“บางทีให้สัมภาษณ์ไม่ชัดเจนหรือพูดอะไรออกไปไม่ได้ ต้องขอทำความเข้าใจกับประชาชนว่าสมมุติเรากำลังดีลอยู่ อย่างที่คนไทยชอบพูดว่าดีลลับ อันนี้ประมาณนั้นก็ได้ เหมือนว่าคุยเรื่องดีเทลอยู่ว่าดีลลับทำอะไรได้บ้าง ยืดหยุ่นอะไรได้บ้าง อันนี้ไม่สามารถเปิดเผยได้ ไม่อย่างนั้นประเทศอื่นเขาได้ยินหมด สหรัฐมีทุกประเทศทั่วโลกมาต่อรองา ถ้าเขาเปิดเผยหรือเฉลยว่าประเทศนั้นประเทศนี้จะทำอะไรได้บ้าง เกิดความวุ่นวายแน่”
คำชี้แจงของนายกรัฐมนตรี “แพทองธาร ชินวัตร” ในรายการ “โอกาสไทยกับนายกแพทองธาร” ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT เมื่อต้นเตือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ถึงความคืบหน้าการเตรียมรับมือนโยบายขึ้นภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ที่ประธานาธิบดีโดนัลป์ ทรัมป์ประกาศ
และย้ำด้วยว่า “การเจรจาลับ” ทุกประเทศรวมถึงไทยดำเนินการแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย!!! ความเร็วไม่ใช่ตัวกำหนด แต่ความแม่นยำในการต่อรองสำคัญกว่า ยืนยันเราไม่หลุดกรอบ ขอให้ประชาชนสบายใจ การเจรจาไม่เป็นทางการมีต่อเนื่อง อัพเดตข้อมูลกับรมว.คลังตลอด รัฐบาลเตรียมพร้อมอย่างหนัก จนถึงวันที่เราได้เจรจาแน่ชัด
หลังการชี้แจงวันนั้นถึงปัจจุบัน ประเด็นนี้กลายเป็นควันจางๆไปจากหน้าสื่อ เพราะไม่มีใครหรือรัฐมนตรีคนไหนเปิดปากพูดอะไร ที่น่าวิตกน่ากังวลอีกประการคือ ท่าทีของ รมว.ต่างประเทศ ซึ่ง “เงียบ” ผิดปกติ สงสัยจะลับสุดยอดจริง!!!
เชื่อว่า ท่าทีดังกล่าวของนายกฯเพิ่มความไม่สบายใจให้สังคมไม่น้อย ที่ฟังแล้วก็ยังไม่ได้รู้รายละเอียดการแก้ปัญหาปมร้อนดังกล่าวว่าจะรับมือหรือแก้ปัญหาอย่างไร ลึกไปกว่านั้น คนส่วนใหญ่คง “หวั่นผวาและเป็นห่วง” เนื้อหาสาระในการ “เจรจาต่อรองทางลับ” ที่ผู้นำกำลังดำเนินการ ผลประโยชน์จะตกกับประเทศทั้งหมดหรือไม่? รักษาผลประโยชน์ได้มากน้อยแค่ไหน หรือเราจะเสียประโยชน์แลกอะไรเพิ่มอีกหรือไม่ เพราะตั้งแต่ประธานาธิบดีทรัปม์ประกาศ ประชาชนคงอยากให้รัฐบาลเปิดฉากรุกขอเจรจาโดยตรงให้เร็วที่สุด
ล่าสุด เห็น สส.พรรคประชาชน “จุลพงศ์ อยู่เกษ” ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการการพาณิชย์และทรัพย์สินทางปัญญา สภาผู้แทนราษฎร และรองประธานคณะกรรมการธิการการต่างประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มองการแถลงของนายกฯไม่ได้ให้ข้อมูลอะไรเป็นแก่นสาร ทั้งที่ความจริง ประชาชนน่าจะมีสิทธิ์รับรู้ว่านโยบายภาษีทรัมป์จะส่งให้เกิดวิกฤติเศรษฐกิจต่อประเทศ กระทบปากท้องตัวเองอย่างไร
ที่สำคัญยังเป็นห่วงการดำเนินการของรัฐบาลจะทันระยะเวลาผ่อนผันการบังคับใช้ภาษีนำเข้าใหม่ของสหรัฐฯ กับประเทศไทย ซึ่งจะครบกำหนด 90 วันวันที่ 1 กรกฎาคมนี้หรือไม่ พร้อมเรียกร้องให้รัฐบาลนำเรื่องนี้มาเป็นวาระเร่งด่วน!!!
นอกจากนี้ จะยื่นหนังสือถึงประธาน กมธ.พาณิชย์ และประธานกมธ.ต่างประเทศ ให้เรียกประชุมกมธ.สองคณะแบบลับ โดยเชิญ 3 รัฐมนตรีสำคัญคือ “รมว.คลัง - รมว.พาณิชย์ และรมว.ต่างประเทศ” มาชี้แจงถึงการเตรียมการแก้รับมือด้วย
อันที่จริง ถ้ารัฐบาลหรือนายกฯ แย้มพรายข้อมูลบ้างสักนิดก็ไม่เสียหาย การปิดปากสนิท ย้ำแต่เป็นการเจรจาต่อรองทางลับ ไม่อยากให้ใครถาม สิ่งสะท้อนกลับมาคือ ความกังขาของคนทั้งประเทศ โดยเฉพาะในความสามารถของตัวผู้นำ ซึ่งก่อนหน้านี้มีสะสมมากมายหลายเรื่อง สำคัญไปกว่านั้น ยังสั่นคลอนความเชื่อมั่นของรัฐบาลขึ้นไปอีก!!!
อีกมุมถ้าพยายามทำความเข้าใจจากถ้อยคำของนายกฯ เหมือนจะบอกกลายๆหรือไม่ว่า “ดีลลับ” เป็นกลยุทธ์ของรัฐบาลชุดนี้ ที่หลายประเทศทำเหมือนกัน แต่ไม่มีใครส่งเสียงบอกใคร ประมาณจะ “ลับ ลวง พราง” คู่แข่ง เพื่อผลประโยชน์ที่ “วิน วิน”ทั้งสองฝ่ายหรือไม่
ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็หวังว่า “ดีลลับ” ที่นายกฯแพทองธาร จะทำให้ไทยถือไพ่เหนือประเทศอื่น และสามารถทำให้ “ทรัมป์” ผู้นำสหรัฐยอมลดกำแพงภาษีให้กับไทยลงในระดับที่เราไม่เดือดร้อน หรือ “วิน วิน” อย่างที่ว่าจริง!!!
ขออย่าให้ “ดีลลับ” มา “ลวง พราง” คนไทย สังคมไทย หรือตัวนายกฯ ซะเอง!
ทีมข่าวแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี