ถือว่าไม่อายฟ้าดิน! "โรม"ชี้"เรียงหิน"วีโต้"มติแพทยสภา" แข็งขันหน้าที่ป้อง"นายใหญ่" ทำกระบวนการยุติธรรมเหลือทน ไม่รู้ประเทศไทยจะเป็นอย่างไร รับตอบไม่ได้กระทบพิจารณาคดี 13 มิ.ย.หรือไม่
เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน (ปชน.) ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ในฐานะสภานายกพิเศษ ได้มีการทำหนังสือวีโต้ถึงแพทยสภา ภายหลังมีมติ กรณีพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจชั้น 14 ของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า ในเชิงข้อเท็จจริง จะต้องนำข้อเท็จจริงทางการแพทย์ การที่แพทยสภาออกมาชี้ค่อนข้างชัดว่า ไม่ได้อยู่ในภาวะวิกฤต ก็สมควรที่จะจบแล้ว ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็เคยพูดในสภาว่า ถึงที่สุดก็ให้แพทยสภาเป็นคนตัดสิน ฉะนั้น เมื่อไม่วิกฤต ความจำเป็นที่นายทักษิณจะต้องรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลตำรวจต่อไป ก็จบแล้ว นั่นหมายความว่า กระบวนการทั้งหมด ที่มีการนำนายทักษิณไปอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นเรื่องของการช่วยเหลือกัน เพื่อทำให้นายทักษิณไม่ติดคุก แต่ให้ไปอยู่สบายๆ ยังไม่นับ ข้อเท็จจริง ที่ห้องพยาบาล อาจจะเรียกว่า หรูหราเกินความจำเป็น ทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า นายทักษิณได้รับสิทธิพิเศษที่เหนือกว่าคนอื่น
นายรังสิมันต์ กล่าวต่อว่า ส่วนในแง่ของการที่จะลงโทษคนที่เกี่ยวข้องนั้น คนที่เป็นหมอ ก็คงจะอยู่ในกระบวนการว่าทางแพทยสภาจะยืนยันกลับไปอีกครั้งหรือไม่ ภายหลังจากที่นายสมศักดิ์วีโต้กลับมา ตนไม่สามารถทำนายล่วงหน้าได้ แต่หวังว่า แพทยสภาจะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา โดยยึดเอาพยานหลักฐาน สิ่งที่เถียงไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องของความเห็น และคิดไปถึงมาตรฐานในอนาคต ว่าหากเป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ วันนี้มีนายทักษิณนอนอยู่ที่ชั้น 14 วันต่อไปจะเป็นใคร ต่อไปนี้หมอสามารถรับงานแบบนี้โดยที่ไม่สนใจกระบวนการยุติธรรม และเรื่องของวิชาชีพ ไปช่วยคนดังคนมีอำนาจ ประเทศไทยจะอยู่กันอย่างไร
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ขณะที่เรื่องความสง่างามของนายสมศักดิ์ ที่ใช้กระบวนการวีโต้กลับมา เราทุกคนทราบว่านายสมศักดิ์อยู่พรรคอะไร นายทักษิณมีอำนาจ มีอิทธิพลต่อใคร และเป็นพ่อของนายกรัฐมนตรี ก็ยิ่งเป็นการซ้ำเติมให้กรณีชั้น 14 เป็นเรื่องของการช่วยเหลือพวกพ้อง ต้องยอมรับว่า กระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ ไม่อายฟ้าดิน ไม่ได้สนใจว่าประชาชนจะมองต่อปรากฏการณ์นี้อย่างไร และทำให้เกิดมาตรฐานที่เลวร้ายต่อไปเรื่อยๆ
"ลำพังในอดีตที่มีนักโทษอภิสิทธิ์ชนก็แย่พอแล้ว วันนี้เรามาเจอนักโทษเทวดาในรูปแบบกระบวนการยุติธรรมของเรามันเหลือจะทน เราคงไปหวังพึ่งนายสมศักดิ์ไม่ได้แล้ว หากจะให้พูดง่ายๆ นายสมศักดิ์มีหน้าที่ปกป้องนายใหญ่" นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็คงต้องติดตาม ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการของศาล หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หวังว่า จะทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา ไม่ใช่ทำหน้าที่จนนำไปสู่การมีข้อครหา ในเรื่องการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตนรู้สึกว่า กระบวนการของ ป.ป.ช.ช้ามากเหลือเกิน นายกรัฐมนตรี ควรจะไปให้การได้แล้ว และควรมีการเรียกนายทักษิณเข้าไปให้การได้แล้ว ตนมองว่า กระบวนการเร็วกว่านี้ได้ แต่ยังไม่เห็นความคืบหน้าเท่าไหร่
เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า คณะกรรมการสภานายกพิเศษ จะลงมติไปในทิศทางเดียวกัน เนื่องจากจำเป็นต้องใช้เสียงถึง 48 เสียง ในการวีโต้ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ตนไม่สามารถทำนายได้ แต่หวังว่าสิ่งที่แพทยสภาจะทำ เป็นสิ่งที่สังคมไทยจับตามอง หากสุดท้ายกลายเป็นกระบวนการช่วยเหลือนายทักษิณ สังคมไทยจะหมดศรัทธาในหมอไปมาก
"กรณีของนายทักษิณ ชัดยิ่งกว่าชัด พฤติกรรมของนายทักษิณ ตั้งแต่ที่ก่อนจะกลับมาประเทศไทย ถ้าจำกันได้ คุณอุ๊งอิ๊งค์ พูดชัดเจนว่า พ่อสบายดี มาถึงสนามบินก็ยิ้มแย้มแจ่มใส สามารถอุ้มหลานได้ ผ่านไป 10 ชั่วโมงในเรือนจำนายทักษิณกลายเป็นคนที่ป่วยปางตาย ผมว่ามันไม่เมคเซนส์ ยังไม่รวมข้อเท็จจริง เรื่องการใช้โทรศัพท์มือถือ ทุกองค์กรควรรู้ว่า การทำหน้าที่ของตนเอง นำมาซึ่งศรัทธาประชาชน" นายรังสิมันต์ กล่าว
นายรังสิมันต์ ยังกล่าวด้วยว่า วันนี้ในหลายภาคส่วน ก็ต้องยอมรับเรื่องปัญหาคอร์รัปชัน ความไร้ประสิทธิภาพของการบังคับใช้กฎหมาย ประชาชนสูญสิ้นศรัทธาไปเยอะแล้ว เราหวังว่าหมอจะไม่ถูกนับรวมไปด้วย ส่วนการวีโต้ในครั้งนี้ จะทำให้น้ำหนักในการนำไปเป็นพยานหลักฐานคดีที่จะมีการตัดสินในวันที่ 13 มิ.ย.นี้ หรือไม่นั้น ตอบไม่ได้ ต้องไปดูในรายละเอียด นายสมศักดิ์ก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงเนื้อหาสาระของการวีโต้ ตนจึงตอบไม่ได้ว่าสุดท้ายแล้วจะส่งผลอย่างไร แต่ก็ต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง ในเมื่อข้อเท็จจริงชัดว่า นายทักษิณป่วยวิกฤติเป็นเรื่องเท็จ คงต้องรอดู หากนายสมศักดิ์ไม่ดำเนินการในการให้รายละเอียด คงต้องพิจารณาว่า คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐกิจการชายแดน ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งตนเป็นประธาน จะมีการพิจารณาเรื่องนี้หรือไม่
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี