‘นรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ ’ อัดแพทยสภาไร้จริยธรรม ลืมนกหวีดไว้ข้างหลัง
วันที่ 27 พฤษภาคม 2568ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นายนรินท์พงศ์ จินาภักดิ์ นายกสมาคมทนายความแห่งประเทศไทย ในฐานะคณะกรรมการเสนอความเห็นสภานายกพิเศษเพื่อพิจารณา ตามมาตรา 25 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ.2525 ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังจากการยื่นรายงานความเห็นต่อนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ แพทยสภาว่า ความเห็นกรรมการแต่ละคนนั้นไม่สามารถเปิดเผยได้ จนกว่ารมว.สาธารณสุข จะอ่าน ซึ่งมีความหลากหลายมุม ทั้งเห็นด้วย ไม่เห็นด้วย ซึ่งประกอบแล้ว 9 คนนั้นน่าจะเกิดความเป็นธรรมพอสมควร
ทั้งนี้อาจมีการโยงว่ากรรมการฯ อยู่ทางการเมืองบ้าง อยู่กับเสื้อแดงบ้าง แต่ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะเราตัดสินด้วยหลักนิติรัฐ นิติธรรม คือความถูกต้อง เนื่องจากมีเอกสารเข้ามาจากทั้งแพทย์ และแพทยสภา เหมือนตาชั่งที่มีข้อมูลทั้งซ้ายและขวา ฉะนั้นเราไม่สามารถทำอย่างอื่นได้เลย นอกจากดุลยพินิจเพื่อรายงานว่า ความเห็นของพวกเราเป็นอย่างไร แล้ววันนี้ครบถ้วน นอกจากนี้ผลดังกล่าวไม่ได้ไปมีผลต่อการตัดสินคดีของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ เพราะเป็นคนละเรื่อง แต่การที่เราพิจารณาส่งถึงรมว.สมศักดิ์นั้น กระบวนการต่อไปก็ส่งกลับไปที่แพทยสภาที่ต้องมีการพิจารณาต่อและลงมติ 2 ใน 3 ถ้าเห็นว่าแพทย์ทำผิดก็ยืนยันตามเดิม ดังนั้นถือว่า เป็นความยุติธรรม ไม่ได้เกิดการเอื้อประโยชน์ต่อใคร แต่สังคมไม่มองจุดนี้
“แต่มองว่าวันนี้บ้านพวกผมเป็นคนเลวแล้ว แต่จริงๆไม่ใช่ เราเห็นปัญหาว่าบ้านเมืองขาดหลักไป เราไม่ใช่พวกใครจริงๆ แต่เรามีประสบการณ์ด้านนี้ คนที่กล้าหาญเท่านั้นที่จะมาพูดเรื่องนี้ เราช่วยปกป้องความยุติธรรม ถ้าท่านรัฐมนตรีเห็นอย่างไรก็เชื่อว่าเรื่องนี้กลับไป กลับมา ก็อยู่ในวันที่ 13 มิ.ย. อยู่แล้ว เพียงแต่จะสง่างามหรือไม่ หมอ 3 คนบอกว่า ตัวเองลงโทษก็ถือว่าแฟร์ ถ้าไม่ถูกลงโทษก็แฟร์ ดังนั้น ถ้าเราเปิดใจกว้างๆ ผมว่าดีนะที่คนให้ความสนใจและมองหลายมุม” นายนรินท์พงศ์ กล่าว
นายนรินท์พงศ์ กล่าวต่อว่า ในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ ตนเชื่อว่าศาลฎีกาที่จะมีการพิจารณาเรื่องชั้น 14 นั้น ศาลคงไม่ไปดูว่าผลการวินิจฉัยลงโทษจริยธรรมแพทย์ 3 เดือน 6 เดือน ของแพทยสภา แล้วนำผลไปพ่วงให้คนเหล่านั้นได้รับเคราะห์ ไม่ใช่แบบนี้แน่นอน แต่วันนี้มีการปลุกกระแสทางการเมืองให้เกิดความหวาดระแวงมากกว่า ขอย้ำว่าในฐานะที่เป็นทนายความมา 42 ปี ยืนยันว่าไม่เกี่ยวแน่นอน แต่ตนมั่นใจว่าผลจะเป็นอย่างไร แพทยสภาก็ต้องนำเรื่องนี้ไปประกอบ เพราะมีความเชื่อมโยงกับการส่งตัวของนายทักษิณ เข้าเรือนจำในวันแรก และเชื่อมต่อกลางคืนที่มีปัญหา และเชื่อมต่อวันที่ออกมา แต่ก็มั่นใจว่าไม่ได้เกี่ยวกันมาก ทั้งนี้การตัดสินคดีของศาล จะเอาใครลงโทษในคดีอาญาคงไม่ได้เอาเรื่องที่หมอโดนภาคทัณฑ์แล้วให้นายทักษิณกลับมาติดคุกนั้นคงไม่ใช่ แต่นายทักษิณก็ต้องมีเหตุผลว่าป่วยเพราะไร อยู่ยาวเพราะอะไร
เมื่อถามว่า กรณีแพทย์ที่ถูกลงโทษไม่ได้ส่งเอกสารบางอย่างถึงแพทยสภา พอถูกตัดสินโทษแล้วค่อยนำส่งเอกสารนั้นมาให้สภานายกพิเศษ แบบนี้ทำได้หรือไม่ นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า จะบอกให้ฟังว่าวันนี้ แพทย์ที่ถูกร้องเรียนทั้ง 4 คน จะใช้คำสั่งนี้ไปต่อสู้ที่ศาลปกครอง เขาจะเอาเรื่องราวที่มาทำที่นี่ไปอุทธรณ์ไว้ การที่เป็นหมอใหญ่แล้วโดนสั่งลงโทษพักใช้ใบอนุญาต 6 เดือนเสียชื่อที่ทำมาทั้งชีวิต ดังนั้นถ้าหมอในแพทยสภาก็ไปสู้กันที่ศาลปกครอง แต่ก็ไม่มีผลกับการพิจารณาของศาลฎีกาในวันที่ 13 มิ.ย.นี้อยู่ดี ซึ่งเป็นคนละเรื่อง หมอเขาไม่หมูหรอก แพทย์ให้การรักษาโดยไม่ปล่อยให้คนไข้ตาย
เมื่อถามว่า แพทย์ทั้ง 3 คนนี้ ได้มีการมาปรึกษาหารือเกี่ยวกับการฟ้องศาลปกครองหรือไม่ นายนรินท์พงศ์ กล่าวว่า ไม่มี ตนยืนยันได้ว่า ตนไม่ได้ถูกล็อบบี้จากใครเลย แต่เชื่อมั่นว่าถ้าพี่น้องไปป่วยอยู่ในคุก แล้วคนบอกว่าเอาออกไปทำไม เขายังไม่ตายเลย แต่สุดท้ายเขากลับตาย ดังนั้นแพทย์ต้องคำนึงถึงความเจ็บป่วย ไม่ใชว่าหัวใจเต้นแล้วไม่เอาเข้าไป แล้วพอตายก็ไปฟ้องหมอ แล้วหมอบอกว่าเขายังไม่วิกฤติ แต่พอคนตายแล้วใครรับผิดชอบ คือวันนี้ที่ต้องโดนด่าคือจริยธรรมของแพทยสภาไม่มี เพราะลืมนกหวีดไว้ข้างหลังตอนแถลงข่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี