“กกต.” เตือนผู้สมัคร-ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้ง“เทศบาล” อย่าทำผิดกฎหมาย ชี้มีโทษทางอาญา-โทษทางการเมือง สั่งกกต.ทั้งประเทศเช็คสภาพอากาศดูแลเลือกตั้งให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ปลุกออกมาใช้สิทธิ์70% เร่งสอบกาฬสินธุ์ซื้อเสียงหัวละ3พันบาท
เมื่อวันที่ 11พฤษภาคม2568 นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง( กกต.)ให้สัมภาษณ์ภายหลังทั่วประเทศเปิดหน่วยเลือกตั้งท้องถิ่นระดับเทศบาลว่า จากเมื่อวานนี้ (10พ.ค.) ที่ให้ข้อมูลว่า คำร้องเกี่ยวกับการเลือกตั้งมีทั้งหมด 338เรื่อง ขณะนี้มีรายงานเพิ่มเติมอีก14เรื่อง รวมเป็น 352 เรื่องแล้ว แต่ในการเลือกตั้งครั้งก่อนมีมากถึง 1,743เรื่อง ซึ่ง กกต.ไม่ต้องการให้เพิ่มขึ้นและพยายามทุกวิถีทางในการป้องกันป้องปราม ปลูกฝังค่านิยมอย่าซื้อสิทธิ์ขายเสียง ส่วนช่วง3วันสุดท้ายโดยเฉพาะเมื่อคืน (10 พ.ค.) จนถึงขณะนี้ได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน บางจังหวัดผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธร ร่วมมือกับ กกต.รวมถึงกำลังทหารสนธิกำลังตั้งด่านตรวจเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งได้รับความร่วมมือมาโดยตลอด โดยเฉพาะในช่วงโค้งสุดท้ายใกล้วันเลือกตั้ง สถานการณ์ปกติดี ไม่มีข่าวการซื้อเสียงมาก เพราะยังอยู่ในขั้นรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งหากปรากฏพยานหลักฐานในภายหลังก็จะมีการฟ้องร้องคดีต่อไป ส่วนกรณีการซื้อสิทธิ์ขายเสียงรายรับท้องถิ่นนั้น ไม่ได้ต้องการให้มีการซื้อสิทธิ์ในทุกระดับการเลือกตั้ง แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นมีความสำคัญ เพราะเป็นหลักฐานของการเมือง ประเทศจะเจริญได้เพราะท้องถิ่นเข้มแข็ง พร้อมขอให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง และผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่าฝ่าฝืนกฎหมาย ซึ่งกรณีการรับเงินถือว่าเป็นการทำผิดกฏหมาย ผิดทั้งผู้ให้และผู้รับ นอกจากรับโทษทางอาญาแล้วยังต้องรับโทษทางการเมือง ชี้ว่าไม่คุ้มกับการเสี่ยง
ประธาน กกต.ยังกล่าวถึงสภาพอากาศในวันเลือกตั้งว่า ในการเลือกตั้งทุกครั้งจะมีหนังสือแจ้งไปยัง กกต.จังหวัด ให้ตรวจสอบสภาพภูมิอากาศทุกครั้ง เพราะบางครั้งอาจอยู่ในช่วงฤดูฝน มรสุมเข้า ขอให้ใช้ความระมัดระวังในการดูแลสถานที่เลือกตั้ง เอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง ส่วนในพื้นที่เลือกตั้งในวันนี้มีการเตรียมพร้อมรองรับทุกสถานการณ์ไว้แล้ว
นายอิทธิพร กล่าวถึงการตั้งเป้าหมายออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในภาพรวมทั่วประเทศร้อยละ 70 โดยอ้างอิงตัวเลขการใช้สิทธิ์ในปี2564 อยู่ที่ร้อยละ66.8 โดยหวังว่าผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งจะให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นอย่างยิ่ง เพราะการเลือกตั้งที่ใกล้ตัวมากที่สุดมากกว่าการเลือกตั้ง สส.ในแง่ที่ว่าท้องถิ่นเป็นผู้จัดการทุกอย่าง พร้อมเชิญชวนหากต้องการสร้าง สรรค์ประเทศไทยต้องพร้อมใจไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ส่วนผลการเลือกตั้งในวันนี้ขึ้นอยู่แต่ละพื้นที่ เช่นกรณีที่ผู้สมัครเพียงหนึ่งคน เชื่อว่าไม่เกิน 1 ชั่วโมงก็จะรู้ผลการนับคะแนนผ่านหน่อย คาดว่าอย่างเร็วช่วงเวลา 20.00 น. อย่างช้าไม่น่าจะเกิน 22.00 น. ซึ่งการเลือกตั้งครั้งก่อนบางหน่วยเลือกตั้งเสร็จสิ้นในเวลา 21.00 น. ซึ่งประชาชนสามารถดูรายงานผลการเลือกตั้งในเฟซบุ๊กของเทศบาลแต่ละแห่ง หรือแอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต
ด้าน พ.ต.ท.ระพีพงษ์ จิรพัฒนาลักษณ์ รองเลขาธิการ กกต.แถลงข่าวการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี ประเด็น“สถานการณ์การเปิดหน่วยเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรีทั่วประเทศ” ซึ่งจากการตรวจสอบสถานการณ์เกี่ยวกับการเปิดหน่วยลงคะแนน 76 จังหวัดจำนวน 34,818 หน่วย จากจำนวนเทศบาลที่มีการเลือกตั้ง2,463แห่งทั่วประเทศ ยกเว้นกรุงเทพ มหานคร ได้รับรายงานจาก กกต.จังหวัดว่า การเปิดเหตุเลือกตั้งทั่วประเทศดำเนินการเปิดหีบได้ตั้งแต่เวลา 08.00น.เรียบร้อยครบทุกแห่ง แม้ว่าบางแห่งจะมีพายุฝนฟ้าคะนองตั้งแต่เมื่อวาน(10พ.ค.) แต่วันนี้สามารถเปิดหน่วยให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งสามารถเข้าไปลงคะแนนได้ตามปกติ
เมื่อถามถึงการซื้อเสียงหัวละ3,000บาท ที่จังหวัดกาฬสินธุ์ รองเลขาธิการ กกต.กล่าวว่า สำนักงานได้รับข้อมูลจากสำนักงานจังหวัดกาฬสินธุ์รายงานเบื้องต้นเข้ามา ปรากฏภาพตามสื่อที่มีการเผยแพร่เรื่องของการแจกเงินและจากการตรวจสอบไปที่สำนักงานการเลือกตั้งกาฬสินธุ์แล้วว่าได้ส่งชุดสืบสวนไต่สวนลงพื้นที่ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมว่า เป็นผู้ใดที่นำเงินมาแจกและผู้ใดได้รับไปและได้ให้ชุดสืบสวนและชุดหาข่าวลงพื้นที่เพื่อดำเนินการ หากมีความปรากฏก็จะมีการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ ขอเชิญชวนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในเขตเทศบาลทั่วประเทศยกเว้นกรุงเทพมหานครออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งซึ่งถือเป็นการแสดงพลังของประชาชน เพื่อกำหนดการพัฒนาท้องถิ่นของตนเองเป็นหลักฐานสำคัญของประชาธิปไตยที่ยั่งยืน พร้อมขอบคุณทุกภาคส่วนที่ร่วมขับเคลื่อนการเลือกตั้งครั้งนี้ให้สุจริตและเที่ยงธรรม ชอบด้วยกฎหมาย เชิญชวนประชาชนติดตามการรายงานผลคะแนนเลือกตั้งในช่องทางต่างๆ หรือสอบถามสายด่วน 1444
ขณะที่ นายนิติพัฒน์ ชูกล้ากสิกรณ์ พนักงานสืบสวนและไต่สวนชำนาญการ กลุ่มงานสืบสวนสอบสวนและพรรคการเมืองหัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็ว ได้แจ้งกับผู้สื่อข่าวว่า ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า มีการขนคนไปลงคะแนนเลือกตั้งพร้อมมีการส่งรูปและหลักฐานของผู้สมัครรับเลือกตั้งมาให้เป็นจำนวนมาก แจ้งถึงพิกัดหน่วยเลือกตั้งที่มีการขนคนไปลงคะแนน นายนิติพัฒน์ หัวหน้าชุดเคลื่อนที่เร็วได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ 6 นาย รีบรุดไปตรวจสอบตามที่รับแจ้ง พบมีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยว่า จะมีการทำเป็นระบบ ใช้มอเตอร์ไซด์รับจ้างในการขนคนไปลงคะแนน แต่ไม่มีการเก็บค่ารถแต่อย่างใด โดยมีหัวคะแนนคอยดูอยู่ ชุดเคลื่อนที่เร็วได้มีการตรวจค้นคนขับรถมอเตอร์ไชด์ พร้อมกับมีการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเอาไว้อย่างละเอียด
นายนิติพัฒน์ กล่าวว่า จากการที่ได้รับแจ้งจากประชาชนมาพบเบาะแสว่า มีการทำเป็นขบวนการมีการวางหัวคะแนนไว้ในหลายหน่วยเลือกตั้งกระจายไปในพื้นที่โดยจะใช้มอเตอร์ไซด์รับจ้างเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต ในการขนคนมาลงคะแนน วิ่งกันเป็นเที่ยวแต่เช้า มีการแจกติ้วไว้เพื่อให้มาขึ้นเงินในภายหลัง โดยพบว่ามีการเน้นไปที่กลุ่มเปราะบางผู้สูงอายุ โดยจะวิ่งรถไปรับมาจากหน้าบ้านเพื่อให้มาลงคะแนนตามโพยที่แจ้งไว้ เมื่อลงคะแนนเสร็จรอรับส่งกลับบ้านให้ด้วย ความคืบหน้าจะมีการนำเสนอให้ทราบต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี