ยืนกรานเสถียรภาพรัฐบาลแน่นปึ้ก
‘พท.’โต้ยุบสภา
เดินหน้าพิจารณางบฯปี’69
‘ภูมิใจไทย’พร้อมหนุนงบ
ย้ำไม่มีเหตุไม่สนับสนุน
‘อิทธิพร’ปัดDSIบีบฟันสว.
โฆษกเพื่อไทย ยืนยันรัฐบาลมีเสถียรภาพ ไม่ยุบสภา พร้อมเดินหน้าผ่านร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี’69 งง ข่าวภูมิใจไทยจะคัดค้าน ด้านภูมิใจไทยการันตีพร้อมสนับสนุนงบปี’69 “อิทธิพร” ยันคดีฮั้วเลือกสว.ทำตามขั้นตอน ไม่ได้เร่งรีบ ไม่ได้ถูก “ดีเอสไอ” บีบไม่กังวลหากถูกมองเป็นการเมือง
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมวิปรัฐบาลในวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ ว่า เป็นการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 ช่วงวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้ นอกจากนี้ จะมีพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ที่ออกโดยรัฐบาลอีกสองฉบับ รวมถึงอาจจะมีเรื่องตั๋วร่วมด้วย แต่ทั้งนี้ต้องดูวันที่ 13 พฤษภาคมนี้ก่อนว่าสามารถนำเข้าสู่การพิจารณาของวิปรัฐบาลได้ทั้งหมดกี่ฉบับ เมื่อถามถึงกรณีที่กระแสข่าวว่าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ปี’69 นั้น นายวิสุทธิ์กล่าวว่า คงเป็นไปไม่ได้ เพราะพรรค ภท.ก็เป็นพรรคร่วมรัฐบาล โดยมารยาทเขาก็ต้องโหวตให้ อย่าเอาไปโยงเรื่องของวุฒิสมาชิก ซึ่งเป็นคนละเรื่อง คนละประเด็นกัน ไม่ใช่เรื่องที่ต้องนำมาพันกับเรื่องงบประมาณแผ่นดิน เพราะหากช้าก็จะมีปัญหาในเรื่องงบประมาณที่จะออกมา หน่วยงานราชการต่างๆ เขาก็ต้องการใช้งบประมาณ ย้ำว่าไม่ใช่เรื่องที่จะนำมาพันกันเพราะเป็นคนละประเด็น เมื่อถามว่า ยังมั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลใช่หรือไม่ นายวิสุทธิ์กล่าวว่า “ก็ต้องมั่นใจสิ”
เชื่องบ69ผ่านฉลุย
ด้านนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีมีกระแสข่าวการวางแผนเตรียมการคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 และความเป็นไปได้ในการยุบสภาฯว่า กระแสข่าวที่ออกมาอาจเป็นเพียงความพยายามในการที่จะปั่นกระแสทางการเมืองให้เกิดความวุ่นวาย ขอยืนยันว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพ เสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมรัฐบาลยังแน่นหนา ไม่มีเงื่อนไขใดนำไปสู่การยุบสภาฯ ในเวลานี้ เสียงของพรรคร่วมรัฐบาลยังเหนียวแน่น เพราะต่างตระหนักดีว่าหน้าที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ คือการพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ดูแลค่าครองชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของพี่น้องประชาชนทุกกลุ่ม
รัฐบาลกำลังเดินหน้าลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส แก้หนี้ และปราบปรามยาเสพติด ทุกนโยบายต้องขับเคลื่อนด้วยงบประมาณเป็นเครื่องมือ หากร่างงบประมาณถูกคว่ำ ประชาชนจะเป็นฝ่ายเสียประโยชน์ ไม่ใช่พรรคใดพรรคหนึ่ง
ใช้ขับเคลื่อนประเทศ
นายอนุสรณ์ กล่าวต่อว่า ร่าง พรบ.งบประมาณฯปี2569 คือหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ รัฐบาลไม่เล่นเกมการเมือง ไม่เอาอนาคตของประเทศชาติและประชาชนไปเสี่ยง ทุกฝ่ายควรร่วมกันมองไปข้างหน้า ไม่ปล่อยให้ข่าวลือหรือความพยายามดิสเครดิตรัฐบาลมากลบเสียงของความเดือดร้อนที่แท้จริง สำหรับกรณีการเคลื่อนไหวขององค์กรอิสระที่ตรวจสอบการได้มาซึ่ง สว.นั้น เป็นกระบวนการตามอำนาจหน้าที่ของแต่ละหน่วยงาน ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับรัฐบาล และไม่ควรนำมาโยงกับการพิจารณางบประมาณ หรือสร้างความสับสนต่อเสถียรภาพของฝ่ายบริหาร รัฐบาลนี้เข้ามาเพื่อทำงาน ไม่ใช่เพื่อมาเล่นเกม งบประมาณคือเครื่องมือสำคัญในการเปลี่ยนผ่านประเทศ เดินหน้านโยบายให้ถึงมือประชาชน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ แก้หนี้ และปราบยาเสพติดอย่างเป็นระบบ รัฐบาลยังมั่นคง ยังทำงานได้เต็มที่ และจะเดินหน้าครบวาระ 4 ปีตามเจตนารมณ์ที่ตั้งใจไว้
พท.งงภูมิใจไทยขู่คว่ำงบ
นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทย (ภท.) จะโหวตคว่ำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 เพราะเกี่ยวข้องกับคดีการฮั้ว ส.ว. ว่า ตนไม่อยากให้สังคมคล้อยตามข่าวเช่นนี้ เนื่องจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ต่างก็ทำตามอำนาจหน้าที่ที่เขามี และข่าวที่ออกมาก็ไม่ได้มีการระบุว่าพรรคการเมืองใดอยู่เบื้องหลัง ซึ่งจากที่มีการพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคต่างก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับพรรค พท.ในฐานะแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 28-30 พฤษภาคมนี้ เป็นอย่างดี ฉะนั้น ย้ำว่าไม่อยากให้ข่าวเช่นนี้ออกมาแล้วทำให้สังคมเกิดความไขว้เขว ไม่มีความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาล
เมื่อถามว่า ยังยืนยันว่า พรรค พท.สามารถคุยกับพรรค ภท. และพรรคร่วมรัฐบาลพรรคอื่นได้ใช่หรือไม่ นายดนุพรกล่าวว่า ถูกต้อง ทุกพรรคยังร่วมมือทำงานให้ประชาชนได้ และ พ.ร.บ.งบประมาณ ไม่ใช่เป็นงบประมาณของพรรค พท.อย่างเดียว แต่พรรคการเมืองที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลนั้น งบประมาณของทุกกระทรวงต่างก็อยู่ในร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ ฉบับนี้ แน่นอนว่าหากงบประมาณฉบับนี้ไม่ผ่านจริงๆ รัฐบาลมีสองทางเลือกคือนายกรัฐมนตรีต้องลาออกหรือยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ ซึ่งถือเป็นเรื่องใหญ่ ตนจึงไม่อยากให้ข่าวที่ออกมาโจมตีพรรค ภท.เช่นนี้ สร้างความไม่น่าเชื่อถือให้รัฐบาล
ยืนยันไม่ยุบสภา
เมื่อถามว่า ยังมั่นใจในเสถียรภาพของพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ นายดนุพรกล่าวว่า ใช่ เพราะผู้ใหญ่ในพรรคหรือแม้กระทั่งนายกรัฐมนตรีเองก็บอกเสมอว่าได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลอย่างใกล้ชิดมาตลอด หรือบางครั้งก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็จะมีการเชิญหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลมาพูดคุยอยู่บ่อยครั้ง และทุกคนก็ยังยืนยันว่าพร้อมที่จะสนับสนุนเรื่องงบประมาณและกฎหมายต่างๆ ของรัฐบาลที่จะเข้าสู่สภา
เมื่อถามว่า มองว่ากระแสข่าวที่ออกมาในช่วงก่อนที่งบประมาณจะเข้าสู่การพิจารณาในสภา มีนัยยะอะไรหรือเป็นเกมการเมืองหรือไม่ นายดนุพรกล่าวว่า ทุกครั้งที่ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ จะเข้าสู่สภา ก็จะมีข่าวเช่นนี้ออกมาทุกครั้ง ไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่าอยากให้มีการปรับ ครม.หรือไม่ หรือบางคนอาจจะอยากถูกเชิญเข้ามาร่วมรัฐบาลหรือไม่ หรือบางพรรคที่ได้เสียงแล้วไม่มีการเชิญให้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ก็อาจจะอยากให้ยุบสภาเพื่อให้มีการเลือกตั้งใหม่แล้วกลับมาเป็นรัฐบาลหรือไม่ ซึ่งก็เป็นไปได้
นายดนุพรกล่าวต่อว่า นี่เป็นเรื่องธรรมชาติของการเมืองก่อนที่จะมีร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ เข้าสู่การพิจารณาของสภา ถือเป็นสองครั้งที่จะสามารถล้มรัฐบาลได้คือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ และงบประมาณที่เมื่อไม่ผ่าน รัฐบาลต้องไป ฉะนั้นเมื่อการอภิปรายไม่ไว้วางใจผ่านไปเรียบร้อย และนายกรัฐมนตรีได้รับเสียงสนับสนุนท่วมท้น สามารถอยู่ต่อได้ จะมีอะไรบ้างที่ทำให้รัฐบาลเกิดการสั่นคลอนนั่นก็คือเรื่องงบประมาณ
“ทำให้จึงต้องมีการตีข่าวว่ารัฐบาลไปต่อไม่ได้แล้ว พรรคนั้นพรรคนี้ไม่โหวตให้ เพื่อที่จะเขย่าให้รัฐบาลลาออก เป็นเกมการเมือง แต่เรายังเชื่อมั่นในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคว่าเรายังสามารถร่วมกันได้ดี“ นายดนุพรกล่าว
เมื่อถามว่า ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่ยุบสภาใช่หรือไม่ นายดนุพรกล่าวว่า “แน่นอนครับ แม้การทำงานในพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะมีความเห็นต่างบ้างใน บางประเด็น แต่ก็ไม่หนักหนาถึงขั้นที่จะพูดคุยกันไม่ได้ และเมื่อมีความเห็นต่างผมก็เชื่อว่าหัวหน้าพรรคจะสามารถพูดคุยกันได้“
ภูมิใจไทยปัดคว่ำงบ69
น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย สส.อุบลราชธานี ในฐานะโฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวพรรคภูมิใจไทยส่อคว่ำร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569ว่า พรรคภูมิใจไทยเห็นว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ เป็นกฎหมายที่เป็นประโยชน์แก่การพัฒนาประเทศ และแก้ปัญหาประชาชนจึงขอปฏิเสธข่าวดังกล่าว อย่างสิ้นเชิงว่าไม่เป็นความจริง
“พรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล มีรัฐมนตรีที่กำกับดูกระทรวงซึ่งมีส่วนร่วมจัดทำร่างพ.ร.บ.งบประมาณไม่มีเหตุที่จะไม่สนับสนุน การจัดสรรงบประมาณเพื่อขับเคลื่อน เพื่อพัฒนา และแก้ปัญหาประเทศ” โฆษกพรรคภูมิใจไทย กล่าว
อิทธิพลย้ำฮั้วสว.ทำตามขั้นตอน
นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวถึงคดีฮั้วการเลือก สว.ที่มีการตั้งประเด็นว่า กกต.ทำเกินไป ในการออกหมายเรียกโดยที่ไม่มีการแจ้งทางไปรษณีย์ตามขั้นตอน หรือไม่ว่า การปิดหมาย การส่งหมายแจ้งนัดตามระเบียบ เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวน ของ กกต. ที่ได้ตั้งขึ้นมา มี 25 ชุดและบวก 1 หรือคณะพิเศษ ซึ่งอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการดังกล่าวเป็นการใช้ดุลย์พินิจของเจ้าหน้าที่ว่าจะใช้อย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีเรื่องร้องหลายเรื่องเหตุใดจึงหยิบเรื่อง หารฮั้วเลือก สว.ออกมาก่อน นายอิทธิพร ระบุว่า ไม่ได้หยิบแต่เป็นกระบวนการ ที่ทราบว่าตั้งแต่มีการเลือก สว.ได้แจ้งมาตลอดว่ามีคำร้องกี่เรื่องแล้วแจ้งมาตลอด ส่วนที่เกี่ยวกับการฝ่าฝืนมาตรา 77(1) ซึ่งเกี่ยวพันกันกับเรื่องฮั้ว เพราะมีการทำเป็นกระบวนการซึ่งก็มีการดำเนินการอยู่และได้แจ้งถึงความคืบหน้าเป็นระยะ เรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องฮั้ว อยู่ในขั้นตอนของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยจำนวนเท่าไหร่ ทุกอย่างมีความคืบหน้ามาโดยตลอด ไม่ได้เร่งตามเวลา เพราะเรากำหนดเวลาไว้ว่าจะต้องปฏิบัติให้แล้วเสร็จในสำนวน
นายอิทธิพรกล่าวต่อว่า ดีเอสไอไม่ได้บีบ กกต. โดยย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ กกต. ขอให้ดีเอสไอแต่งตั้งเจ้าพนักงานที่มีมีความรู้และประสบ การณ์และความสามารถเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมการสืบสวนไต่สวนทำงานร่วมกัน ชุดที่ 26 โดยไม่ได้มีใครบีบใคร
ทุกอย่างยึดตามกฎหมาย
ถามว่าหากถูกมองว่าเป็นเรื่องการเมืองกังวลหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะ กกต. ดำเนินการทุกอย่างต้องยึดขั้นตอนตามกฏหมาย และทราบดีถึงแรงกดดันภายนอก คิดว่าเป็นเรื่องปกติเพราะเป็นเรื่องที่ต้องปฏิบัติและต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฏหมายมากที่สุด ก็เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นว่า กกต. ดำเนินการไม่ได้เห็นด้วยเหตุผลอย่างอื่นเพราะต้องทำตาม กฏหมายอย่างเดียว
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีมีการตั้งข้อสังเกตการดำเนินคดีฮั้วเลือกส.ว.เป็นเกมการเมือง ว่า จะมองเป็นเกมการเมืองได้อย่างไร เพราะสังคมไม่ว่าจะเป็นสื่อหรือคนในประเทศก็เห็นกันหมดว่าที่ไปที่มาเป็นอย่างไร มีการฮั้วส.ว.เกิดขึ้น มีการรวมตัวกันที่ไหน โรงแรมอะไร มีเส้นทางการเงินอย่างไร
ไม่ได้เป็นเรื่องการเมือง
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ มีการดำเนินการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หรือกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพราะมีคนไปร้อง ถ้าไม่ทำจะถูกดำเนินคดีมาตรา 157 ทั้งนี้ ส.ว.ก็มีความสำคัญเพราะมีหน้าที่เลือกองค์กรอิสระ ทุกคนยอมไม่ได้ การบังคับใช้กฎหมายไม่ต้องมีพรรคมีพวก ถ้าปล่อยไว้เช่นนี้สังคมจะอยู่ไม่ได้ เพราะหากสังคมไม่ยอมรับการเลือกองค์กรอิสระก็จะเกิดปัญหา บ้านเมืองไหนไม่เกิดการยุติธรรม สังคมก็จะอยู่ไม่ได้
“ยืนยันว่านี่ไม่ใช่เรื่องการเมือง ถ้าไม่ทำให้เกิดความเชื่อถือ กระบวนการยุติธรรมก็จะเสื่อม เป็นหน้าที่กกต. และดีเอสไอต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้ประชาชน ไม่ใช่เรื่องการเมือง เราต้องให้กำลังใจกกต. และดีเอสไอด้วยซ้ำว่าให้ไปทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ให้ถูกต้อง เราต้องให้กำลังใจอย่างตรงไปตรงมา โปร่งใสที่สุด เพราะเรื่องนี้คนจับตา เขากลัวอย่างเดียวอย่าให้มีมวยล้มต้มคนดูเท่านั้น” นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า กังวลว่าจะกระทบกฎหมายของรัฐบาลหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เราต้องแยกแยะว่ากฎหมายไหนที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติบ้านเมืองมีที่มาที่ไปถูกต้อง เราต้องว่าตามนั้น เชื่อว่าสว.ในส่วนที่เหลือจะพิจารณาไปตามสิ่งที่ถูกต้องและเป็นธรรม กฎหมายไหนหากมีความเห็นต่างก็มีกลไกอยู่ เหมือนกฎหมายประชามติที่ต้องยับยั้งไว้ 180 วัน หากเป็นกฎหมายการเงินก็ทำตามกระบวนการเช่นเดียวกัน แต่ยับยั้งไว้ 10 วัน ’เราไม่ต้องกลัวไปขนาดนั้นว่าจะโหวตให้หรือไม่โหวตให้ แต่เรื่องที่ไปที่มาต้องว่าให้ถูกต้อง เพราะไม่ใช่รัฐบาลดำเนินการ กกต.เป็นองค์กรอิสระ ดีเอสไอก็ทำหน้าที่ ต้องทำให้ถูกต้อง เชื่อว่าคนทั้งประเทศติดตามเขาพอใจการทำหน้าที่ ย้ำว่าเรื่องพิจารณากฎหมายเป็นคนละประเด็นกับที่มาสว. เพราะสว.ก็ทำหน้าที่ในการกลั่นกรองกฎหมาย หากสุดท้ายแล้วเรื่องนี้มีปัญหาก็จะมีการเลื่อนลำดับสว.ขึ้นมา แม้อาจจะช้าเรื่องการทำหน้าที่ในช่วงแรกๆ แต่ต้องทำให้ถูกต้อง ขอให้กำลังใจและเชื่อทุกคนมองเป็นปัญหา” นายวิสุทธิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี