‘สว.อังคณา’ฉะปมชั้น14 ชี้รัฐบุรุษระดับโลกก็ติดคุกได้ แต่‘ทักษิณ’ไม่ติดสักวัน จับตาคดี 13 มิ.ย.นี้ สร้างแรงกระเพื่อมทางการเมือง มึน‘ป.ป.ส.’เชิญ‘ทักษิณ’ปาฐกถาพิเศษปราบยาเสพติด ทั้งที่ยุคนั้นมี‘อุ้มหาย’คดียาเสพติดกว่า 3,000 คน แต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้รับโทษ
27 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา นางอังคณา นีละไพจิตร สว. ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การมีส่วนร่วมของประชาชน สิทธิมนุษยชน สิทธิ เสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงคดีชั้น 14 ของ นายทักษิณ ชินวัตรอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลฎีกานัดคู่ความไต่สวนวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ว่า ประชาชนคลุมเครือขณะเดียวกัน ก็มีกระแสข่าวเรื่องดีลเข้ามาเยอะมาก ทั้งเรื่องนายทักษิณและคดีฮั้ว สว. และมีการจับตาว่าทุกอย่างจะจบที่พรรคการเมืองใหญ่คุยกันได้หรือไม่
ส่วนกรณีที่นายทักษิณพักรักษาตัวที่ชั้น 14 เป็นระยะเวลานานนั้น นางอังคณา กล่าวว่า เป็นการเลือกปฏิบัติโดยหยิบยกเหตุการณ์ที่ได้ไปเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ คนไข้ที่ใช้เครื่องช่วยหายใจ ก็ยังพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลทัณฑสถาน แต่นายทักษิณไม่ได้มาอยู่ในส่วนของโรงพยาบาลราชทัณฑ์เลย ทำให้ถูกมองว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ดังนั้นประชาชนจึงจับตา คำสั่งของศาลฎีกาวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ก่อนจะทิ้งท้ายว่า “รัฐบุรุษที่สำคัญของโลกก็ยังติดคุกได้ แต่ทำไมนายทักษิณไม่ติดเลยสักวันเดียว ทำให้ชาวบ้านมีความสงสัย”
นางอังคณา กล่าวถึงคำสั่งของศาล ที่จะมีในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ไม่ว่าจะออกมาทางใด วัดส่งผลกระทบทางการเมืองแน่นอน เพราะมีรัฐบาลที่มีน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งเป็นลูกสาวของนายทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี รวมถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีไปประชุมที่ประเทศมาเลเซีย แต่นายกมาเลเซียกล่าวชื่นชมนายทักษิณถือเป็นการข้ามหัว นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ทำให้อาจถูกมองว่านายทักษิณเป็นนายกตัวจริง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ทำให้กรรมาธิการเห็นว่ามีชนชั้นที่จะทำอะไรก็ได้ในการเลือกปฏิบัติ
เมื่อถามว่าวันที่ 13 มิ.ย.จะเห็นผลที่เป็นแรงกระเพื่อมทางการเมืองจะทำให้เห็นว่านายทักษิณเสียเปรียบหรือได้เปรียบอย่างไรนั้น นางอังคณากล่าวว่า ต้องรู้ว่าศาลสั่งออกมาอย่างไร และนายทักษิณจะให้การประสานหรือไม่ หรือจะ ป่วยหนักในวันนั้นหรือไม่ ถ้าหากยังเชื่อว่าอำนาจอธิปไตยศาลจะตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อำนาจของฝ่ายบริหารได้ ส่วนตัวหวังว่านายทักษิณจะไปศาล และชี้แจงเรื่องของการรักษาตัวชั้น 14 ซึ่งคนทั่วไปเชื่อว่าไม่ได้ป่วยจริง แม้นายกจะยืนยันว่าป่วยจริง ซึ่งผล จากคำสั่งศาลในวันนั้นอาจทำให้ได้เห็นถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับชั้น 14
ส่วนผลของวันที่ 13 มิ.ย. จะกลับเพิ่มประเด็นไปถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หรือไม่นั้นนางอังคณากล่าวว่า ต้องการ ที่จะรู้จุดมุ่งหมายของพรรคเพื่อไทย ว่าต้องการแค่นำนายทักษิณกลับ และนำน.ส.ยิ่งลักษณ์กลับ โดยที่ไม่ต้องติดคุก และน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่ต้องชดใช้ค่าเสียหายหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นประชาชนไม่ได้ประโยชน์ แต่ไปรับปากเรื่องสวัสดิการให้กับประชาชน แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า มีความต้องการ แค่ให้คนในครอบครัวหรือไม่
นางอังคณา ยังกล่าวถึงการกล่าว ปาฐกถา ที่พิเศษที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(ป.ป.ส.)ของนายทักษิณในวันนี้ ว่า รู้สึกงงมากจากการให้สัมภาษณ์ของเลขาธิการ ป.ป.ส. โดยอ้างอิงว่านายทักษิณประสบความสำเร็จในการปราบปรามยาเสพติด จึงแนะนำให้ไปอ่านรายงานของ คตน.ของนายคณิต ณ นคร ที่มีรายงานการอุ้มหายเกี่ยวกับคดียาเสพติดกว่า 3,000 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่มีคนใดได้รับโทษ จึงต้องข้อสังเกตว่าเหตุใดเลขาป.ป.ส.ถึงมองว่านายทักษิณประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ซึ่งเรื่องนี้ไทยถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนานาชาติ
ส่วนการเชิญนายทักษิณแบบนี้ถือเป็นการ ข้ามหัวนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นางอังคณา กล่าวว่า ทุกคนมองเช่นนั้น โดยเฉพาะที่พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นผู้เชิญนายทักษิณมาร่วมงาน อาจจะเป็นการเปิดทางให้พูดชี้แจงเรียกร้องความเห็นใจ ซึ่งสถานการณ์ทางการเมืองปัจจุบันขณะนี้มีมาก จนทำให้เกิดการตั้งข้อสงสัยว่านายกรัฐมนตรีจะรับมืออย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหา สว. ปัญหาภายในของวุฒิสภา ที่ไม่กี่วันนี้จะต้องเลือกองค์กรอิสระ และเวลาเดินทางไปต่างประเทศก็มีทูตสอบถามเรื่องฮั้ว สว. ทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นตั้งแต่นายทักษิณกลับมาไทย จะดีลหรือไม่ดีลเชื่อว่านายทักษิณรู้อยู่แก่ใจ และปัญหาด้านเศรษฐกิจที่ค่อนข้างน่ากังวล
“ขณะเดียวกันปัญหาที่เกิดขึ้นนายกรัฐมนตรี ก็ตอบคำถามคล้ายไม่สนใจ เป็นการตอบโต้มากกว่าการชี้แจง และวันนี้ก็ยังไม่เห็นภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรีอย่างที่ควรจะเป็น อย่างวันนี้ที่นายทักษิณออกมาก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรเกี่ยวกับนโยบาย หรือปัญหาส่วนตัว และที่สำคัญทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นคือนโยบายต่างๆ ที่รัฐบาลให้คำมั่นตามที่หาเสียงไว้ เช่น การแจกเงินดิจิทัล ไม่ได้ทำเลย เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ก็ไม่คืบหน้า” นางอังคณา กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี