กลับเข้าคุกทุกอย่างจะคลี่คลาย
ติดคุกเหมือนคนเสื้อแดง
ยิ่งดื้อปัญหายิ่งบานปลาย
ทีมสภานายกพิเศษฯนัดถก
บทลงโทษ3หมอปมชั้น14
“สมศักดิ์”เผย ได้รับหนังสือขอความเป็นธรรมจากแพทย์ใหญ่ รพ.ตร. แล้ว ส่งให้กก.เสนอความเห็นพิจารณาต่อ ด้านทีมสภานายกฯพิเศษถกลงโทษ 3 หมอ ชั้น 14 นัดแรก 20 พฤษภาคม ด้าน“ป้าธิดา”โผล่แนะ"ทักษิณ"ในฐานะคนรู้จักกันมาก่อน ให้กลับเข้าคุกจะรอด และดีงามที่สุดสำหรับตัว ทักษิณเอง ดีต่อ ลูกสาว-เพื่อไทยและปท.ชาติ ยุติวิกฤติขัดแย้ง
ความคืบหน้ากรณี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภา ลงนามคำสั่งแต่งตั้ง “คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณา ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525” จำนวน 10 คน เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อทำความเห็นส่งกลับไปยังคณะกรรมการแพทยสภา กรณีที่แพทยสภามีมติเสียงส่วนใหญ่เสนอลงโทษแพทย์ 3 คน ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการรักษาพยาบาล นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ชั้น 14 โรงพยาบาล (รพ.) ตำรวจ ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ 16 พฤษภาคมเป็นต้นไปว่าจะเห็นชอบตามมติดังกล่าวหรือไม่
ได้รับหนังสือขอความเป็นธรรมแล้ว
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวถึงกรณี แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม หลังแพทยสภามีมติลงโทษ ประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ชั้น 14 ว่า มีเข้ามาแล้ว จะส่งให้คณะกรรมการที่ตั้งไว้ไปตรวจสอบ
กก.เสนอความเห็นถกนัดแรก20พค.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษฯ จะหารือนัดแรกช่วงบ่ายวันที่ 20 พฤษภาคม ที่กระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากจะต้องเร่งพิจารณาส่งความเห็นให้นายสมศักดิ์พิจารณา ก่อนที่นายสมศักดิ์จะมีความเห็นตอบกลับมติของแพทยสภา ซึ่งมีกำหนดภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับเอกสารความเห็นของแพทยภา
สำหรับคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษฯ 10 คนประกอบด้วย นายชัยนันท์ งามขจรกุลกิจ ประธาน นายชัยวัฒน์ พัฒนาพิศาลศักดิ์ ที่ปรึกษา นายพงษ์ศักดิ์ แก้วกมล กรรมการ นายพิทักษ์ ฉันทประยูร กรรมการ นายพสิษฐ์ อัศววัฒนาพร กรรมการ นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ กรรมการ นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ กรรมการ นายวชิระ ปากดีสี กรรมการและเลขานุการคนที่ 1 นายวิทยา พลสีลา กรรมการและเลขานุการคนที่ 2 และนายปิยะวัฒน์ ศิลปรัศมี กรรมการและเลขานุการคนที่ 3
โฆษกสธ.โต้‘สว.วีระพันธ์’
ด้าน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา โฆษกกระทรวงสาธารณสุขฝ่ายการเมืองแถลงตอบโต้กรณีนายวีระพันธ์ สุวรรณนามัย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คเตือนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุขให้เคารพกระบวนการของแพทยสภาและรักษาเส้นแบ่งระหว่างอำนาจทางการเมืองกับความเป็นอิสระของวิชาชีพแพทย์ กรณีมติแพทยสภาลงโทษแพทย์ 3 คนปมชั้น 14 ร.พ.ตำรวจว่า เรื่องนี้รมว.สาธารณสุขไม่ได้หวั่นไหวหรือวิตกกังวล แต่แปลกใจว่า นายวีระพันธ์กลัวอะไรนักหนา หรือมีมิจฉาทิฐิอะไรบางอย่างตกค้างอยู่ในจิตใจเหมือนคนกลุ่มหนึ่งที่เกือบ 20 ปี ยังไม่เลิกโกรธเกลียดอาฆาตแค้นนายทักษิณหรือไม่
โฆษก สธ.ฝ่ายการเมืองกล่าวอีกว่า นายวีระพันธ์ เป็นสว.น่าจะรู้กฎหมายดีว่า พ.ร.บ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 25 บัญญัติว่า รมว.สาธารณสุขในฐานะสภานายกพิเศษของแพทยสภามีเวลา 15 วันพิจารณามติแพทยสภา ซึ่งมี 2 แนวทางคือ 1. เห็นชอบมติแพทยสภา 2. ยับยั้งหรือวีโต้ โดยไม่จำเป็นต้องแจ้งเหตุผล หากพ้น 15 วัน รมว.สาธารณสุขไม่ดำเนินการใดๆ มติแพทยสภาจะมีผลบังคับใช้อัตโนมัติ แต่ถ้า รมว.สาธารณสุขใช้สิทธิ์วีโต้ แพทยสภาต้องพิจารณาใหม่ หากยืนยันมติเดิม ต้องได้คะแนนเสียงสนับสนุนไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 ของกรรมการทั้งหมด จากกระบวนการดังกล่าว นายวีระพันธ์ควรรับรู้ว่า นายสมศักดิ์ไม่อาจดำเนินการตามใจตัวเอง ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมายที่ใช้มา 40 กว่าปีแล้ว เปรียบได้กับศาลยุติธรรมซึ่งมีชั้นต้น อุทธรณ์และฎีกา ส่วนศาลปกครองก็มีชั้นต้นและชั้นสูง การพิพากษาเปลี่ยนแปลงได้ เช่นเดียวกับ หน่วยงานรัฐ ผู้ถูกลงโทษมีสิทธิอุทธรณ์ต่อศาลปกครองได้ การใช้สิทธิ์วีโต้ของรมว.สาธารณสุขเป็นตามกฎหมายที่ให้อำนาจไว้ นายวีระพันธ์ไม่สมควรมากล่าวหาให้ร้ายรมว.สาธารณสุขแทรกแซงแพทยสภา
“ธิดา”มองการเมืองยุบสภายาก
ที่รัฐสภา นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเหตุการณ์แห่งชาติ(นปช.) กล่าวถึงกรณีนิติสงครามของพรรคการเมืองขั้วเดียวกันว่า เป็นหนึ่งในวิกฤติการเมืองของพรรคการเมือง แม้ตั้งรัฐบาลร่วมกันแต่มีความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ เชื่อว่าความสัมพันธ์ทางการเมืองอยู่ในลักษณะแบบตบจูบไปถึงช่วงใกล้ครบเทอมและเลือกตั้งใหม่ เห็นว่าโอกาสยุบสภาค่อนข้างยาก และพรรครวมรัฐบาลต้องหาทางให้รัฐบาลอยู่นานที่สุด แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอาจกลายเป็นการต่อรอง
แนะ“แม้ว”เข้าคุกเหมือนคนอื่นจะอยู่รอด
“ดังนั้น ความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทยและเพื่อไทย ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่เรียกว่าหนักอยู่ หรือหากนายทักษิณ มีปัญหากับขั้วฝั่งอนุรักษ์นิยม ความเป็นเอกภาพจะไม่มี แต่คนเกลียดนายทักษิณเยอะ ฉะนั้นหมายความว่าแม้จะมีดีล แล้วก็ไม่จบ และเห็นว่านายทักษิณมีปัญหา เมื่อดีลไม่จบ ต้องกลับมารับโทษ โดยเสนอได้ว่านายทักษิณไม่ควรกลัวคุกมากเกินไป จึงขอฝากถึงนายทักษิณว่า หากต้องติดคุกอีกทางที่ดีเข้าไปอยู่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ดีที่สุด“นางธิดากล่าว และว่า ตนทราบข้อมูลมา นายทักษิณจะไม่ยอมตายเหมือนนายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกฯที่เสียชีวิตในต่างประเทศ เชื่อว่าเรื่องนายทักษิณจะแยกกับเรื่องรัฐบาล ที่มีเรื่องฮั้วเลือก สว. รุนแรงทั้งคู่ จึงแนะนำนายทักษิณในฐานะที่รู้จักกันมาว่า ให้เข้าคุกเหมือนคนอื่นดีที่สุด จะเป็นทางที่นายทักษิณจะอยู่รอดได้
ทุกอย่างคลี่คลายดีต่อลูกสาว-พท.-ปท.
อดีตประธาน นปช.กล่าวด้วยว่า ถ้านายทักษิณ ยอมรับการเข้าไปในเรือนจำเหมือนประชาชน ทุกอย่างจะคลี่คลาย จะดีทั้งต่อนายทักษิณ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลูกสาว พรรคเพื่อไทย และดีงามต่อประเทศชาติ มีอนาคตทันที แต่หากนายทักษิณไม่อยากติดคุก และมีการต่อรอง เชื่อว่าปัญหาจะขยาย เพราะ 1 ปีที่ผ่านมา ปัญหาก็ขยายมาแล้ว ถ้านายทักษิณทำใจได้ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก็ดูแลได้ เพราะลูกน้องนายทักษิณ อดีตรัฐมนตรี ก็ติดคุก และติดโรงพยาบาลราชทัณฑ์ แพทย์ก็ดูแลได้ หากอาการหนักก็ค่อยไปรักษาที่รพ.ตำรวจ ไม่ใช่ไปรักษารพ.ตำรวจตั้งแต่ต้นจนเป็นปัญหา
นางธิดายังเชื่อว่า วันที่ 13 มิถุนายน จะเป็นจุดเปลี่ยนทางการเมืองหรือไม่ อยู่ที่นายทักษิณ แต่สถานการณ์แนวโน้ม ไม่น่าจะดีต่อนายทักษิณเท่าไร จึงแนะนำให้นายทักษิณติดคุกเพราะหลายนก็ติดมาแล้ว และขออย่าใช้อภิสิทธิ์ เหมือนลูกน้องนายทักษิณ และตนเชื่อว่า นายทักษิณ จะพยายามดีลอย่างถึงที่สุด แต่ 10 ปีที่ผ่านมา นายทักษิณก็ถูกหลอกมาเยอะเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี