วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
‘เสรีพิศุทธ์-จตุพร’ตามบี้ป่วยทิพย์ชั้น14 จี้จับ ‘แม้ว’กลับคุก

‘เสรีพิศุทธ์-จตุพร’ตามบี้ป่วยทิพย์ชั้น14 จี้จับ ‘แม้ว’กลับคุก

วันเสาร์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.
Tag : เสรีพิศุทธ์ จตุพร ป่วยทิพย์ ชั้น14 แม้ว
  •  

‘เสรีพิศุทธ์-จตุพร’ตามบี้ป่วยทิพย์ชั้น14

จี้จับ‘แม้ว’กลับคุก

นับหนึ่งใหม่รับโทษในคุก

ชี้มติแพทยสภาดิ้นไม่หลุด

ย้ำจบแล้วอย่าปากกล้าขาสั่น

นายกฯอิ๊งค์อ้ำอึ้งพูดไม่ออก

“เสรีพิศุทธ์” ลั่น เทวดาทักษิณ หมดทางเลี่ยงแล้ว หลังผลแพทยสภาชัด ไม่ได้ป่วยจริง ศาล-ป.ป.ช.ไม่ต้องไต่สวนต่อ ยัดกลับเข้าคุกได้เลย ฟันธงแม้วร่วง อุ๊งอิ๊งค์ก็ร่วง แนะประกาศยุบสภาฯ เผ่นตั้งหลัก ตปท. ก่อนเข้าเรือนจำเหมือนพ่อ เชื่อหมดแล้วตระกูลนี้ทำเกินไปต้องรับกรรม ด้าน“จตุพร”เตือนแม้วซ้ำ อย่าปากกล้าขาสั่นเพราะสู้ลำบากแนะให้เข้าไปอยู่ในคุ ขณะที่”อุ๊งอิ๊งค์”อ้ำอึ้งพูดไม่ออก ฝ่าย รมว.สาธารณสุขวอน อย่าชี้นำสังคมว่าจะยับยั้งมติแพทย์สภา ระบุยังมีเวลาตัดสินใจอีก 15 วัน

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย กล่าวถึงกรณีที่แพทยสภา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน โดยเป็นการว่ากล่าวตักเตือน 1 คน ในกรณีประกอบวิชาชีพและเวชกรรมที่ไม่ได้มาตรฐาน เกี่ยวกับการออกใบส่งตัว และพักใช้ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรม 2 คน ในกรณีให้ข้อมูลหรือเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับความเป็นจริง กรณีการป่วยทิพย์ ของนายทักษิณ ชินวัตร ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย ว่า ชี้ให้เห็นว่าเป็นการให้ความเห็นแพทย์ที่เป็นเท็จ ส่วนไม่มีหลักฐานประจักษ์ว่ามีภาวะวิกฤติ แสดงว่านายทักษิณไม่ได้เจ็บป่วย อย่างที่ตนเคยพูดว่าเคยไปพบนายทักษิณไม่ได้ใส่ชุดคนป่วยที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 แค่ใส่เสื้อเชิ้ต กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ นั่งพูดคุยกันตนเป็นชั่วโมง โดยไม่มีอุปกรณ์ช่วยพยุงร่างกายใดทั้งสิ้น


จี้จับแม้วเข้าคุกนับหนึ่งใหม่

ส่วนความเห็นแพทยสภา ต้องส่งให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษแห่งแพทยสภา ความเห็นชอบกับมตินั้น ตนมองว่า กรณีนี้นายสมศักดิ์ ไม่สามารถโต้แย้งได้ ในกรณีที่เป็นความจริงหรือเป็นความผิดแต่สามารถโต้ได้แค่โทษว่าจะถูกพักใบอนุญาตนานเท่าไหร่ แต่ส่วนตัวมองว่ากรณีนี้เป็นการผิดวินัยร้ายแรงต้องไล่ออกไม่ใช่แค่การตักเตือนและพักใบอนุญาตเท่านั้น

เมื่อมีความเห็นออกมาแล้ว ศาลได้สั่งให้อัยการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รวมถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ และนายทักษิณ ชี้แจงข้อเท็จจริงภายใน 30 พฤษภาคม โดยแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจ จะต้องรายงานความผิดของแพทย์เข้าไปด้วย

ทั้งนี้ มองว่าศาลอาจจะมีการตั้งประเด็นว่าการส่งตัวนายทักษิณไปรักษาตัวที่ชั้น 14 มีการขออนุญาตศาลหรือไม่ หากไม่มีการขออนุญาตแสดงว่าขัดต่อมาตรา 246 กรณีการทุเลาบังคับคดีและชะลอการลงโทษไว้ก่อน ก็ถือว่าเป็นการละเมิดอำนาจศาล หากยังไม่ได้ติดคุก ก็สามารถออกหมายแดงขังได้เลย อย่างกรณีนายทักษิณ ต้องนับวันว่าขังไว้แล้วหนึ่งวันก็นับจำนวนที่เหลือและฝากขังได้เลย

เชื่อ13มิย.แม้วโดนน็อคนับ10

ส่วน ที่ ป.ป.ช. พยายามจะขอเวชระเบียนที่เป็นบันทึกการรักษาตัวของนายทักษิณตั้งแต่วันแรก แต่วันนี้เวชระเบียนไม่สำคัญแล้ว เพราะแพทยสภาเรียกเอกสารมาหมดแล้ว จึงสามารถสรุปความผิดได้ เพราะฉะนั้น ป.ป.ช. ก็ไม่จำเป็นต้องรอเวชระเบียนแล้ว สามารถเรียกแพทยสภาเอาเอกสารหลักฐานมาตรวจสอบได้เลย พร้อมระบุว่า ตอนนี้นายทักษิณถือว่าถูกนับ 9 แล้ว วันที่ 13 มิถุนายน ถือว่า นับ 10 ไม่มีทางเลี่ยงแล้ว

พล.ต.อ. เสรีพิสุทธ์ ยังฝากถึงเจ้าหน้าที่ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทีก่อนหน้านี้ไม่ยอมให้ความจริงต่อเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและศาลแต่วันนี้ปรากฏความจริงแล้วว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยตามที่ตนพูดตั้งแต่ต้น มากกว่าหนึ่งปีแล้ว เพราะฉะนั้นตอนนี้ไม่มีใครช่วยได้แล้ว ไม่ว่าจะ 10 ทักษิณหรือ 100 ทักษิณก็ช่วยไม่ได้แล้ว มีทางเดียวคือการให้ความจริงต่อศาลและ ปปช. เพื่อให้กระบวนการดำเนินคดีเรื่องนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบริสุทธิ์ยุติธรรม และ การสารภาพจะช่วยลดโทษได้กึ่งหนึ่ง

เตือนลูกสมุนเทวดาโดนด้วย

นอกจากนี้ ยังระบุว่า กรณีนี้แสดงให้เห็นถึงการที่พรรคเสรีรวมไทยออกมาเป็นฝ่ายค้าน ในปัจจุบันเพราะอะไร ซึ่งนายทักษิณไม่ได้มีพฤติกรรมแค่นี้แต่ยังมีพฤติกรรมอีกมากมายที่แสวงหาประโยชน์จากประเทศมากมาย ซึ่งไม่ใช่แค่ทักษิณแต่อาจจะรวมครอบครัวไปด้วย

ทั้งนี้ กรณีนี้สามารถเป็นหลักฐานยืนยันได้จริงว่านายทักษิณไม่ได้ป่วยจริง เพราะ คุณหญิงอ้อ ซึ่งเป็น ภรรยาไม่เคยไปเยี่ยมสักครั้งเดียว ส่วนลูกก็ไปไม่กี่ครั้ง นอกนั้นไปเที่ยวต่างประเทศหมด เรื่องแค่นี้ก็สามารถเอาผิดจริยธรรมนายกรัฐมนตรีได้ รวมถึงพวกลูกสมุนที่เป็นรัฐมนตรี บอกว่า นายทักษิณป่วยและกระดูกหักถามว่าไปเห็นได้อย่างไร

ส่วนกรณีนี้จะการกระทบกับรัฐบาลอย่างไร มองว่าปกตินายทักษิณ ค้ำลูกสาวอยู่ แต่ไม่ได้ค้ำรัฐบาล คนที่ยืนหยัดก็มีที่จะไม่เอากาสิโน แต่การค้ำลูกสาวที่คิดอะไรไม่เป็น ทำอะไรไม่เป็น ชี้นำทุกอย่าง เหมือนเวลาที่นายทักษิณ ออกมาพูดแล้วรัฐบาลทำตาม ซึ่งตรงนี้เป็นพยานหลักฐานยืนยันว่า “อุ๊งอิ๊ง” อยู่ได้เพราะพ่อ หลายเรื่องไม่มีปัญญาพูด อย่างเรื่องภาษีสหรัฐอเมริกา ที่ทักษิณ ต้องเสนอตัวไปพูดแทนลูก เชื่อว่าหาก “ทักษิณร่วงอุ๊งอิ๊งก็ร่วง” แค่มีคนยื่นจริยธรรม กรณีที่เคยบอกว่าพ่อป่วยและผ่าตัดด้วย เรื่องนี้ผิดจริยธรรม เพราะฉะนั้นก็อยู่ไม่ได้

ชี้เทวดาแม้วต้องรับกรรม

ส่วนพรรคร่วมรัฐบาลทั้งภูมิใจไทยและพรรคอื่นๆ ที่มีกระแสข่าวว่าจะยึดกระทรวงมหาดไทยกลับมา กระแสข่าวแตกแยกพรรคภูมิใจไทยจะออก ก็ไปง้อพรรคพลังประชารัฐอีก เห็นได้ว่า นายทักษิณทำเพื่อตัวเองหมด ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ เพราะฉะนั้น สิ่งที่ดีที่สุดนายกรัฐมนตรี ควรประกาศยุบสภา และลาออกไปก่อนศาลจะวินิจฉัย นายทักษิณอาจจะยังไปไหนไม่ได้ เพราะต้องขออนุญาตศาลเพราะมีคดี ม.112 ติดตัวอยู่ แต่นางสาวแพทองธาร หากจะเผ่นก็เผ่น ไปตั้งหลักก่อน ไม่เช่นนั้นจะต้องไปอยู่เรือนจำเหมือนพ่อ ‘หมดแล้วตระกูลนี้ เพราะทำเกินไปต้องรับกรรมแบบนี้ ไม่พอสักที เร็วๆนี้รัฐบาลไม่รอดหรอก วันนี้จะประกาศยุบสภาก็ได้ ต้อง เก็บข้าวเก็บของ หนีไปต่างประเทศเลย แต่คงเข้าสหรัฐไม่ได้ เพราะไม่ให้เข้าประเทศ ไปดูไบได้อยู่ ที่อยู่ก็มีแล้ว หรือถ้าไม่ยุบสภาวันนี้ก็ต้องรอสิ้นคอยรอดูกัน ไม่นานนี้

จบแล้ว”ทักษิณ ชินวัตร”

นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊กรายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยเชื่อว่า กรณีชั้น 14 รพ.ตำรวจ ถือว่าจบแล้ว เมื่อแพทยสภามีมติด้วยเสียงมากๆ แสดงถึงมติเอกฉันท์ว่า ไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดถึงอาการทักษิณ ชินวัตร ได้ป่วยขั้นวิกฤต

ดังนั้น ผลตรวจสอบของแพทยสภาจึงมีมติลงโทษพักใบอนุญาตแพทย์ที่เกี่ยวข้อง 2 คนและตักเตือน 1 คน สิ่งสำคัญการพิจารณาของแพทยสภายังเป็นคนละความหมายตรงกันข้ามกับนายกฯ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร ยืนยันว่า ทักษิณ ป่วยจริงและผ่าตัดจริงด้วย

“สิ่งนี้แสดงว่า ไม่มีใครปกปิดข้อเท็จจริงหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ได้ เชื่อว่าผลการพิจารณาของแพทยสภาส่งผลต่อวันที่ 13 มิ.ย. (ศาลฎีกานักการเมืองนัดพร้อมหรือไต่สวนการบังคับตามหมายจำคุก)”

นายจตุพร กล่าวว่า ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภาคนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ว่า มติของแพทยสภามีจำนวนมาก ๆ ที่ออกเสียงลงโทษจริยธรรมของแพทย์รักษาทักษิณ ซึ่งเป็นความเห็นที่มีนัยสำคัญอย่างยิ่ง และแว่วว่า ที่ประชุมแพทยสภามีมติลงโทษมากกว่า 4 ใน 5 ดังนั้น นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข จึงควรมีความเห็นด้วยความรอบคอบเช่นกัน

อีกทั้งกล่าวว่า ขั้นตอนต่อไป ต้องเสนอผลการตรวจสอบให้ รมว.สาธารณสุข พิจารณาลงโทษตามมติแพทยสภาหรือไม่ จากนั้นนำสู่การพิจารณาของแพทยสภาอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ถ้าแพทยสภาเห็นแย้งกับ รมว.สาธารณสุข ต้องใช้เสียง 2 ใน 3 หากเห็นด้วยแล้วใช้เสียงเพียง 1 ใน 3

เผยศาลห้ามแม้วไปนอก

ส่วนศาลอาญายกคำร้องทักษิณขอไปต่างประเทศนั้น นายจตุพร กล่าวว่า ศาลพิเคราะห์ถึงการเชิญทักษิณด้วยจดหมายอิเล็กทรอนิกส์หรืออีเมล์ ให้ไปร่วมอาหารค่ำที่พระราชวังประเทศกาตาร์ ถือเป็นการเชิญส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับฐานะที่ปรึกษาส่วนตัวนายกฯ มาเลเซีย ที่เป็นประธานอาเซียน และการระบุโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ จะมาร่วมงานเลี้ยงด้วยเป็นเพียงการคาดหมาย ซึ่งไม่มีกำหนดการแน่ชัดในการเจรจาด้านเศรษฐกิจของไทย

“ประกอบกับช่วงที่ขอเดินทางไปต่างประเทศอยู่ใกล้วันนัดพิจารณาคดีที่ศาลฎีกา (นักการเมือง) และศาลอาญา คดี ม.112 อาจกระทบต่อการพิจารณาของศาลได้ จึงไม่มีเหตุหนักแน่นเพียงพอให้จำเลย (ทักษิณ ชินวัตร) เดินทางออกนอกราชอาณาจักร จึงยกคำร้อง”

นายจตุุพร กล่าวว่า ทักษิณต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งว่า จะเอาอย่างไง เพราะที่ผ่านมาการหลบหนีคดีไม่มารับโทษถึง 17 ปีและต้องการกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ จึงทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ มากมาย ซึ่งความจริงแล้วโทษจำคุก 1 ปี ติดเพียง 6 เดือนหลังจากรับพระราชทานอภัยลดโทษนั้นน้อยนิดมาก ถ้าเทียบโทษติดคุกของคนอื่นที่ร่วมกับทักษิณมา ซึ่งโทษของทักษิณ เล็กน้อยมาก

ไม่ได้ป่วยขั้นวิกฤติ

ดังนั้น เมื่อทักษิณ ไม่ติดคุกสักวันเดียว จึงทำให้เรื่องราวไปจบและกำลังใกล้มาถึงจะจบคดี ม.112 อีกคดี แม้ รมต.บางคนพยายามอธิบายว่า ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล ไม่ต้องกังวล แต่ รมต.คนพูดไม่ได้ติดคุกเองและไม่มีประสบการณ์ติดคุกด้วย ก็พูดเอาดีอย่างไรก็ได้

“ผลการตรวจสอบของแพทยสภาเป็นเหมือนหัวใจกรณีชั้น 14 เพราะเหตุราชทัณฑ์ส่งตัวทักษิณมา รพ.ตำรวจได้ต้องป่วยวิกฤต เมื่อเสียงส่วนใหญ่มากๆ ของแพทยสภาชี้ถึงภาวะไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ว่าป่วยวิกฤตแล้ว ย่อมมองถึงการต่อสู้คดีของทักษิณ เป็นเรื่องที่ยากมากและจะเป็นเหตุให้ต้องกลับไปจำคุกที่เรือนจำ”

อีกทั้งเชื่อว่า ทักษิณ คนติดคุกย่อมต้องวิตก เพราะการกลับไปเรือนจำนั้น เหตุไม่ได้ป่วยวิกฤตจะมีผลพวงตามมาอีกมาก โดยราชทัณฑ์และแพทย์ที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ ถ้าเป็นการสมคบคิดแบ่งงานกันทำย่อมเป็นขบวนการทำความผิดจึงอาจต้องรับผิดชอบ

เตรียมตัวรับวิบากกรรมได้เลย

“เรื่องราวหลังจากนี้จะมีตามมาอีกมาก ทั้งการละเมิดอำนาจศาล แจ้งความเป็นเท็จไม่ให้รับโทษทางอาญาจะเป็นคดีใหม่ยาวเหยียดเพิ่มเติมกันอีก หรืออาจมีใครไปยื่นว่า ไม่ได้เป็นไปตามพระบรมราชโองการฯ รวมทั้งมีคดี ม.112 ติดตัวอีก จึงเป็นวิบากกรรมจากนี้ไปของทักษิณ”

นายจตุพร กล่าวอีกว่า มติของแพทยสภาย่อมทำให้วงการแพทย์และกระบวนการยุติธรรมพอได้เห็นแสงสว่างกันบ้าง ดังนั้น ฝ่ายการเมืองคงคาดการณ์อนาคตกันได้ เพราะด้วยหลักวิญญูชนคิดได้ว่า นายกฯ อยู่ได้เพราะพ่อนายกฯ

ส่วนวันที่ 13 มิ.ย. นี้ ศาลฎีกานักการเมืองนัดพร้อมหรือไต่สวนนั้น หากศาลออกหมายเรียกให้ทักษิณไปศาล ถ้าทักษิณไม่ไปต้องถูกหมายจับ แล้วจะกลายเป็นอีกเรื่องซ้ำเติมมาทันที ดังนั้น หนทางข้างหน้าจึงมากด้วยอุปสรรคขวากหนาม เพราะเมื่อทักษิณได้รับโอกาสแล้ว แต่ได้ทำลายโอกาสนั้นด้วยตัวเอง

“วันนี้ (8 พ.ค.) ถือว่าจบแล้ว เมื่อไม่ป่วยวิกฤตจะไป รพ.ตำรวจ 180 วันได้ด้วยเหรอ นี่เป็นหัวใจของเรื่องที่มีความชัดเจนในข้อเท็จจริงประจักษ์ จึงชี้ถึงเจตนาเลี่ยงข้อกฎหมาย ถ้าเป็นภาษามวยถือว่า จบแล้ว สิ้นสงสัยแล้ว ดังนั้น เหลือเพียงขั้นตอนอื่นๆ เกี่ยวข้องกับคนอื่นๆ ที่ช่วยเหลือผู้กระทำความผิดไม่ให้รับโทษทางอาญา ซึ่งเป็นเรื่องรองลงไปและจะตามมาในความผิดตามข้อกฎหมาย”

นายจตุพร เชื่อว่า โดยข้อเท็จจริงแล้ว ไม่มีใครรู้เรื่องการป่วยดีไปกว่าทักษิณ และที่ใหญ่มากกว่านั้นคือ มติแพทยสภาจำนวนมากๆ แสดงถึงนัยเป็นเอกฉันท์ได้พิจารณาอย่างรอบคอบแล้ว จึงทำให้หัวใจการมาชั้น 14 รพ.ตำรวจ ถือว่าจบแล้ว

รอศาลชี้ชะตาแม้ว13มิย.

นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงมติของแพทยสภา ที่ลงโทษแพทย์ 3 คนจากกรณีการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตํารวจ ว่า คําแถลงที่สําคัญของแพทยสภาคือ นายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤตจริง ดังนั้น ถือว่านายทักษิณยังไม่ได้รับโทษตามคําพิพากษาของศาลฎีกา เพราะฉะนั้น ผู้ที่ถูกเรียกไปชี้แจงตามคำสั่งของศาล เมื่อไปยืนยันกับศาล จะยืนยันว่าป่วยวิกฤตก็ทำไม่ได้ เพราะจะมีความผิดในการให้การเท็จ เนื่องจากแพทยสภาซึ่งเป็นหน่วยงานโดยตรงได้วินิจฉัยแล้ว แม้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจะยังไม่ลงนาม แต่ก็ถือว่ามีผลไปแล้ว

นายไพบูลย์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นหลักฐานสำคัญที่สุด ที่จะทำให้การไต่สวนในวันที่ 13 มิ.ย. มีข้อยุติที่ถูกต้อง ส่วนตัวเชื่อว่าเมื่อนายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤตจริง ซึ่งขณะนี้ชัดเจนแล้ว จึงถือว่ากรมราชทัณฑ์ยังไม่ได้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาล คิดว่านายทักษิณมีปัญหาแน่

ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะมีความผิดไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมหรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ยังไม่เกี่ยวกับรัฐมนตรี เพราะการส่งไปให้รัฐมนตรีเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ เป็นเพียงกระบวนการตามกฎหมาย แต่รัฐมนตรีจะมารู้เรื่องป่วยวิกฤตดีกว่าแพทยสภาไม่ได้

“อุ๊งอิ๊งค์”ใบ้รับประทานอุบตอบ

วันเดียวกัน ที่ท้องสนามหลวง ภายหลังเสร็จสิ้นพระราชพิธี พืชมงคงจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ มณฑลพิธีทองสนามหลวง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนถึงกรณีที่ประชุมแพทยสภาประจำเดือน ครั้งที่ 5/2568 เมื่อวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา มีมติลงโทษแพทย์ 3 คน กรณีการพักรักษาตัวของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ เนื่องจากสวมชุดปกติขาวมาร่วมพระราชพิธี พืชมงคงจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ มณฑลพิธีทองสนามหลวง โดยนายกฯกล่าวเพียงสั้นๆว่า “ ชุดขาว” พร้อมหันไปถาม นพ.พรหมมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า“ชุดขาวไม่ได้ใช่หรือไม่” ก่อนยิ้มตอบรับให้สื่อมวลชนและเดินทางกลับ.

สรวงค์วอนอย่าโยงการเมือง

ในประเด็นดังกล่าว นายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ ว่า เป็นเรื่องของแพทยสภา ไม่อยากให้เอามาเกี่ยวกับการเมือง ประเด็นของนายทักษิณ ว่ากันไปตามกระบวนการ

เมื่อถามว่าหลายฝ่ายจับตาว่าเรื่องดังกล่าวจะทำให้อุณหภูมิทางการเมืองร้อนแรงขึ้นหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า จะร้อนแรงหรือไม่ร้อนแรง ขึ้นอยู่กับสื่อมวลชน ไม่มีอะไรทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำให้การทำงานของรัฐบาล สะดุดลงหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวข้องกัน รัฐบาลนี้นายกรัฐมนตรี เข้ามารับตำแหน่ง หลังจากที่นายทักษิณ ได้รับการปล่อยตัวแล้ว ส่วนกรณีที่ศาลฎีกา ยกคำร้องของนายทักษิณ ที่ขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ ไปประเทศกาตาร์ นายสรวงศ์ กล่าวว่า นายทักษิณ ใช้สิทธิ์ในการขออนุญาต แต่เมื่อศาลไม่อนุมัติก็เป็นไปตามนั้น

สมศักดิ์ยังมีเวลาอีก 15 วัน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย และเตรียมส่งให้สภานายกพิเศษ พิจารณาว่า ขณะนี้ ผลการพิจารณาของแพทยสภา ยังไม่ได้ส่งเรื่องมาถึงตน จึงยังไม่ทราบในรายละเอียดของการพิจารณา ซึ่งตามกฎหมาย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีระยะเวลาพิจารณา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับมติของแพทยสภาที่ส่งมา ดังนั้น เวลานี้ ต้องรอหนังสือที่ได้มีการลงมติส่งมาถึงก่อน จึงจะเดินหน้าพิจารณาได้

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ที่หลายฝ่ายพยายามกดดัน หรือ ชี้นำสังคมว่าตนจะยับยั้งมติแพทยสภานั้น ก็ขอให้เข้าใจกรอบข้อกฎหมายด้วย ซึ่งตนมีกรอบพิจารณา 15 วัน และยังไม่ได้เริ่มพิจารณา ดังนั้น ก็ขออย่าชี้นำสังคม เพราะตนก็ยังไม่เห็นผลการสอบสวน หรือแม้แต่รายชื่อ บุคคลทั้ง 3 ว่าเป็นใคร แต่หากเอกสารมาถึง ตนจะพิจารณาตามข้อกฎหมายอย่างเต็มที่

“ผมเข้าใจดีว่า เรื่องผลสอบแพทยสภา จะถูกนำไปเชื่อมโยงทางการเมือง ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า นักการเมืองหลายคน ก็พยายามเชื่อมโยงจนสังคมสับสน โดยผมเข้าใจบทบาทนักการเมืองที่ทำมาแบบดั่งเดิม แต่ก็ขอว่า อย่าให้ข้อมูลแบบซ้ายที ขวาที เพราะจะทำให้สังคมเข้าใจผิด ทั้งที่ผม ยังไม่ได้เริ่มพิจารณาแม้แต่น้อย ซึ่งเราต้องยึดมั่นในกระบวนการ ระเบียบ และ กฎหมาย ต้องให้เวลาผมศึกษาข้อมูลด้วย เพราะเท่าที่ผมอ่านข่าวแพทยสภา ก็ไม่มีการลงรายละเอียดเชิงลึก ดังนั้น ก็ต้องรอรายละเอียดที่จะส่งตามมาจากนี้ จึงขอสังคม อย่าเพิ่งคาดเดา หรือ ชี้นำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการ เพราะทำแบบนั้น จะถือว่า ไม่ได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย” รมว.สาธารณสุข กล่าว

พท.ไม่เคยพูดแม้วป่วยวิกฤติ

นายดนุพร ปุณณกันต์ โฆษกพรรคเพื่อไทยให้สัมภาษณ์ กรณีแพทยสภามีมติลงโทษ แพทย์ 3 รายที่เกี่ยวข้องกับอนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ หลังจากเดินทางกลับมาจากต่างประเทศโดยที่ยังไม่ได้ถูกจำคุกเลยว่า เรื่องนี้ในพรรคยังไม่มีการพูดคุยกันเลย เพราะอยู่ในช่วงของปิดสมัยประชุม ส่วนที่ในโซเชียลฯมีการออกมาแซะตนเองกรณีที่เคยแถลง ว่านายทักษิณ มีอาการป่วยวิกฤตจริง นั้น ยืนยันว่าตนไม่เคยพูดว่าวิกฤตเลย ตนพูดเท่าที่ได้รับทราบมาเท่านั้นว่าท่านป่วยและได้รับการผ่าตัด

นายดนุพร กล่าวว่า ความจริงไม่ใช่หน้าที่ที่ตนต้องไปแถลงด้วยซ้ำเพราะนายทักษิณ ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค แต่เนื่องจากมีคนโทรเข้ามาสอบถามข้อมูลจากที่พรรคเยอะมาก ตนในฐานะโฆษกพรรค ซึ่งได้รับทราบข้อมูลจากทางพรรคว่า ท่านป่วยและต้องผ่าตัดเท่านั้น ซึ่งโดยส่วนตัวตนไม่ได้เจอท่านทักษิณ ด้วยซ้ำ เพราะท่านอยู่โรงพยาบาลตำรวจภายใต้การควบคุมของกรมราชทัณฑ์ และตนไม่ได้เป็นหมอซึ่งคำว่า”วิกฤต”ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน ถ้ายกตัวอย่างเป็นญาติของตน มีอาการป่วยถึงขั้นผ่าตัด ตนก็ต้องบอกว่าถึงขั้นวิกฤตแล้ว แต่ในมุมของหมออาจจะมองว่า ไม่วิกฤต ไม่หนักอะไร ซึ่งอยู่ที่มุมมองมากกว่า

สอบวินัยหมอรักษาเทวดา

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. กล่าวถึงกรณีที่แพทยสภามีมติลงโทษ ว่ากล่าวตักเตือน และพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาตัวของนายทักษิณ ชินวัตร ที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ทั้งหมด 3 ท่าน ซึ่งต่อมามีรายงานข่าวว่า 2 ใน 3 ของแพทย์ที่ถูกลงโทษเป็นแพทย์จากโรงพยาบาลตำรวจว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว “จากทางสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ยังไม่ได้รับเอกสารอย่างเป็นทางการ”

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า แต่ได้สั่งการให้กองวินัยเตรียมพร้อมตรวจสอบข้อเท็จจริงหากมีการแจ้งเรื่องมาอย่างเป็นทางการ โดยตามขั้นตอนปฏิบัติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อมีการแจ้งเรื่องเข้ามายังฝ่ายวินัย จะต้องมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง แม้ขณะนี้จะยังไม่มีการแจ้งเข้ามาอย่างเป็นทางการ แต่ก็ได้ให้ทางกองวินัยรับทราบและเตรียมพร้อมในการเสนอความเห็นแล้ว

ทั้งนี้ หากเป็นแพทย์ตำรวจ ที่ถูกพักใบอนุญาตประกอบวิชาชีพเวชกรรมนั้น ในส่วนของวิชาชีพแพทย์จะต้องหยุดปฏิบัติงานด้านการรักษาพยาบาลทันที และอาจมีการระงับค่าตอบแทนพิเศษสำหรับตำแหน่งในวิชาชีพนั้นๆ ส่วนในด้านวินัยตำรวจ จะต้องมีการพิจารณาต่อไปว่ามีความผิดทางวินัยในข้อใดบ้าง ตามพระราชบัญญัติตำรวจแห่งชาติ และกฎคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าด้วยการบริหารวินัย

ส่วนประเด็นว่า จะมีการดำเนินคดีอาญาหรือไม่นั้น พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวว่า จะต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษเข้ามา จึงจะสามารถดำเนินการได้ แต่ในส่วนของเรื่องวินัยนั้นจะต้องพิจารณาตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐกล่าวต่อว่า ไม่ได้รู้สึกหนักใจในเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นกระบวนการที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้ส่งตัวนายทักษิณมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งโรงพยาบาลตำรวจก็ต้องปฏิบัติไปตามหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เมื่อแพทยสภามีผลการพิจารณาออกมาเช่นนี้ ก็จะต้องนำผลดังกล่าวมาประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป

เผยแพทย์หลังน้ำตาในที่ประชุม

ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ได้ยินเรื่องเล่าจากที่ประชุมวันนี้ว่า มีครูแพทย์หลายคนเสียน้ำตากลางที่ประชุม

เพราะหมอรุ่นลูกศิษย์จบมาใหม่ ๆ ทำผิดพลาด เกิด medical error แล้วถูกลงโทษเต็มที่ไม่มียั้ง

แต่หมอใหญ่รับใช้นักการเมืองโกงชาติ ผิดจรรยาบรรณแพทย์ กลับมีแพทย์ด้วยกันบางคนลุกขึ้นมาปกป้อง ครูแพทย์จึงเสียน้ำตา เพราะรู้สึกว่าในวงวิชาชีพที่มีหน้าที่ช่วยเพื่อนมนุษย์ยังถูกเพื่อนร่วมวิชาชีพด้วยกันรังแกอย่างไม่ยุติธรรม

ครูแพทย์ที่มีใจเป็นธรรมและรักลูกศิษย์จึงเสียน้ำตากลางที่ประชุม ด้วยความรู้สึกคับแค้นใจและสงสารลูกศิษย์ที่ไม่ได้รับความยุติธรรม

แต่ท้ายที่สุด เสียงของแพทย์ส่วนใหญ่ระดับครูบาอาจารย์ มาก มาก มาก ก็ยังคงยืนหยัดรักษาไว้ซึ่งเกียรติยศและจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ ขอกราบคารวะอย่างสูง

เป็นเรื่องปกติในทุกสังคมและวิชาชีพที่จะต้องมีวิวาทะ แต่บ้านเมืองและวงวิชาชีพนั้นยังมั่นคงดำรงอยู่ได้ เพราะคนส่วนใหญ่ยังรักในความถูกต้องดีงาม เล่าให้ฟังเฉยๆ ในสิ่งที่ได้รับฟังมาเช่นกัน และเชื่อในส่วนดีของมนุษย์ครับ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • อะไรของเขา? \'วันชัย\'จวกสังคมไร้ความเมตตา \'ทักษิณ\'วัย 75 ป่วย เอากันถึงขั้นวิกฤตเลยหรือ อะไรของเขา? 'วันชัย'จวกสังคมไร้ความเมตตา 'ทักษิณ'วัย 75 ป่วย เอากันถึงขั้นวิกฤตเลยหรือ
  • \'ไพบูลย์\'เชื่อมติแพทยสภา เป็นหลักฐานสําคัญ ชี้ชะตา\'ทักษิณ\' 13 มิ.ย.วันศาลไต่สวน 'ไพบูลย์'เชื่อมติแพทยสภา เป็นหลักฐานสําคัญ ชี้ชะตา'ทักษิณ' 13 มิ.ย.วันศาลไต่สวน
  • \'ดร.เสรี\' ถาม \'รมว.สธ.\'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้? 'ดร.เสรี' ถาม 'รมว.สธ.'ตัดสินใจอย่างไร จะยึดความถูกต้องหรือจะยึดการรับใช้?
  • สำนักข่าวอิศราเปิดชื่อ 3 หมอโดนแพทยสภาสั่งลงโทษคดี \'ทักษิณ\' ชั้น 14 สำนักข่าวอิศราเปิดชื่อ 3 หมอโดนแพทยสภาสั่งลงโทษคดี 'ทักษิณ' ชั้น 14
  • โฆษกเพื่อไทยปัดไม่เคยพูดป่วยวิกฤต แค่บอกว่าป่วยได้รับการผ่าตัด โฆษกเพื่อไทยปัดไม่เคยพูดป่วยวิกฤต แค่บอกว่าป่วยได้รับการผ่าตัด
  • \'สรวงศ์\'ขออย่าโยงการเมือง กับการลงโทษ 3 หมอปม \'ทักษิณ\' ย้ำไม่เกี่ยว\'รัฐบาลอิ๊งค์\' 'สรวงศ์'ขออย่าโยงการเมือง กับการลงโทษ 3 หมอปม 'ทักษิณ' ย้ำไม่เกี่ยว'รัฐบาลอิ๊งค์'
  •  

Breaking News

กระท้อนทองบางเจ้าฉ่า หวานฉ่ำถึงใจ! สวนลุงจ่า-แม่จงกล พร้อมให้ลิ้มลองและสั่งจอง

'เด็จพี่'ชูคอ! เชียร์'กกต.-ดีเอสไอ-ปปง.' เช็กบิลต้นตอ ฮั้วเลือก สว.

ยิปซีพยากรณ์'ดวงรายวัน'ประจำวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ.2568

งานชุมนุมสายมูคึกคักจัดกลางสวนสาธารณะคุกเก่าลุ้นเลขธูปผู้ว่าฯหลังเคยเข้ามา2งวดซ้อน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved