‘ภูมิธรรม’ออกตัวแทน‘อิ๊งค์’
โวรวย-ไม่เอาเงินหลวงไปตปท.
“ภูมิธรรม”โต้แทน “นายกฯอิ๊งค์” โวมีทรัพย์สินมหาศาล ไม่ต้องเบียดบังงบหลวง ไปเที่ยวต่างประเทศ จี้หาความรับผิดชอบพวกดรามา รับคุย“ธรรมนัส”หลังไม่ได้เจอนาน ออกตัวอย่าดราโยงคดีฮั้วสว.-ปรับ ครม.แต่ยอมรับหลังงบ 69ผ่านสภา สถานการณ์การเมืองเป็นไปได้ทั้งนั้น ด้าน‘เทพไท’กาง7ข้อสังเกต‘อิ๊งค์’ออกทริปไปอังกฤษ ทำงาน เที่ยว หรือแค่ไปเยี่ยม‘ยิ่งลักษณ์’
เมื่อวันที่ 23พฤษภาคม 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีมีการโจมตี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ใช้งบหลวงไปต่างประเทศ ว่า อยากชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงประเด็นนี้ การดรามาแล้วนำไปลงใน Facebook หรือช่องทางอื่นๆของสื่อโซเชียลมีเดีย ควรจะมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่คิดอะไรแล้วนำไปโพสต์ทำให้เกิดความเสียหาย ที่ดรามากันว่านายกฯไปเที่ยว ไม่มีความจำเป็นเลยที่นายกฯ จะต้องไปใช้งบหลวง ในหลายเรื่องท่านไม่ได้ใช้งบหลวง แต่ใช้งบส่วนตัวด้วยซ้ำไป การไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรีหรือรัฐมนตรีท่านอื่น ไม่จำเป็นที่จะต้องมาบอกรายละเอียด เพราะมีหลายเรื่องที่ไม่สามารถจะเปิดเผยได้ บางคนอยากจะเจอเราแต่เขาก็ไม่อยากเปิดเผยตัวเอง ในการพูดคุยกับผู้นำต่างประเทศ รวมถึงทางการทูตมีทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ หรือ เป็นทางลับ ดังนั้นหากมีสิ่งใดที่เปิดเผยได้ก็จะดำเนินการทันที เพราะการเปิดเผยสะท้อนให้เห็นว่าเราทำงาน เช่นเดียวกับกรณีการเจรจากับทางสหรัฐ เรื่องภาษี แม้ดูเหมือนยังไม่มีอะไรคืบหน้า แต่ในทางลับเราดำเนินการอยู่ ทางสหรัฐก็มีเงื่อนไขข้อเรียกร้องกับเรา หากเรายังไม่พร้อมก็ต่อรองไป
“ผมมองว่าวิญญูชน เขาตระหนักได้ว่า การที่นายกฯ ที่มีทรัพย์สินส่วนตัวจำนวนมากมายขนาดนั้น ไม่จำเป็นต้องมาเบียดบัง งบหลวง ทำให้เกิดความเสียหายต่อตัวเองเปล่าๆ และท่านก็ไม่ใช่คนที่จะมาเอานั่นเอานี่จากคนอื่น เรื่องดราม่าอยากให้มองที่ข้อเท็จจริง” นายภูมิธรรม กล่าว
นายภูมิธรรม กล่าวว่าต้องเข้าใจว่าการบริหารงานไม่ใช่สิ่งที่จะมาพูดในที่สาธารณะ เพราะบางเรื่องก็ละเอียดอ่อน ซึ่งไม่มีประโยชน์ที่จะนำไปดรามาและทำให้มีความรู้สึกไม่ดีต่อกัน เพราะปัจจุบันสังคมไทยมีปัญหามากอยู่แล้ว เรากำลังแก้ไขปัญหาไปทีละประเด็น เมื่อถามว่า ล่าสุดนายกฯไโพสต์ภาพคู่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯให้กำลังใจในเรื่องคดีจำนำข้าวและไปโจมตีว่า นายกฯไปพบ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ทำไมต้องเดินทางไปพบคุณยิ่งลักษณ์ ตนจะโพสต์ให้กำลังใจ คุณยิ่งลักษณ์ เช่นกัน เพราะรู้สึกเห็นใจ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ปรึกษาประธาน พรรคกล้าธรรม เดินทางเข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล วานนี้ (22 พ.ค.)ว่า วานนี้ ตนมีภารกิจค่อนข้างข้างรัดตัว แต่ระหว่างทางที่เดินออกมาจากห้องประชุม ได้พบกับ ร.อ.เอกธรรมนัส ก็เลยชวนเข้าไปนั่งกินกาแฟ ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 10 นาที พูดคุยทักทายกันตามปกติ เพราะไม่ได้เจอกันมาซักระยะหนึ่งแล้ว เพราะ ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้อยู่ในครม. ชุดนี้ก็เลยไม่เจอกัน ที่ตนต้องออกมาพูดเพราะห่วงว่าจะไปดรามาแล้วโยงคดีฮั้วสว. รวมถึงการปรับครม. ขอย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มี
เมื่อถามว่าหลัง งบประมาณปี 69 ก็ไม่แน่ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า “สถานการณ์ทางการเมืองเป็นไปได้ทั้งนั้น แต่ไม่ใช่การส่งสัญญาณ เดี๋ยวไปพาดหัวข่าวกันอีกว่าภูมิธรรม ส่งสัญญาณปรับครม. ยืนยันยังไม่มีการพูดคุยกันในเรื่องนี้”
นายเทพไท เสนพงษ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก“เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง“อุ๊งอิ๊ง ไปอังกฤษในฐานะใด”ระบุว่า ผมฟังนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ออกมา แก้ต่างตัดพ้อถึงการวิพากษ์วิจารณ์กรณีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินทางไปประเทศอังกฤษว่า “คนที่จ้องจะโจมตี หายใจก็โจมตี ทำอะไรก็โจมตี แต่งตัวไม่ดีก็โจมตี เป็นพวกว่างงาน นายกรัฐมนตรีไปทำงาน ไปทำงานราชการ ไม่ได้คิดว่าจะต้องไปแค่เรื่องส่วนตัวอย่างเดียว ไปทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน” และนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกรัฐบาล ออกมาตอบโต้ถึงคนวิพากษ์วิจารณ์นางสาวแพทองธาร ว่าเกิดจากความอิจฉาตาร้อน ผมไม่ได้อิจฉานางสาวแพทองธาร และไม่มีอคติใดๆทั้งสิ้น แต่อยากจะเรียนข้อเท็จจริงให้ทราบว่า นางสาวแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี เป็นบุคคลสาธารณะ สามารถถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้ การเดินทางไปต่างประเทศครั้งนี้ ใช้งบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษี ของคนไทยทั้งประเทศ ประชาชนก็มีสิทธิ์ที่จะตั้งข้อสงสัย และตรวจสอบได้ ถ้าหากนางสาวแพทองธาร เดินทางไปเป็นการส่วนตัว ใช้เงินของตัวเอง ก็คงจะไม่มีใครวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้
อยากจะตั้งข้อสังเกตการเดินทางของนางสาวแพทองธาร เดินทางไปอังกฤษดังนี้ 1.มีกำหนดการหรือโปรแกรมอะไรที่เป็นทางการหรือไม่ 2.ภาพถ่ายที่เห็นส่วนใหญ่เป็นภาพถ่ายอยู่ข้างถนนทั้งนั้น เหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วไป 3.กิจกรรมส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมส่วนตัวเดินห้างเดินซุปเปอร์มาร์เก็ตเจอสินค้าไทยก็หยิบมาถ่ายรูปประกอบ เหมือนกับคนไทยทั่วไปที่เดินซุปเปอร์มาร์เก็ต 4.การแต่งตัวก็แบบสบายๆ หรือPrivate ไม่ได้แต่งตัวแบบทางการ ทำภารกิจในนามรัฐบาล5.ไม่มีทีมประชาสัมพันธ์ของรัฐบาล ไม่เชิญสื่อมวลชน ไปทำข่าวโปรโมท ซึ่งผิดวิสัยของนายกรัฐมนตรี Gen Y 6.เยี่ยมค่ายมวย ถ่ายรูปกับนักมวย เดินห้างถ่ายรูปกับผู้บริหารห้าง และโชว์สินค้าที่ขายในห้าง7.ไม่มีวาระงานที่เข้าพบ หรือเยี่ยมคารวะผู้นำประเทศเลย และไม่มีภารกิจลงนามบันทึกข้อตกลง เซ็นMOU หรือสนธิสัญญาใดๆ ที่ระดับผู้นำประเทศไปเยือนประเทศต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบการเดินทางไปต่างประเทศของนางสาวแพทองธาร ไม่ต้องนำไปเปรียบเทียบกับนายกรัฐมนตรีคนอื่นๆ แค่นำมาเปรียบเทียบกับนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนพรรคเดียวกัน จะเห็นได้ว่าต่างกันมาก
นายเศรษฐาเดินทางไปต่างประเทศบ่อยก็จริง แต่มีวาระงานที่ชัดเจน และมีเป้าหมายในการเปิดตลาดสินค้าไทย เห็นภาพความเป็นเซลล์แมนของประเทศชัดเจน แต่กรณีของนางสาวแพทองธาร เดินทางไปต่างประเทศแต่ละครั้งไร้สาระมาก เหมือนกับไปเที่ยว ไปช้อปปิ้ง หรือแค่ไปเยี่ยมนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้เป็นอาเท่านั้น ถ้า น.ส.แพทองธาร เดินทางไปประเทศอังกฤษทำได้แค่นี้ วันจันทร์ที่ 26พฤษภาคมนี้ ผมเดินทางไปประเทศอังกฤษด้วยเงินส่วนตัว จะเก็บภาพแบบ น.ส.แพทองธาร มาอวดให้ดูบ้าง
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ในฐานะนายกสมาคมสมาพันธ์สตรีมิตรภาพไทย-จีน และประธานหลักสูตร China Business Leader (CBL) ได้นำนักธุรกิจไทยกว่า 50ราย จากหลักสูตร CBL รุ่นที่ 3 เดินทางไปจับคู่ธุรกิจกับนักธุรกิจชั้นนำในประเทศจีน ที่นครกวางโจวและเซินเจิ้น สาธารณรัฐประชาชนจีน
โดยคุณหญิงสุดารัตน์ ตระหนักว่า ขณะนี้กำลังเกิดวิกฤตของเศรษฐกิจโลก และวิกฤตเศรษฐกิจไทย ที่เดิมก็ย่ำแย่อยู่ก่อนแล้ว เมื่อมาเจอกับมาตรการภาษีทรัมป์ ยิ่งทำให้ผู้ประกอบการไทยตกที่นั่งลำบากมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SMEs จึงมีความตั้งใจที่จะช่วยผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs ให้มีโอกาสขยายตลาดไปยังประเทศจีน โดยพยายามที่จะใช้ศักยภาพของตนเองอย่างสุดความสามารถ เพื่อเป็นสะพานเชื่อมผู้ประกอบการไทยให้เข้าไปขายสินค้ายังประเทศจีนได้ทั้ง online และ offline ซึ่งจีนเป็นตลาดใหญ่ที่มีลูกค้ารออยู่ถึงกว่า 1,300 ล้านคน เริ่มจากการนำนักธุรกิจไทยไปพบและหารือกับผู้บริหารบริษัท China Resources Group (CRC) บริษัทยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน ที่มียอดขายถึงปีละกว่า 4 ล้านล้านบาท มีทรัพย์สินกว่า 12 ล้านล้านบาท ประกอบธุรกิจหลากหลาย โดยการหารือในครั้งนี้ได้เน้นไปที่บริษัท CR Vanguard ผู้บริหาร Ole Supermarket ซึ่งมีสาขากว่า 2,000 แห่งทั่วประเทศจีน โดยผู้บริหารมีความสนใจสินค้าของผู้ประกอบการไทยที่เดินทางมาในครั้งนี้เป็นอย่างมาก ซึ่งสินค้าที่นำไปเที่ยวนี้ประกอบด้วยสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรเพื่อสุขภาพ Art Toy จากศิลปินไทย เป็นต้น โดยผู้บริหารห้าง Ole ประสงค์ที่จะนำสินค้าจากผู้ประกอบการไทยมาจำหน่ายในห้าง Ole กว่า 2,000 สาขาทั่วประเทศจีน เนื่องจากคนจีนให้ความนิยมในสินค้าไทยอยู่แล้ว และยิ่งผลิตจากวัตถุดิบที่มีคุณภาพจากไทยแล้ว ยิ่งขายได้ราคาสูง จึงนับเป็นความสำเร็จขั้นต้นสำหรับการเจรจาธุรกิจในวันนี้
คุณหญิงสุดารัตน์ ได้กล่าวขอบคุณในความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้บริหารของ CR Vanguard ผู้บริหาร Ole Supermarket พร้อมย้ำว่าในยามที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกเช่นนี้ เราต้องจับมือร่วมกันระหว่างไทย – จีน เพราะไทยจีนไม่ใช่คนอื่นไกล คือพี่น้องกัน ร่วมจับมือกัน ทำธุรกิจร่วมกัน เกื้อกูลกัน เพื่อให้สามารถอยู่รอดได้ในวิกฤตนี้ไปด้วยกัน“ดิฉันตั้งใจเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นสะพานเชื่อมให้ SMEs ไทยได้มีโอกาสนำสินค้ามาขายยังแผ่นดินจีน ที่มีกำลังซื้อมากถึง 1,300 ล้านคน โดยเฉพาะในสภาวะที่เศรษฐกิจโลก และเศรษฐกิจไทยกำลังวิกฤต เราต้องมองหาช่องทางในการช่วยผู้ประกอบการไทยให้มากที่สุด และดิฉันจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมให้ธุรกิจไทยได้สามารถเข้ามาบุกตลาดจีนให้สำเร็จ” คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี