"กมธ.ศึกษาสถานบันเทิงครบวงจร สว."เคาะเชิญ"นายกฯอิ๊งค์"แจงปมร้อน"กาสิโน" ยันไม่บังคับ แต่อยากให้มาด้วยตัวเอง พ่วงชงข้อเสนอเชิญ"อดีตนายกฯ-อดีตประธานสภาฯ"ให้ข้อมูลด้วย เผยมติตั้ง 2 อนุฯ ศึกษาผลกระทบ 3 ทาง"เศรษฐกิจ-สังคม-กฎหมาย"
เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) วุฒิสภา ที่มี นายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธาน กมธ.ฯ เป็นประธานการประชุม พิจารณาวางกรอบแนวทาง รวมถึงการตั้งคณะอนุ กมธ.ฯ
โดยได้มีการหารือถึง 3 หัวข้อหลักในการศึกษา คือ สังคม เศรษฐกิจ และกฎหมาย รวมถึงนิยามคำว่า "สถานบันเทิงครบวงจร" เนื่องจากมีการเสนอว่า อยากให้ใช้คำตรงๆ เพราะจะสามารถสื่อความหมายได้มากกว่า ตลอดจนการเพิ่มคำว่า "การพนัน" ที่หมายรวมถึงการพนันทุกชนิด และการพนันออนไลน์ เข้าไปด้วย เช่น เสนอให้ใช้ "สถานบันเทิงครบวงจรที่มีบ่อนกาสิโน หรือ การพนันทุกรูปแบบ รวมทั้งการพนันออนไลน์" ให้ใช้ชื่อ "สถานบันเทิงครบวงจรที่มีบ่อนกาสิโน" สั้นๆ แล้วจึงเติมรายละเอียดในบทนำเพิ่มแทน , ให้เขียนเพิ่มความหมายไว้ในนิยามศัพท์ ว่าจะหมายรวมถึงการพนันทุกรูปแบบ ดังนั้น จึงใช้คำว่า "สถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์" ซึ่งสอดรับตามร่างกฎหมายของรัฐบาล และหากเกิดกรณีต้องมีการทำประชามติ จะได้ป้องกันการเกิดความสับสนในการตอบคำถาม
สำหรับการถกเถียงเรื่องข้อกฎหมาย ในช่วงแรกมีการเสนอให้แยกออกมา เป็นอีกหนึ่งคณะอนุกรรมาธิการ เพื่อศึกษากฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง อาทิ การขายสุรานอกเวลา พระราชบัญญัติโรงแรม การจัดโซนนิ่ง รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายการพนันเดิม และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่ที่ประชุมไม่เห็นด้วยให้มีการแยก เนื่องจากกังวลว่า อาจทำให้ลดทอนความสำคัญเรื่องกาสิโนไป
นอกจากนี้ ยังมีการเสนอเรื่องอื่นๆ เพิ่มเติมในหมวดของผลกระทบทางด้านสังคมและกฎหมาย และอาจมีฝ่ายการเมืองที่คุมเสียงในสภา สามารถล้มกฎหมายของได้ แต่ไม่สามารถล้มรัฐธรรมนูญ จึงอยากให้คำนึงถึงเรื่องนี้ด้วย
สุดท้ายที่ประชุม มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการจำนวน 2 คณะ ดังนี้ 1.คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาผลกระทบทางสังคมและกฎหมายของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์ (รวมถึงสิ่งแวดล้อม การผังเมือง ประเด็นเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ และการทำประชาพิจารณ์ ตามมาตรา 77) ซึ่งมี นายนิพนธ์ เอกวานิช สว.เป็นประธานอนุฯ และ 2.คณะอนุกรรมาธิการวิสามัญ ศึกษาผลกระทบทางเศรฐกิจของการมีสถานบันเทิงครบวงจรที่มีกาสิโนและพนันออนไลน์ ซึ่งมี นายสรชาติ วิชย สุวรรณพรหม สว.เป็นประธานอนุฯ
ทั้งนี้ ระหว่างการประชุม ยังมีการยืนยันถึงเรื่องความเป็นกลาง อย่าพิจารณาโดยมีธงในใจ นำเสนอในภาพรวม เมื่อการศึกษาครบถ้วนรอบด้านแล้ว สว.ทั้งหมด จะได้นำมาชั่งตวงวัด และส่งไปยังรัฐบาล เพื่อให้เกิดการยอมรับ รวมถึงจะได้สามารถตอบกับประชาชนได้ ป้องกันการถูกถามกลับ ว่าถ้าไม่เอาแล้วจะมาศึกษากันทำไม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามกรอบเวลาเดิม 180 วัน ที่ประชุมมีความเห็นว่า อยากให้เร่งรัดจัดทำร่างรายงานให้เสร็จก่อนสิ้นเดือนกรกฎาคม เนื่องจากจะมีการเปิดสมัยประชุมในต้นเดือนกรกฎาคม จึงกังวลว่า ทางรัฐบาลอาจจะเสนอกฎหมายเข้ามาก่อน
ต่อมาภายหลังการประชุมฯ แล้วเสร็จ นายวีระพันธ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าข้อถกเถียงเรื่องการเพิ่มนิยามคำว่า "สถานบันเทิงครบวงจร" และมองว่าดี ที่มีความเห็นหลากหลาย ดังนั้น จึงต้องล้างความเห็นส่วนตัวทั้งหมด ต้องเป็นกลางที่สุด เพื่อรับฟังความเห็นทุกด้าน ตลอดจนการหารือเรื่องการทำประชาพิจารณ์ แต่ยังไม่มีการกำหนดว่า จะมีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
นายวีระพันธ์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมครั้งหน้า กมธ.ฯ จะเชิญคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเฉพาะ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ซึ่งตนอยากให้นายกฯ มาเอง ยืนยันว่าไม่ได้บังคับ เพียงแต่เชิญไปตามระเบียบ ส่วนนายกรัฐมนตรีจะมอบหมายให้รัฐมนตรีท่านใดมาชี้แจงแทนก็ได้ นอกจากนี้ ยังมีการเสนอให้มีการเชิญอดีตนายกรัฐมนตรี เช่น นายทักษิณ ชินวัตร , นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ , นายชวน หลีกภัย , นายเศรษฐา ทวีสิน , นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และอดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร อาทิ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ และนายอาทิตย์ อุไรรัตน์ เป็นต้น
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี