ราชทัณฑ์ไม่แย้งมติแพทยสภา
ปัดร้องศาลปค.
อ้างรอความเห็น‘สมศักดิ์’
พท.วอนอย่ากดดันคดีชั้น14
‘เทพไท’จี้‘อิ๊งค์’รับผิดชอบ
กรมราชทัณฑ์ ปฏิเสธข่าวร้องศาลปกครองเพิกถอนมติแพทยสภา อ้างยังมีอีกหลายขั้น รวมทั้งรอความเห็นจากรมว.สาธารณสุข ด้านเพื่อไทย ยันไม่กระทบรัฐบาล วอนอย่าฉวยโอกาสปลุกม็อบ
เมื่อวันที่ 11พ.ค. 2568 ทางกรมราชทัณฑ์ ได้ออกเอกสารข่าวชี้แจง ว่าจากกรณีที่มีสื่อมวลชนได้มีการเผยแพร่ข่าว และพาดหัวกล่าวว่า “รพ.ราชทัณฑ์ เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติแพทยสภา” อันเกิดจากมีมติลงโทษแพทย์ 3ราย จากกรณีการรักษาพยาบาลนายทักษิณ ชินวัตร ณ โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 นั้น
กรมราชทัณฑ์ ขอเรียนว่า เบื้องต้นขณะนี้ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้รับทราบ ข่าวสารเกี่ยวกับมติที่ประชุมแพทยสภา ในการพิจารณากรณีจริยธรรมของแพทย์ในการส่งนายทักษิณฯ ออกรักษาตัว ณ โรงพยาบาลตำรวจ ผ่านการเผยแพร่จากสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ยังคงต้องรอคำวินิจฉัยของกระทรวงสาธารณสุข โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จึงยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ ซึ่งข้อมูลที่สื่อมวลชนนำออกมาเผยแพร่นั้น อาจสร้างความเข้าใจผิดให้กับสังคมและอาจส่งผลกระทบระหว่างหน่วยงานต่างๆ อีกทั้ง บุคลากรทางการแพทย์ ในสังกัดกรมราชทัณฑ์ ยังคงยึดหลักปฏิบัติตามข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2559 เสมอมา ดังนั้นจากกรณีดังกล่าวกรมราชทัณฑ์ ยังอยู่ในระหว่างรอคำวินิจฉัยต่อไป
ยัน’อุ๋งอิ๊งค์’ไม่เสียสมาธิ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ 3 ราย เกี่ยวกับการพักรักษาตัวของนายทักษิณ ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ว่า เป็นเรื่องที่อยู่ภายใต้ดุลยพินิจและกระบวนการพิจารณาของแพทยสภา ไม่ควรถูกนำไปโยงเป็นประเด็นทางการเมือง หรือใช้สร้างวาทกรรมโจมตีรัฐบาล เพราะเป็นคนละเรื่องกับการบริหารราชการแผ่นดินในปัจจุบัน เหตุการณ์และข้อพิจารณาของแพทยสภาเกิดขึ้นในช่วงเวลาก่อนที่รัฐบาลชุดปัจจุบันจะเข้ามาทำงาน โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ที่ได้รับตำแหน่งหลังจากนายทักษิณได้รับการปล่อยตัวแล้ว จึงไม่เกี่ยวข้องกันโดยสิ้นเชิง และไม่ควรมีใครพยายามสร้างกระแสเบี่ยงเบนหรือทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของวิชาชีพเฉพาะด้าน ซึ่งมีคณะกรรมการแพทยสภากำกับดูแลอยู่แล้ว ไม่ใช่เรื่องที่ฝ่ายการเมืองหรือรัฐบาลจะเข้าไปแทรกแซงได้ และการที่สังคมมีการตรวจสอบอย่างเปิดเผยคือหลักฐานว่าประเทศไทยมีระบบธรรมาภิบาลที่เข้มแข็ง รัฐบาลไม่เคยเข้าไปแทรกแซงยุ่งเกี่ยว ยืนยันว่ารัฐบาลไม่เสียสมาธิจากการทำงานเพื่อประชาชน นายกรัฐมนตรีมีขวัญกำลังใจที่ดี และยังคงเดินหน้าทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มที่ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การลงทุน และการลดความเหลื่อมล้ำ ลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ประชาชนตอบรับอย่างอบอุ่น ยิ่งตอกย้ำว่าคนจำนวนมากไม่ได้สนใจแต่เรื่องการเมือง แต่คาดหวังผลลัพธ์จากนโยบายที่จับต้องได้ของรัฐบาล อาจมีความพยายามของคนบางกลุ่มพยายามฉวยโอกาสปลุกกระแสจากประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล เพื่อหวังลดความน่าเชื่อถือของผู้นำประเทศ ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อประเทศชาติและประชาชน รัฐบาลมุ่งมั่นให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับพี่น้องประชาชนให้ได้
“ไม่ควรนำเรื่องแพทยสภา มาโยงกับรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี เพราะไม่มีส่วนเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกัน รัฐบาลมีสมาธิ นายกรัฐมนตรีมีขวัญกำลังใจที่ดี พร้อมเดินหน้า ทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างเต็มที่” นายอนุสรณ์ กล่าว
บอกไม่ควรใช้อารมณ์
นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการวิพากษ์วิจารณ์กรณีชั้น 14 ที่พาดพิงถึงอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตรว่า เรื่องนี้เป็นที่สนใจของสังคม แต่ตนอยากเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้เปิดพื้นที่ให้ข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ไม่อยากให้ใช้อารมณ์ตัดสินไปล่วงหน้าและไม่อยากเห็นการกดดันกระบวนการยุติธรรม ตนเห็นว่าแม้เราจะชอบหรือไม่ชอบใครก็ตาม แต่ก็ควรเปิดพื้นที่ให้ข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและความยุติธรรมให้เกิดขึ้น ตนอยากเห็นสังคมไทยมีความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน และพิจารณาเหตุการณ์ความเป็นมาของเรื่องนี้ โดยดูความเป็นมาทั้งหมด ไม่ตัดตอนในบางช่วง นอกจากนั้นการสอบสวนหรือการดำเนินการใดๆ ตามกฏหมายนั้น ควรปล่อยให้เป็นเรื่องของผู้มีอำนาจหน้าที่ดำเนินการ ไม่ควรไปสร้างแรงกดดันให้กับกระบวนการยุติธรรม ซึ่งถ้าทำเช่นนี้ได้จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กระบวนการบังคับใช้กฎหมายในประเทศไทยให้เกิดขึ้นได้
นายนพดล กล่าวต่อว่า จำได้ว่าหลังรัฐประหารในปี 2549 ตนเคยเป็นที่ปรึกษากฎหมายให้อดีตนายกฯ หลังรัฐประหารมีการตั้งบุคคลที่มีความคิดทางการเมืองเป็นปฏิปักษ์กับอดีตนายกฯมาสืบสวนคดีต่างๆ ที่เรียกว่า คตส.ซึ่งตนเคยให้สัมภาษณ์และตั้งคำถามไปว่าการตั้งบุคคลที่มีความคิดทางการเมืองเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน มาสืบสวนเรื่องของผู้ถูกยึดอำนาจ อาจขัดกับหลักนิติธรรมหรือไม่ ตนจึงอยากเห็นการประมวลเหตุการณ์ความเป็นมาทั้งหมดให้ครบถ้วน และขอมีความเมตตาปรารถนาดีต่อกัน วิจารณ์โดยไม่ใช้อคติ “การใช้หลักนิติธรรมนั้นจะต้องใช้สม่ำเสมอกับทุกกรณี ปมเชื่อมั่นในการไต่สวนและกระบวนการยุติธรรม ว่าจะเป็นที่พึ่งสุดท้ายของประชาชนได้”นายนพดล กล่าว
เทพไทจี้อุ๊งอิ๊งค์รับผิดชอบชั้น14
นายเทพไท เสนพงษ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง “คดีชั้น14 อุ๊งอิ๊ง รู้เรื่องดี ต้องรับผิดชอบ!!!” ระบุว่า คดีชั้น14อุ๊งอิ๊ง รู้เรื่องดี ต้องรับผิดชอบหลังจากพระราชพิธีพืชมงคล ที่ท้องสนามหลวง มีผู้สื่อข่าวขอสัมภาษณ์นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในประเด็นเกี่ยวกับผลการสอบของแพทยสภา แต่ นางสาวแพทองธาร ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม โดยอ้างว่าอยู่ในการแต่งกายชุดปกติขาว ซึ่งไม่เหมาะสมกับการให้สัมภาษณ์ ทั้งที่การแต่งชุดปกติขาวให้สัมภาษณ์เป็นเรื่องปกติ ที่สามารถตอบคำถามของผู้สื่อข่าวได้ ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เหมาะสม เมื่อเปรียบเทียบกับการใส่ชุดปกติขาวถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรี หน้าตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล ทำมือแบบมินิฮาร์ท ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมกันอย่างกว้างขวาง
ปฎิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
แต่ในกรณีการอ้างถึงการแต่งชุดขาวของนางสาวแพทองธาร และปฏิเสธตอบคำถามของผู้สื่อข่าว น่าจะเป็นการแก้เกี้ยว ไม่อยากตอบคำถามของสื่อมวลชนมากกว่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าในช่วงหลังๆนางสาวแพทองธาร หลีกเลี่ยง ปฏิเสธที่จะตอบคำถามเกี่ยวกับคดีชั้น 14 ของนายทักษิณอยู่หลายครั้ง ทั้งที่นางสาวแพทองธารเป็นผู้รู้เรื่องดี และมีข้อมูลครบถ้วนมากที่สุดคนหนึ่ง เพราะ 1.เป็นลูกสาวคนโปรดของนายทักษิณ ที่เคยประกาศว่า เป็นDNAโดยตรง และนางสาวแพทองธารก็ยอมรับว่า เป็นลูกรักของพ่อ 2.เป็น 1 ใน 10 ของผู้มีรายชื่อเข้าเยี่ยม นายทักษิณ และได้เข้าเยี่ยมบ่อยที่สุด ย่อมรู้ดีว่าป่วยจริงหรือป่วยทิพย์ 3.เคยได้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน เกี่ยวกับอาการป่วยของทักษิณ ว่าอาการหลังจากทำการผ่าตัดแล้ว อยู่ระยะพักฟื้น 4.เคยลงภาพของนายทักษิณ ใน Instagram ภาพนั่งริมสระว่ายน้ำแบบชิลๆ และภาพที่ยกดัมเบล เล่นน้ำกับหลานๆ แบบคนปกติเหมือนไม่เคยผ่านอาการป่วยวิกฤติมาก่อน 5.เคยยืนยันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรว่าป่วยจริง ขอให้รอผลการสอบของแพทยสภา 6.เคยแถลงข่าวที่รัฐบาลยืนยันว่า นายทักษิณป่วยจริง เมื่อพูดไป คนที่ไม่เชื่อก็ไม่เชื่อ แต่วันนี้เมื่อผลการสอบของแพทย์สภาออกมาแล้วว่า นายทักษิณไม่ได้ป่วยวิกฤต สังคมก็อยากทราบความเห็น และท่าทีของนางสาวแพทองธารว่า มีความคิดเห็นต่อผลการสอบของแพทยสภา ที่เคยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยอมรับอย่างไรบ้าง และต่อกรณีคดีชั้น 14 นางสาวแพทองธาร ซึ่งเป็นผู้รู้เรื่องดีที่สุด จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี