เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ได้เผยแพร่ข่าวที่น่าสนใจ "ป.ป.ช.รับสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น 'ทวี-ยุทธนา' โดนร้องจงใจกลั่นแกล้งคดีฮั้วเลือก สว." มีเนื้อหาดังนี้
ป.ป.ช.ลงมติรับเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้น กลุ่ม สว. ร้องเรียน 'พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง' รมว.ยุติธรรม - 'พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ' อธิบดีดีเอสไอ จงใจกลั่นแกล้งคดีฮั้วเลือก สว. ให้ได้รับความเสียหายถึงขั้นล้มล้างการปกครอง เผย 4 ขั้นตอน ถ้าไม่มีมูลโดนตีตก
จากกรณีกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดึเอสไอ) ตั้งข้อกล่าวหาฟอกเงินในการเลือก สว. หรือคดีฮั้ว สว. นำโดย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว.กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม อดีตผู้บังคับการตำรวจภูมิธร จังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมคณะสว. ประมาณ 10 คน ยื่นหนังสือถึงนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เพื่อส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) พิจารณาดำเนินการสืบสวนไต่สวนตามอำนาจหน้าที่ เนื่องจากเห็นว่าการปฏิบัติหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต. ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นการจงใจกลั่นแกล้ง ทำให้ สว.ได้รับความเสียหายและอาจถึงขั้นล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯนั้น
เมื่อวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช.เปิดเผย สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติให้รับเรื่องที่กลุ่ม สว. ร้องเรียน พ.ต.อ.ทวี และ พ.ต.ต.ยุทธนา ไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นแล้ว
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในขั้นตอนการรับเรื่องไว้ไต่สวนของ ป.ป.ช. มีทั้งหมด 4 ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนแรก คือ การรับเรื่องร้องเรียนซึ่งจะมีการพิจารณาว่าเรื่องที่ร้องเรียนมีมูลที่น่าจะรับเรื่องไว้ตรวจสอบหรือไม่ ถ้าไม่มีมูลก็ให้ตีตกไป
ขั้นตอนที่สอง หลังจากพิจารณาเรื่องร้องเรียนแล้ว ถ้าเห็นว่ามีมูลเพียงพอก็จะเสนอคณะกรรมการให้พิจารณาว่าจะมีมติรับเรื่องไว้ตรวจสอบเบื้องต้นหรือไม่
ขั้นตอนที่สาม เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้รับเรื่องไว้ตรวจสอบเบื้องต้น ทางสำนักที่มีหน้าที่ในการดำเนินการ เช่น สำนักไต่สวนการเมือง ก็จะเข้าไปดำเนินการหากข้อเท็จจริง เรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาไต่สวนให้ได้ข้อมูลประมาณ 70 - 80% ถ้าเห็นว่า ข้อมูลเพียงพอก็จะเสนอให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ตั้งคณะขึ้นมาไต่สวน
ถ้าเป็นเรื่องสำคัญมีระดับรัฐมนตรี หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องมีกรรมการ ป.ป.ช. อย่างน้อยสองคนเป็นองค์คณะ หรือถ้าเรื่องสำคัญมาก คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะจะเป็นองค์คณะไต่สวนเอง ทั้งนี้ในการไต่สวนสามารถใช้ข้อเท็จจริงที่ได้จากตรวจสอบเบื้องต้นมาใช้ในสำนวนได้ด้วย
ขั้นตอนที่สี่ ถ้าการไต่สวน เห็นว่าข้อกล่าวหามูลก็จะแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบและชี้แจงข้อกล่าวหา จากนั้นจะสรุปสำนวนเพื่อชี้มูลความผิดต่อไป
ขอบคุณที่มาจาก : https://www.isranews.org/article/isranews/138260-invesnewsds-3.html
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี