ส่งจม.เปิดผนึกถึง‘อิ๊งค์’
เสนอ‘ไทยพุทธ-มุสลิม’พูดคุยดับไฟใต้
“พรรคประชาชน” ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง “รัฐบาลอิ๊งค์” เร่งพูดคุยสันติภาพชายแดนใต้ แนะดึง “ไทยพุทธ-มุสลิม” เข้ามามีส่วนร่วมแก้ไขปัญหาความขัดแย้งเชื่อแนวทางสันติเป็นวิธีเดียวที่จะนำไปสู่สันติภาพระยะยาว ส่วน “พรรคเพื่อไทย”ออกแถลงประณามเหตุรุนแรงชายแดนใต้ ย้ำต้องเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจพรรคประชาชน-People’s Partyโพสต์ข้อความระบุว่า เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างน่ากังวลอีกครั้งนับตั้งแต่ต้นปี 2568 โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา สถานการณ์เลวร้ายลงอย่างมากจากการปรากฏรูปแบบการก่อเหตุที่พุ่งเป้าไปยังพลเรือนผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นนักบวช ประชาชนทั่วไป หรือประชาชนกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก คนชรา ผู้พิการโดยเริ่มมาตั้งแต่การลอบยิงอดีตอุสตาซ หรือ ครูสอนศาสนาอิสลามเสียชีวิตขณะกลับจากการละหมาดเมื่อวันที่18 เม.ย.,การลอบยิงสามเณรจนบาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 22 เม.ย.,การกราดยิงลูกกับแม่ที่พิการทางสายตาจนเสียชีวิต และการกราดยิงผู้สูงอายุกับเด็กจนบาดเจ็บและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 2 พ.ค.และล่าสุดเกิดเหตุยิงพลเรือนชายเสียชีวิตอีก1 คน ที่ อ.ยะหริ่ง ปัตตานี เมื่อคืนวันที่ 4 พ.ค. เหตุการณ์ทั้งหมดนี้นำมาซึ่งความเศร้าโศกเสียใจและความโกรธแค้นของผู้คน ทั้งในชุมชนชาวพุทธและมุสลิมในพื้นที่ รวมถึงคนไทยทั้งประเทศ
ความรุนแรงระลอกล่าสุดนี้ สั่นคลอนความรู้สึกและความเชื่อมั่นต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในพื้นที่ชายแดนใต้อย่างรุนแรง ประชาชนทุกศาสนิกต่างตกอยู่ในความหวาดระแวง ซึ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งอยู่ในภาวะเปราะบางและสุ่มเสี่ยงที่จะเลวร้ายลงมากที่สุดในรอบหลายปี
ในสภาวการณ์เช่นนี้ พรรคประชาชนขอสื่อสารไปยังทุกคน ถึงอันตรายของการใช้ความรุนแรง และย้ำเตือนถึงความสำคัญในการใช้แนวทางสันติเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในพื้นที่ชายแดนใต้ ซึ่งเราเชื่อว่า เป็นวิธีเดียวที่จะนำไปสู่สันติภาพระยะยาวที่ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้โดยปราศจากความกลัวและความเกลียดชังระหว่างกัน
ถึงขบวนการที่คิดว่ากำลังต่อสู้เพื่อพี่น้องมลายูมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร องค์กรไหน การสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์นั้น นอกจากจะขัดต่อทั้งหลักศาสนา หลักกฎหมาย และหลักการมนุษยธรรมระหว่างประเทศแล้ว ยังส่งผลกระทบร้ายแรงต่อการสร้างสันติภาพและชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีของพี่น้องในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ความรุนแรงต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์มีแต่จะสร้างความเกลียดชังและเพิ่มอคติที่มีต่อพี่น้องมลายูมุสลิม ความรุนแรงต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์มีแต่จะสร้างความโกรธแค้นไปบดบังความเข้าอกเข้าใจในความอยุติธรรมที่พี่น้องมลายูมุสลิมถูกกระทำ ความรุนแรงต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์มีแต่จะผลักให้สังคมโหยหาการตอบโต้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันจนไม่สิ้นสุด ความรุนแรงต่อพลเรือนผู้บริสุทธิ์มีแต่จะบ่อนทำลายความชอบธรรมทางการเมืองของการต่อสู้ ลดทอนคุณค่าอุดมการณ์ที่ใช้กล่าวอ้างกันมาโดยตลอด
พรรคประชาชน เรียกร้องให้หยุดการสังหารพลเรือนผู้บริสุทธิ์โดยทันที และการยุติความรุนแรงดังกล่าวจะเป็นเงื่อนไขสำคัญต่อการพูดคุยเพื่อสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขบวนการต่อสู้ต้องมีความรับผิดชอบทางการเมืองมากกว่านี้ และต้องแสดงออกให้ทุกฝ่ายเชื่อมั่นว่าพร้อมจะใช้กระบวนการทางการเมืองในการแก้ปัญหา มิใช่ใช้กำลังอาวุธ
ถึงรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร ประสบการณ์ที่ผ่านมาแสดงให้เห็นชัดว่า ในช่วงที่กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพมีความคืบหน้าและมีทิศทางที่ชัดเจน สถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ลดลงได้อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น รัฐบาลต้องตระหนักว่าปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความรุนแรงกลับมาปะทุขึ้นอีกในระลอกล่าสุด เกิดจากความไม่ชัดเจนในยุทธศาสตร์ของรัฐบาล ว่าจะมีแนวทางในการสร้างความยุติธรรม นิติรัฐ และสันติภาพในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไร โดยเฉพาะการปล่อยให้กระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพหยุดชะงักมานานเกือบ 1 ปีโดยไร้ทิศทาง
ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลควรกลับมาสานต่อกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพโดยเร็ว และในกระบวนการนั้นต้องฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากความรุนแรงของทุกฝ่ายด้วย โดยจัดเวทีคู่ขนาน ทำให้พี่น้องทั้งชาวพุทธและมุสลิมมีส่วนร่วมและเป็นเจ้าของกระบวนการสันติภาพนี้ไปด้วยกัน
พรรคประชาชนเห็นว่า ในกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติภาพในอนาคต ต้องมีองค์ประกอบส่วนหนึ่งจากผู้ที่มีบทบาทและอำนาจในการสั่งหยุดความรุนแรงในพื้นที่ได้จริงเข้าร่วมด้วย เพื่อประสิทธิภาพในการเจรจา และเพื่อสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน
ถึงพี่น้องประชาชนที่เคารพ ความรุนแรงที่เรากำลังเผชิญอยู่นี้เป็นผลจากความขัดแย้งที่สลับซับซ้อนและยืดเยื้อมาเป็นเวลาหลายปี เกิดความสูญเสีย เจ็บปวด ล้มตาย กับพี่น้องประชาชนทุกศาสนา ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธหรือมุสลิม
เราทุกคนเจ็บปวดต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น แต่เราก็ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้สังคมตกหล่มอยู่ในวังวนของความรุนแรง เป้าหมายของความรุนแรงคือการสร้างความหวาดกลัวและความโกรธเกลียด แต่พวกเราอย่าลืมว่าความหวาดกลัวและความโกรธเกลียดที่นำไปสู่การเรียกร้องให้ใช้ความรุนแรงตอบโต้กันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟันนั้น ไม่สามารถสร้างสันติภาพได้ บทเรียนที่ผ่านมา ทั้งในและต่างประเทศ ล้วนบอกเราว่า ไฟไม่สามารถดับไฟได้ การตอบโต้อย่างรุนแรงมีแต่จะทำให้ความรุนแรงบานปลายขยายตัวจนยากจะกลับสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสันติในอนาคต นี่จึงเป็นห้วงเวลาที่พวกเราต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์อย่างมีสติ และต้องช่วยกันผลักดันให้ทุกฝ่ายแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้วยกระบวนการทางการเมือง เพื่อสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนในอนาคต
ด้านพรรคเพื่อไทย โพสต์แถลงการณ์สภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ประณามเหตุรุนแรงภาคใต้โดยระบุว่า สมช. ประณามเหตุรุนแรงชายแดนใต้เป็นการกระทำที่ไร้อารยะ บั่นทอนบรรยากาศแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจ พร้อมให้คำมั่นว่าภาครัฐจะทำงานอย่างเต็มที่ เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 2568 สมช. ออกแถลงการณ์ประณามการก่อเหตุต่อผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมีข้อความระบุว่า ตามที่ได้ปรากฏเหตุความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในห้วงที่ผ่านมา ซึ่งได้ก่อให้เกิดความสูญเสียต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยเฉพาะเด็ก สตรี และผู้สูงอายุนั้น สมช.ในฐานะหน่วยงานนโยบายในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของรัฐบาล ขอประณามการกระทำที่ไร้อารยะดังกล่าว ซึ่งถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน กฎหมาย และบรรทัดฐานระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงและปราศจากซึ่งความรับผิดชอบต่อเพื่อนมนุษย์อย่างสิ้นเชิง ซึ่งล้วนแต่บั่นทอนบรรยากาศแห่งความไว้เนื้อเชื่อใจ รวมทั้งแสดงถึงความไม่จริงใจอันเป็นอุปสรรคต่อการสร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สมช.ขอส่งสารฉบับนี้ ไปถึงกลุ่มขบวนการและผู้ก่อเหตุรุนแรงให้ยุติการก่อเหตุร้ายที่ปราศจากความรับผิดชอบนี้ในทันที พร้อมทั้งขอยืนยันว่าการก่อเหตุต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ จะไม่มีทางช่วยให้การแสวงหาทางออกทางการเมืองเกิดขึ้นได้เลย
วันเดียวกัน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เดินทางไปที่หน่วยเฉพาะกิจจังหวัดนราธิวาส ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส เพื่อติดตามสถานการณ์และหารือการแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ โดยมี เจ้าหน้าที่ ฝ่ายความมั่นคงทั้ง 3 ฝ่าย ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมประชุม
จากนั้น พ.ต.อ.ทวี ได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ที่ รพ.นราธิวาสราชนครินทร์ ก่อนที่ช่วงบ่ายจะไปที่วัดสิทธิสารประดิษฐ์(โคกยาง) ต.โฆษิต และวัดโคกมะม่วง ต.พร่อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อเป็นประธานในพิธีฌาปณกิจศพ นายแดง ตุนาสุข นายดำ จันทร์คง และด.ญ.สสิตา จันทร์คง ผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงในบ้านพัก ม.5 ต.โฆษิต อ.ตากใบ เมื่อวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี