ศาลปค.นัดชี้ขาดคดีจำนำข้าว22พ.ค.
‘ยิงลักษณ์’ระทึก
ลุ้นชดใช้เงินคืน3.5หมื่นล้านหรือไม่
อ้วน’ย้ำ1หมื่นเฟส3แค่เลื่อน
ศก.ดีขึ้นค่อยมาคุยกันอีกครั้ง
‘หนู’ชี้โยกงบใช้แก้ปัญหาน้ำ
“จตุพร”แนะจับตา 22 พฤษภาคม ศาลปกครองสูงสุดนัดชี้ชะตา “ยิ่งลักษณ์” ชดใช้เงินจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้าน คืนรัฐบาลจากนั้น 13 มิถุนายน การเมืองอาจเปลี่ยน ถ้า’ทักษิณ’หนีหรือติดคุก ศาลฎีกานักการเมืองนัดติดสินปมชั้น14คาดแรงกระเพื่อมเริ่มก่อตัว22พ.ค.วันที่ศาลนัดตัดสินจำนำข้าว‘อนุทิน’ย้ำต้องเตรียมแผนรับมืออุทกภัย ชี้โยกงบ1.57แสนล้าน เป็นส่วนหนึ่งใช้แก้ปัญหาน้ำ ไม่หวั่นสตง.เข้มเบิกจ่าย‘ภูมิธรรม’อ้าง ไม่ได้ยกเลิกแจกเงินหมื่นเฟส3 แค่เลื่อนออกไปก่อน ระบุเศรษฐกิจดีขึ้น ค่อยมาดูจะทำอย่างไร ชี้เลือกตั้งยังอีกยาว
เมื่อวันที่ 21พ.ค.2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน ว่า การเมืองฝ่ายรัฐบาลออกอาการพล่าน ร้อนรน งัดเกมสงครามตัวแทนเชือดเฉือน ไม่ยอมลดราวาศอกให้กัน โดยมีศูนย์กลางปัญหาอยู่ที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พยายามแย่งชิงบารมีอำนาจการนำกลับคืนมา คาดว่าการเมืองหลังวันที่ 22พ.ค.จะรุมร้อนแรงขึ้น เมื่อมีผลวินิจฉัยของศาลปกครองสูงสุดกรณีให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ต้องชดใช้เงิน 3.5หมื่นล้านบาท ที่สร้างความเสียหายในโครงการจำนำข้าวหรือไม่ ถัดจากนั้นภายในวันที่ 12มิ.ย.ผลสอบจริยธรรมแพทย์รักษา นายทักษิณ ชั้น 14 รพ.ตำรวจ ย่อมชัดเจนและครบถ้วนตามกระบวนการกฎหมาย ซึ่งจะนำพาไปสู่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดพร้อมหรือไต่สวนบังคับให้เป็นไปตามหมายจำคุกหรือไม่ ในวันที่ 13มิ.ย.สถานการณ์การเมืองจะกระเพื่อมแรงขึ้น ล้วนมีศูนย์กลางปัญหาอยู่ที่ นายทักษิณทั้งสิ้น ดังนั้นทักษิณ จึงเป็นปัญหาของชาติและปัญหาของตัวเอง แม้กองเชียร์พยายามประโคมโหมบอกว่า ทักษิณ กลับมาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจประเทศ แต่สภาพบ้านเมืองเศรษฐกิจปากท้องยิ่งย่ำแย่หนักขึ้นไปอีก
นายจตุพร ย้ำว่า การกลับมาของ นายทักษิณ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ การแลกด้วยกระบวนการยุติธรรมที่ถูกทำลายอย่างย่อยยับ แล้วลุกลามให้เกิดความเสียหายในแต่ละกระบวนการขององค์กรต่างๆมาซ้ำเติมอีก และที่สำคัญเกือบ 2ปี สภาพเศรษฐกิจบ้านเมืองไม่ได้มีอะไรที่ดีขึ้นแล้ว นายทักษิณ ประกาศย้ำคำมั่นสัญญาขออนุญาตกลับประเทศเพื่อเลี้ยงหลานเพราะแก่แล้ว กระทั่งถึงถวายฎีกา ซึ่งระบุการยอมรับผิดในคดีทุจริตคอร์รัปชั่น ยอมรับกระบวนการยุติธรรมและสำนึกในการกระทำผิดของตัวเองนั้น เมื่อกลับมาแล้ว ไม่ได้ปฎิบัติตามคำมั่นสัญญาตามนั้น โดยไม่ติดคุกสักวันเดียวและไม่ได้อยู่ในสภาพของคนกลับมาเลี้ยงหลาน หรือเป็นคนแก่ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
อย่างไรก็ตาม เมื่อกระบวนการยุติธรรมถูกทำลายแล้ว อาการย้อนแย้งย่อมตามมา เพราะทักษิณ จะใช้ความรู้ความสามารถมารับใช้บ้านเมืองได้อย่างไร โอกาสจะใช้ชีวิตอย่างผาสุขจึงเป็นปัญหาของทักษิณและบ้านเมือง เพราะวันที่13มิ.ย.ศาลฎีกานัดไต่สวนการบังคับรับโทษติดคุกหรือไม่ โดยมีข้อเท็จจริงตามผลสอบชั้น14ของแพทยสภารัดเอาผิดทักษิณ ให้แน่นขึ้น จนโอกาสดิ้นหลุดแทบไม่มีหนทาง กองเชียร์ฝ่ายกฎหมายพยายามอ้างกฎหมายซึ่งไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ย่อมเป็นการใช้กฎหมายโดยมิชอบ ดังนั้น ปัญหาของทักษิณคือ จะทำใจเข้าเรือนจำได้หรือไม่ หรือถ้าใจไม่แข็งพอ ก็ต้องคิดแบบเดิมอีก คือหนี
นายจตุพร เตือนว่า ทุกองค์รัฐที่เกี่ยวข้องกับทักษิณ อย่าได้อ้างกฎหมายไม่ตรงข้อเท็จจริง เพราะจะนำพาไปถึงการทำผิดกฎหมาย ม.157 เข้าข่ายปฎิบัติ หรือละเว้นปฏิบัติโดยมิชอบ ยิ่งกรมราชทัณฑ์ส่งตัวทักษิณไป รพ.ตำรวจ นั้น เกิดปัญหาว่า ส่งตัวไปภายใต้กฎหมายอะไร เมื่อข้อเท็จของแพทยสภาระบุจนทำให้เข้าใจว่า รายงานป่วยเป็นเท็จ ดังนั้นเมื่อเริ่มโกหกวันแรกเพื่อช่วยทักษิณ การโกหกซ้ำๆ จึงขยายไปกว้างขวางตามมากันตลอด วันที่ 13มิ.ย.ปัญหาคือ ทักษิณ จะไปศาลหรือไม่ ถ้าไม่ไปตามหมายศาลแล้วศาลสามารถออกหมายจับได้ ซึ่งจะทำให้เหตุการณ์ง่ายๆ ได้ทวีแรงขึ้นตามลำดับ อีกทั้งถัดไปในเดือนกรกฎาคมจะมีการพิจารณาคดี ม.112 ย่อมยากจะคาดเดาผลการพิจารณาของศาลได้ ปัญหาของทักษิณ ย่อมเป็นบทเรียนแสดงว่า อะไรก็ตามที่ไม่ตรงไปตรงมา ก็ไม่ควรทำ เพราะจะเน้นย้ำถึงการสำแดงตัวตนของตัวเองให้คนไทยได้รู้จักกระจ่างชัดเจนขึ้น ถึงที่สุดแล้วไม่มีใครทำอะไรทักษิณได้ นอกจากตัวทักษิณเอง
นายจตุพร คาดว่า หากทักษิณ ติดคุก การเมืองจะเปลี่ยนไป หรือถ้าหนีอีก ยิ่งทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปอีกแบบ ทั้งที่ปัจจุบันรัฐบาลแทบทะเลาะลึกและจ้องกัดหูกันอยู่แล้ว ดังนั้นการแก้ปัญหาของบ้านเมืองต้องไม่ใช่การเพิ่มปัญหา เพราะยิ่งทำให้บ้านเมืองสะสมความเสียหายมากมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลปกครองสูงสุดนัดออกบัลลังก์อ่านคำพิพากษา คดีที่กระทรวงการคลังยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลปกครองกลาง ที่สั่งเพิกถอนคำสั่งกระทรวงการคลังที่135/2559ลงวันที่ 13ต.ค.2559 ที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนกรณีปล่อยให้มีการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและเพิกเฉยไม่ระงับยับยั้งความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ราชการ เป็นเงิน 35,717,273,028บาท ในคดีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์และนายอนุสรณ์ อมรฉัตร สามี ร่วมกันยื่นฟ้องนายกรัฐมนตรี รมว.คลัง รมช.คลัง ปลัดคลัง สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงคลัง กรมบังคับคดี อธิบดีกรมบังคับคดีและเจ้าพนักงานบังคับคดี สำนักงานบังคับคดีแพ่ง กรุงเทพมหานคร กรณีร่วมกันมีคำสั่งดังกล่าวโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากศาลปกครองกลางในขณะนั้น เห็นว่า กระทรวงการคลัง ยอมรับว่า ไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่านางสาวยิ่งลักษณ์ เป็นผู้กระทำให้เกิดความเสียหายโดยตรงและขั้นตอนการตรวจสอบของคณะกรรมการสอบสวนความรับผิดทางละเมิดก็ไม่ถูกต้องตามที่กฎหมายกำหนด โดยนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 22พ.ค.นี้ เวลา 13.30น.
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีรัฐบาลเลื่อนแจกเงินดิจิทัล 1หมื่นบาท เฟส3และนำงบไปกระตุ้นเศรษฐกิจแทนจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของประชาชนต่อพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ว่า การเลือกตั้งครั้งหน้ายังอีกยาว ไม่ใช่ว่าจะทำอะไรตอนนี้ได้เร็วๆและเราไม่ได้ยกเลิก เราเลื่อนออกไปก่อน เพราะเหตุเฉพาะหน้า ขณะนี้ปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้น เรื่องสงครามการค้าและภาษี เป็นเรื่องเฉพาะหน้าที่ต้องขยับทำการแก้ไขก่อน ทุกประเทศทั่วโลกที่ตกอยู่ในสภาวะแบบนี้ ก็กำลังแก้ปัญหาอยู่ ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ใช้งบกลางบางส่วนและงบหลายๆส่วนที่เป็นงบเหลือใช้ ที่มี 1.57แสนล้านบาท ซึ่งอาจจะรวมถึงดิจิทัลวอลเล็ตในรอบ3 เรายังไม่ได้ยกเลิก แต่ต้องเอามากระตุ้นเศรษฐกิจให้ภาวะเศรษฐกิจโดยรวมดีขึ้นทั้งหมดก่อนจะทำให้ประเทศเดินหน้าและพัฒนาต่อไปได้ จากนั้นค่อยดูว่า จะทำอะไร แค่ไหน อย่างไร ทั้งหมดเป็นการทำให้เกิดประโยชน์กับประชาชน การกระตุ้นเศรษฐกิจก็เป็นการช่วยประชาชนอยู่แล้วในทางอ้อม และเป็นการช่วยโดยตรงกับประเทศก็เลื่อนไป และทางกระทรวงการคลังน่าจะชี้แจงแล้ว
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์หลังมอบนโยบายการเพิ่มประสิทธิภาพเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ และการแจ้งเตือนสาธารณภัยระดับพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า ต้องเตรียมแผนรับมืออุทกภัย ทั้งแผนเผชิญเหตุ ตรงไหนป้องกันได้ก็ต้องป้องกันอย่างเต็มที่ ดูปริมาณน้ำ และสภาพภูมิประเทศ เพราะมีโอกาสที่จะเกิดน้ำหลากน้ำท่วมได้แน่นอนอยู่แล้ว จึงต้องเร่งที่จะบรรเทาภัยพิบัตินั้นให้รวดเร็วที่สุด เสียหายให้น้อยที่สุด เมื่อถามว่า การโยกงบประมาณจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 1.57แสนล้านบาท จะเป็นประโยชน์ที่จะมาแก้ปัญหาเรื่องน้ำใช่หรือไม่นั้นนายอนุทิน กล่าวว่า เป็นส่วนหนึ่ง และข้อกำหนดการใช้งบต้องทำอย่างรวดเร็ว ทุกอย่างเสร็จได้ภายในไม่เกิน1ปีและต้องเป็นการลงทุนที่ยั่งยืน จะมาช่วยในเรื่องการบริหารจัดการน้ำได้มาก ทั้งการวางแผนกักเก็บน้ำ การสร้างทางน้ำ สร้างเขื่อนป้องกันหรือตลิ่งป้องกันน้ำท่วม
เมื่อถามว่า กังวลเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะเข้มงวดในการเบิกจ่ายหรือไม่ หรือสามารถพิจารณาได้เลย นายอนุทิน กล่าวว่า มีการกำหนดในระเบียบไว้อยู่แล้ว และมีแบบฟอร์มของการนำของบประมาณที่ทางจังหวัด และผู้ว่าราชการจังหวัดจะต้องไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำเป็นการของบขึ้นมา กระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณมีวิธีในการพิจารณา คำขอต่างๆ เมื่อถามถึงกรณีที่ผ่านมาหน่วยงานท้องถิ่นไม่กล้าที่จะประกาศเพื่อขอใช้งบฉุกเฉิน จะใช้งบกลาง ทั้งที่สามารถใช้งบฉุกเฉินได้นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ในท้องถิ่นมีงบฉุกเฉินสำหรับชาวบ้าน แต่ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ประกาศ และติดตามว่าทำไมถึงเบิกเงินในส่วนนี้ เราต้องสร้างความเข้าใจให้กับพวกเขา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี