่รู้ จะเอาให้ได้ กว่าจะสร้างเสร็จ คนไทยตายเรียบ เดี๋ยวนี้ เวลานี้ คนกำลังจะจมน้ำตาย มันรอไม่ได้แล้ว ทำไม่เป็น ลาออกไปเถอะ”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี